ทำไมคุณถึงควรใช้มือถือ Android ?

ปัจจุบันนี้ตลาดสมาร์ทโฟนถูกครอบครองโดย 2 ระบบปฏิบัติการใหญ่ๆ ได้แก่ iOS ของ Apple และ Android ของ Google โดยส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Android เพราะเป็นระบบเปิด (open source) ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแต่ละแบรนด์สามารถนำไปพัฒนาเองได้ จึงมีความหลากหลาย และมีคุณสมบัติหลายอย่างแตกต่างไปจาก iOS ของ iPhone สำหรับใครใช้ iPhone มาตลอด และไม่กล้าเปลี่ยนเป็น Android วันนี้เรามี 6 เหตุผลที่คุณควรจะเปลี่ยนไปใช้มือถือ Android มาให้ลองพิจารณากันดูครับ

1. มีหลายราคาให้เลือก

หากคุณต้องการมือถือไว้ใช้งานสักเครื่อง ถ้าคุณเลือกซื้อ iPhone คุณจะต้องมีเงินอย่างน้อย 14,900 บาทสำหรับ iPhone SE ความจุ 64GB แต่ถ้าคุณเลือกซื้อมือถือ Android แค่ 8,000 บาทก็ซื้อมือถือดีๆ ไว้ใช้งานได้แล้ว ซึ่งมีสเปกที่แรงพอให้ใช้งานทั่วๆ ไปได้อย่างไม่ติดขัด และมีฟีเจอร์สำคัญให้ใช้ครบ ช่วยให้คุณประหยัดเงินไปได้มากทีเดียว หรือถ้าต้องการมือถือสเปกไฮเอนด์ ก็มีรุ่นราคา 20,000 - 40,000 บาทให้เลือกเช่นกัน ซึ่งก็มาพร้อมกับสเปกที่จัดหนักจัดเต็ม แถมสเปกบางอย่างยังอาจจะเหนือกว่า iPhone ด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าไม่ว่าคุณจะมีเงินเท่าไหร่ มือถือ Android มีตัวเลือกให้คุณเสมอครับ

2. สเปกหลากหลาย เลือกได้ตรงใจ

ด้วยความที่มือถือ Android มีหลายแบรนด์ หลายราคา ทำให้มีสเปกที่หลากหลายตามไปด้วย ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป บางรุ่นเน้นแบตอึด, บางรุ่นเน้นชาร์จไว, บางรุ่นเน้นจอสวย, บางรุ่นเน้นถ่ายภาพ หรือบางรุ่นก็เป็นเกมมิ่งโฟนที่เน้นเล่นเกมโดยเฉพาะ ที่สำคัญคือแต่ละรุ่นนั้นมากับความสามารถพิเศษเฉพาะตัว เช่น vivo X70 Pro ที่มีระบบกันสั่นแบบกิมบอล, Samsung Galaxy S21 Ultra ที่ซูมได้ไกลถึง 100 เท่า, ROG Phone 5 ที่มีไฟ RGB และปุ่มเสริม หรือ Mi 11 Ultra ที่มีจอด้านหลัง เป็นต้น ทำให้คุณสามารถเลือกมือถือที่มีสเปกตรงกับความต้องการของตัวเองได้อย่างตรงจุดที่สุดครับ

3. สเปกจัดเต็มไม่มีกั๊ก

วงการสมาร์ทโฟนมีการแข่งขันสูง ผู้ผลิตแต่ละแบรนด์จึงต้องงัดเอานวัตกรรมใหม่ๆ และสเปกมาแข่งกัน ทำให้มือถือ Android รุ่นเรือธงมักจะมาพร้อมกับสเปกที่จัดเต็มไม่มีกั๊ก ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตระดับท็อป, RAM ความเร็วสูงที่ให้มาแบบเหลือเฟือ, ระบบชาร์จไวทะลุ 100W, ชุดกล้องความละเอียดสูงพร้อมเลนส์เสริมครบทุกระยะ ขณะเดียวกันซอฟต์แวร์ภายในยังมีลูกเล่นมากมาย ทำให้คุณได้สัมผัสความแรง และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอยู่เสมอ

4. ลงแอปนอกสโตร์ได้

ปกติแล้วมือถือ Android สามารถดาวน์โหลดแอปต่างๆ ได้จาก Google PlayStore แต่จริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดจาก PlayStore ก็ได้ เพราะยังมีสโตร์อื่นๆ อีกหลายแห่งให้เลือก เช่น QooApp, Aptoide, Amazon เป็นต้น ซึ่งบางแห่งก็จะมีแอป exclusive ให้โหลดด้วย หรือถ้าไม่อยากติดตั้งผ่านสโตร์ ก็ยังมีทางเลือกให้ติดตั้งแอปแบบ APK ซึ่งก็ได้ไม่ยาก เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปที่เป็นไฟล์ APK เข้ามาในเครื่อง แล้วติดตั้ง ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ช่วยให้คุณมีอิสระในการลงแอปที่ชอบได้โดยไม่มีอะไรมาปิดกั้น

5. โมดิฟายได้ดั่งใจ

เสน่ห์ของมือถือ Android คืออิสระในการปรับแต่ง ที่ผู้ใช้สามารถดัดแปลงระบบภายในได้เกือบทุกอย่าง (ถ้ารู้วิธี) ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างฟอนต์ตัวอักษร, ธีม, UI, Launcher ไปจนถึงการเปลี่ยน ROM ไปเป็น ROM โซนอื่น เพื่อให้ได้อัปเดตซอฟต์แวร์เร็วขึ้น หรือดัดแปลงการทำงานของตัวเครื่องในเชิงลึกให้มีคุณสมบัติตามต้องการ เช่น ควบคุม CPU ให้ทำงานที่ความเร็วต่ำเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หรือบังคับให้ CPU ทำงานด้วยความเร็วสูงสุดตลอดเวลา อย่างที่พี่ๆ ไรเดอร์นิยมใช้กันเพื่อให้กดรับงานเร็วขึ้น เป็นต้น ดังนั้นถ้าคุณชอบการโมดิฟาย มือถือ Android ตอบโจทย์แน่นอน แต่ต้องขอเตือนกันไว้ก่อนว่าการแก้ไขหรือดัดแปลงระบบจะทำให้มือถือหมดประกันทันที และอาจทำให้เครื่องพังได้ง่ายๆ หากทำไม่ถูกวิธี จึงควรศึกษาให้มั่นใจก่อนลงมือทำครับ

6. สแกนนิ้วได้

ในยุคที่ต้องใส่หน้ากากอนามัยกันตลอดเวลา การปลดล็อกสมาร์ทโฟนด้วยการสแกนใบหน้าจึงเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ iPhone รุ่นใหม่ๆ ที่รองรับเฉพาะการสแกนใบหน้า (FaceID) เท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่ใช้มือถือ Android เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่มักจะรองรับทั้งการสแกนใบหน้า และการสแกนลายนิ้วมือกันอยู่แล้ว หากสแกนหน้าไม่ติด ก็ยังมีสแกนนิ้วให้ใช้ ซึ่งปลดล็อกได้สะดวก และรวดเร็วทันใจไม่แพ้กัน เหมาะกับการใช้งานในยุคนี้มากๆ ครับ

มาถึงตรงนี้ก็ต้องขอเน้นยำกันเหมือนเช่นเคยว่าบทความนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะตัดสินว่ามือถือ Android ดีกว่า iPhone เพียงแต่เป็นการแนะนำข้อดีของมือถือฝั่ง Android เท่านั้น เพื่อให้ทุกท่านได้ตัดสินใจเลือกสมาร์ทโฟนที่ตรงกับความต้องการของตัวเองที่สุดได้ง่ายขึ้นครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobile center om

วันที่ : 25/11/2564

Leave a Comment