รีวิว Samsung Galaxy J6 สมาร์ทโฟนจอ Super AMOLED ไร้ขอบไซส์ใหญ่ พร้อมกล้องหน้า 3-Step Lighting, สแกนใบหน้า, Android 8.0 และ Dolby Atmos ในราคาเพียง 6,990 บาท:: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟนจอ Super AMOLED ไร้ขอบไซส์ใหญ่ พร้อมกล้องหน้า Selfie Focus ปรับแสง 3 ระดับ, กล้องหลัง f/1.9 13 ล้านพิกเซล, สแกนใบหน้า+สแกนนิ้ว, Android 8.0 Oreo สดใหม่, ระบบเสียง Dolby Atmos, แชท 2 แอคเคานท์ และผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby บนตัวเครื่อง Unibody สวยโค้งมน รุ่นใหม่ที่น่าใช้ ในราคาเบาๆ เพียง 6,990 บาท

Review Date (21-มิถุนายน-2561)

สำหรับสมาร์ทโฟนในตระกูล J-Series นั้นจัดอยู่ในกลุ่มของสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ซึ่งมีคุณสมบัติตัวเครื่อง หรือฟีเจอร์ต่างๆ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปเป็นหลัก อีกทั้งยังมีราคาวางจำหน่ายที่ผู้ใช้สามารถจับต้องได้ง่ายอีกด้วย และล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ทาง Samsung ก็ได้วางจำหน่ายสมาร์ทโฟน J-Series รุ่นใหม่ ได้แก่ Samsung Galaxy J4 และ Samsung Galaxy J6 โดยสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่น ก็มาพร้อมคุณสมบัติเด่นๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผล Super AMOLED แบบไร้ขอบ, กล้องถ่ายภาพที่รองรับฟีเจอร์ Selfie Focus สำหรับการถ่ายเซลฟี่แบบละลายฉากหลัง, ไฟแฟลชแบบ 3-Step Lighting ที่กล้องดิจิทัลด้านหน้าซึ่งสามารถปรับความสว่างได้ 3 ระดับ สำหรับถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย และผู้ช่วยอัจฉริยะนามว่า Bixby , มีระบบเสียง Dolby Atmos และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ กับระบบการสแกนใบหน้า เรียกได้ว่าสืบสอดความสามารถอันโดดเด่นหลายๆ อย่างมาจากสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายเลยก็ว่าได้

ซึ่งในวันนี้ทางทีมงานไทยโมบายเซ็นเตอร์ก็ขอนำเอา Samsung Galaxy J6 มารีวิวให้ชมกันก่อน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีจุดขายหลักทีน่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody , หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ HD+ (1480x720 พิกเซล) ขนาด 5.6 นิ้ว แบบไร้ขอบ บนอัตราส่วน 18.5:9 , รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า,มีฟังก์ชัน Secure Folder บวกกับฟังก์ชัน Dual Messenger รวมแล้วจึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือแอปพลิเคชันอีกหลายตัวที่รองรับ ได้พร้อมกันถึง 3 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน, รองรับฟังก์ชัน Multi Window สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, มีระบบสแกนใบหน้า กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby , สำรองข้อมูลผ่านบริการ Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB , รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos , รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

นอกจากนี้ ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน โดยกล้องดิจิทัลด้านหลังนั้นมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED ในตัว ส่วนกล้องดิจิทัลด้านหน้านั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 , พร้อมฟังก์ชัน Selfie Focus และไฟแฟลช LED ที่ปรับแสงได้ 3 ระดับ ด้วยฟังก์ชัน 3-Step Lighting

สำหรับคุณสมบัติด้านการประมวลผลของ Samsung Galaxy J6 นั้นจัดว่าอยู่ในระดับเริ่มต้น-กลาง ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7 Octa 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP1, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB , หน่วยความภายใน (ROM) ขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง Android 8.0 Oreo

โดย Samsung Galaxy J6 นั้นเปิดราคาวางจำหน่ายเบาๆ เพียง 6,990 บาท ซึ่งจากข้อมูลที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy J6 มีคุณสมบัติเด่นอยู่ไม่น้อย ทั้งในเรื่องของการออกแบบดีไซน์, กล้องถ่ายภาพ, ระบบเสียง และฟีเจอร์ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย เรียกได้ว่าบางฟีเจอร์ ยกเอามาจากสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้เราจะไปทดสอบพร้อมๆ กันว่า Samsung Galaxy J6 นั้นตอบโจทย์การใช้งานด้านต่างๆ ได้ดีเพียง ไปชมพร้อมกันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Samsung Galaxy J6 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ HD+ (1480x720 พิกเซล) ขนาด 5.6 นิ้ว ในแบบ Infinity Display อัตราส่วน 18.5:9 โดยมีขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 149.3x70.2x8.2 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 154 กรัม

ด้านหน้าส่วนบนมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 และไฟแฟลช LED พร้อมรองรับฟังก์ชัน 3-Step Lighting กับ Selfie Focus, เซ็นเซอร์ Accelerometer ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีปุ่มการสั่งงานแบบ On Screen ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มฟังก์ชันใดๆ ให้ใช้งาน

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเชื่อมต่อกับหูฟังแบบมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน และช่องเชื่อมต่อกับสาย microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือโอนถ่ายข้อมูล

ด้านขวาของตัวเครื่องมีลำโพงเสียงภายนอก ซึ่งมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos และปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง หรือล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่ม-ลด ระดับเสียง, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 1, ถาดสำหรับใส่ซิมการ์ดที่ 2 พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD

ด้านหลังของตัวเครื่องมีกล้องดิจิทัลความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ f/1.9, ไฟแฟลช (LED Flash) และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ตัวเครื่องของ Samsung Galaxy J6 นั้นใช้เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรูดูน่าใช้งาน และมีแบตเตอรี่ 3000 mAh บรรจุอยู่ภายใน

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Samsung Galaxy J6 ขับเคลื่อนการด้วยระบบปฏิบัติการ Android OS เวอร์ชัน 8.0 Oreo ที่ครอบทับด้วย Samsung Experience เวอร์ชัน 9.0 พร้อมรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด และสามารถรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G ได้ทั้งสอง 2 ซิมการ์ด (ต้องเลือกใช้งาน 4G LTE ซิมการ์ดใดซิมการ์ดหนึ่ง) รวมถึงรองรับการสนทนาผ่านระบบ VoLTE

นอกจากนี้ Samsung Galaxy J6 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Adaptive Wi-Fi โดยตัวฟังก์ชันจะช่วยในเรื่องของการเชื่อมต่อ WiFi ที่เคยใช้งานให้แบบอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้อยู่ในระยะของสัญญาณ และจะทำการปิดการเชื่อมต่อเมื่อผู้ใช้อยู่นอกระยะของสัญญาณ ซึ่งช่วยเพื่อความสะดวดสบาย และยังช่วยประหยัดพลังงานไปในตัวอีกด้วย

มาพร้อมกับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB พร้อมรองรับการเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 256 GB

มีฟังก์ชันการแจ้งเตือน พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น โหมดประหยัดพลังงาน หรือการเปิดใช้งานระบบเสียง Dolby Atmos

มีบริการจาก Google ให้ใช้งานหลากหลาย เช่น Google Maps หรือ Gmail

สำหรับฟังก์ชันโทรศัพท์ก็มีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมด้วยปุ่มตัวเลขที่พอดีกับนิ้วมือ ช่วยให้กดหมายเลขที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบาย และสามารถเข้าดูรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมดได้ทันที

สามารถปรับแต่งหน้าจอโฮมสกรีนได้ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนภาพวอลเปเปอร์, การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนรูปแบบไอคอนแอปพลิเคชัน หรือการนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับโหมดหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทได้ ไม่ว่าจะเป็น Adaptive Display, AMOLED Cinema, AMOLED Photo และ Basic แต่อย่างไรก็ดีบน Samsung Galaxy J6 นั้นไม่มีฟังก์ชัน Always On Display ให้ใช้งาน

อีกหนึ่งความน่าสนใจของ Samsung Galaxy J6 คือ รองรับฟังก์ชัน Multi Window สำหรับใช้งานพร้อมกันสองแอปพลิเคชันบนสองหน้าต่าง

ทางด้านฟังก์ชัน Smart Manager นั้นสามารถจัดการส่วนต่างๆ ภายในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเช่นเคย ได้แก่ การเคลียร์แรม, การสแกนไวรัส และการตรวจสอบหน่วยความจำภายในว่ายังสามารถใช้งานได้อีกเท่าไหร่

สามารถเปิดใช้งานโหมดการประหยัดพลังงานขั้นสูงได้ พร้อมทั้งสามารถแสดงรายละเอียดต่างๆ บนเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างครบถ้วน

ในส่วนของแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่าย จะสามารถแสดงภาพถ่ายได้หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแสดงแบบแยกอัลบั้ม อีกทั้งยังสามารถค้นหาภาพถ่ายที่ได้การได้ผ่านไอคอนแว่นขยาย ซึ่งเมื่อกดเลือกที่ไอคอนแว่นขยายตัวแอปพลิเคชันอัลบั้มภาพถ่ายจะทำการแยกหมวดหมู่ภาพถ่ายให้แบบอัตโนมัติ เช่น ประเภทของภาพถ่าย, บุคคลในภาพถ่าย, ภาพถ่ายเอกสาร หรือภาพถ่ายอาหาร นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถนำภาพถ่ายต่างๆ หรือเฉพาะภาพที่ต้องการมาสร้างเป็นอัลบั้มแยก แล้วนำไปแชร์ผ่านแอปพลิชันโซเชียลเน็ตเวิร์กได้อีกด้วย

อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ มีบริการสำรองข้อมูลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น รูปภาพ, วิดีโอ และรายชื่อผู้ติดต่อทั้งหมด ผ่านบริการ Samsung Cloud ซึ่งผูใช้สามารถใช้พื้นที่สำหรับสำรองข้อมูลผ่านบริการ Samsung Clound ได้มากถึง 15 GB เลยทีเดียว

อีกหนึ่งในความพิเศษของ Samsung Galaxy J6 คือ ความสามารถในการโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน Line, Facebook และ Skype ได้ด้วยฟีเจอร์ Dual Messenger ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินเข้าใช้งานแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์

และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Samsung Galaxy J6 มีแอปพลิเคชัน Secure Folder โดยแอปพลิเคชัน Secure Folder นั้นมีหน้าที่ในการล็อก หรือตั้งรหัสผ่านสำหรับเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Secure Folder นั่นหมายความว่าหากผู้อื่นจะเข้ามาใช้งานในส่วนนี้ก็จำเป็นต้องปลดล็อกด้วยรหัสผ่านเสียก่อน ซึ่งความสามารถของแอปพลิเคชัน Secure Folder คือ การมีพื้นที่หน่วยความจำแยกที่ถูกเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานได้นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือ Facebook ได้เพิ่มอีก 1 แอคเคานท์ เรียกได้ว่า ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือ Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 2 แอคเคานท์นั่นเอง และถ้ารวมกับแอปพลิเคชัน Line ที่ถูกโคลนนิ่งออกมา ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือ Facebook ได้พร้อมๆ กันถึง 3 แอคเคานท์ เลยทีเดียว

ในส่วนของแอปพลิเคชันที่เหมือนผู้ช่วยสำหรับดูแลเรื่องสุขภาพอย่างแอปพลิเคชัน Samsung Health ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J6

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบน Samsung Galaxy J6 สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ ซึ่งการเปิดใช้งานระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนลายนิ้วมือให้เรียบร้อยเสียก่อน และจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็ตอบสนองต่อการใช้งานได้รวดเร็วแม่นยำ

นอกเหนือไปจากระบบสแกนลายนิ้วมือแล้ว สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ยังรองรับระบบสแกนใบหน้าด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับความปลอดภัยในการเข้าใช้งานเครื่องขึ้นไปอีกขั้น

Samsung Galaxy J6 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby ด้วยเช่นกัน เพียงแต่จะไม่มีปุ่มกดเรียกเหมือนรุ่นเรือธง โดยในหน้า Bixby Home เป็นหน้า Dashboard ที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างที่เราทำเป็นประจำ รวมถึงกิจกรรมที่หน้าสนใจมารวมไว้ในหน้าเดียวกัน

ทางด้านแอปพลิเคชัน Microsoft ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ PowerPoint ก็มีให้ใช้งานบน Samsung Galaxy J6 ด้วยเช่นกัน

Samsung Galaxy J6 ยังมาพร้อมแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลง และมีระบบเสียง Dolby Atmos ให้ใช้งาน (ระบบเสียงนี้ต้องใช้ร่วมงานกับหูฟังเท่านั้น)

สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบในการฟังวิทยุ FM ก็มีสามารถฟังผ่านแอปพลิเคชัน วิทยุ FM ได้ทันที

สามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD (1080) ได้อย่างไหลลื่น และด้วยความที่เป็นหน้าจอแสดงผลไร้ขอบแบบ Infinity Display พร้อมอัตราส่วน 18.5:9 จึงทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมภาพยนตร์ที่ชื่นชอบได้อย่างเต็มตา

Samsung Galaxy J6 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7 Octa 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP1, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB, หน่วยความภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.0 Oreo

โดยคุณสมบัติการประมวลของ Samsung Galaxy J6 นั้นจัดอยู่ในระดับกลาง แต่จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกสามมิติสวยๆ รายละเอียดเยอะๆ ก็พบว่า Samsung Galaxy J6 สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ไหลลื่นกว่าที่คาดเอาไว้ อีกทั้งยังไม่มีการสะสมความร้อนสะสมที่ตัวเครื่องอีกด้วย

และเมื่อนำ Samsung Galaxy J6 ทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน Geekbench 4 พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 731คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Single-Core และ 3714 คะแนน สำหรับการประมวลผลแบบ Multi-Core

ส่วนการทดสอบผ่านแอปพลิเคชัน AnTuTu 3DRating Benchmark พบว่าได้คะแนนอยู่ที่ 8887 คะแนน

Samsung Galaxy J6 นั้นรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 5 จุด

และสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ มาใช้งานเพิ่มเติมได้ผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Apps หรือ Google Play Store

กล้องดิจิทัล ถ่ายภาพนิ่ง และถ่ายภาพวิดีโอ

มาต่อในเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้าง โดย Interface กล้องถ่ายภาพด้านหลังนั้นมีหน้าตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ เอาไว้ให้เลือกใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งยังมีการปรับในเรื่องของโหมดถ่ายภาพที่จะแสดงที่แถบด้านบน ซึ่งผู้ใช้สามารถเลื่อนซ้าย หรือขวา เพื่อเปลี่ยนโหมดถ่ายภาพได้ทันที เรียกได้ว่า สะดวกสบายต่อการใช้งานมากขึ้น

โดยโหมดถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้หลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมดถ่ายภาพกลางคืน หรือโหมดถ่ายภาพ AR Sticker

ทางด้านเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

สำหรับ Interface กล้องถ่ายภาพด้านหน้านั้นก็มีหน้าตาที่ไม่ต่างกัน ซึ่งก็ใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนฟังก์ชันต่างๆ ไว้ให้เลือกใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น การสลับใช้งานกล้องด้านหน้า-ด้านหลัง, การปรับสัดส่วนหน้าจอ, การเปิดใช้งานฟังก์ชัน 3-Step Lighting และยังมีโหมดถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดถ่ายภาพหน้าสวย โหมดถ่ายภาพ Sefie Focus หรือโหมดถ่ายภาพเซลฟี่แบบกลุ่ม

สำหรับความพิเศษของกล้องดิจิทัลด้านหน้าคือ ตัวไฟแฟลช LED มาพร้อมฟังก์ชัน 3-Step Lighting สำหรับช่วยปรับแสงของไฟแฟลชได้ทั้งหมด 3 ระดับ ซึ่งช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ทางด้านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยก็สามารถปรับค่าผิวเนียนได้มากถึง 8 ระดับ

อีกหนึ่งความน่าสนใจของกล้องถ่ายภาพด้านหน้า คือ มีโหมดถ่ายภาพ Selfie Focus ให้ใช้งาน สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยโหมดถ่ายภาพนี้จะทำการเบลอฉากหลังให้แบบอัตโนมัติ และสามารถใช้งานร่วมกับปรับค่าผิวเนียนได้อีกด้วย

อีกทั้งยังมีเอฟเฟกต์สติกเกอร์ให้ใช้งานหลายรูปแบบ ส่วนทางด้านเอฟเฟกต์สำหรับถ่ายภาพก็มีให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมได้ เริ่มตั้งแต่ การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหลัง ที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) และการตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ

การเลือกความละเอียดของกล้องถ่ายภาพด้านหน้า ที่สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p), การตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพ และการเปิดใช้งานฟังก์ชันการสั่งงานถ่ายภาพด้วยท่าทางได้

สามารถเปิดใช้งานตารางเก้าช่อง, การแท็กสถานที่บนภาพถ่าย, ตรวจสอบภาพถ่าย, การเปิดใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบด่วนด้วยการดับเบิลคลิกที่ปุ่มโฮม และการสั่งงานด้วยเสียง ได้, สามารถเพิ่มความสามารถให้กับปุ่มลดระดับเสียงได้ 3 แบบ ได้แก่ ถ่ายภาพ, ถ่ายวิดีโอ หรือลดระดับเสียง และสามารถคืนการตั้งค่าทั้งหมดได้

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.9 ของ Samsung Galaxy J6

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพกลางคืน

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับสูงสุด

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ AR Sticker

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่าย AR Sticker

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/1.9 ผ่านโหมดถ่ายภาพหน้าสวยของ Samsung Galaxy J6

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพปกติ

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าผิวเนียนระดับสูงสุด

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพหน้าสวย พร้อมปรับค่าระดับกลาง และเปิดใช้งานฟังก์ชัน Selfie Focus

ตัวอย่างภาพที่ถ่ายด้วยโหมดถ่ายภาพ AR Sticker

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy J6

จบลงไปแล้วนะครับ สำหรับการรีวิวสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นของ Samsung ในตระกูล J-Series อย่าง Samsung Galaxy J6 ซึ่งถ้าหากมองกันตั้งแต่ภายนอก หรือดีไซน์การออกแบบ ก็ต้องขอบอกเลยว่าทาง Samsung นั้นออกแบบ Samsung Galaxy J6 มาได้อย่างเรียบหรูลงตัวดูน่าใช้งาน อันเนื่องมากจากการใช้เทคโยโลยีการผลิตแบบ Unibody นั่นเอง นอกจากนี้ ด้านหลังของ Samsung Galaxy J6 ยังเป็นพื้นผิวแบบด้าน และขอบตัวเครื่องยังมีความโค้งมน ซึ่งเมื่อจับ หรือถือ ก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัวแม้จะเป็นมือเรียวเล็กของคุณสุภาพสตรีก็ตาม และด้วยความที่ฝาหลังเป็นพื้นผิวแบบด้าน จึงเกิดคราบเปื้อน หรือรอยนิ้วมือได้ยากอีกด้วย

ซึ่งนอกจากจะมีการออกแบบดีไซน์ ที่โดดเด่นแล้ว ทางด้านกล้องถ่ายภาพก็ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED ในตัว โดยจากที่ทดสอบถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆ ก็พบว่ากล้องถ่ายภาพด้านหลังนั้นสามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างคมชัด มีสีสันที่สมจริง อีกทั้งยังมีโหมดถ่ายภาพกลางคืนให้ใช้งาน เรียกได้ว่า สามารถถ่ายภาพได้คมชัดในทุกสภาวะแสง อีกหนึ่งความพิเศษคือ มีโหมดถ่ายาพ AR Sticker (มีให้ใช้งานทั้งกล้องหน้า-กล้องหลัง) โดยมีสติกเกอร์ให้เลือกถ่ายภาพหลายรูปแบบ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สนุกสนานไปกับการถ่ายภาพได้เพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของกล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 , ไฟแฟลช LED ก็ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ดีเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังทำงานร่วมกับโหมดถ่ายภาพหน้าสวยได้อย่างลงตัว ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ก็ดูเนียนตาเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายภาพเน้นตัวแบบให้มีความโดดเด่นได้ด้วยการเบลอฉากหลังผ่านโหมดถ่ายภาพ Selfie Focus ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวแบบดูโดดเด่นขึ้นแล้ว ทางด้านการตัดขอบก็ยังทำออกมาได้ในระดับที่พอใจเป็นอย่างมากและที่พิเศษไปกว่านั้น ยังมีฟังก์ชัน 3-Step Lighting ให้ใช้งาน จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาวะแสงน้อยได้อีกด้วย

สำหรับคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัว เริ่มตั้งแต่ หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1480x720 พิกเซล ขนาด 5.6 นิ้ว ในแบไร้ขอบ ที่มีอัตราส่วน 18.5:9 , รองรับฟังก์ชันการถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า, มีฟังก์ชัน Secure Folder บวกกับฟังก์ชัน Dual Messenger รวมแล้วจึงสามารถใช้งานแอปพลิเคชัน Line หรือแอปพลิเคชันอีกหลายตัวที่รองรับ ได้พร้อมกันถึง 3 แอคเคานท์ในเครื่องเดียวกัน,รองรับฟังก์ชัน Multi Window สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน, รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง, มีระบบสแกนใบหน้า กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, รองรับฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby , สำรองข้อมูลผ่านบริการ Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB , รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมช่องแยกสำหรับเพิ่มการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD, รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบ 4G LTE กับ 3G, รองรับระบบเสียง Dolby Atmos , รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) และแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh

ทางด้านคุณสมบัติด้านการประมวลผล ไม่ว่าจะเป็น Octa-Core Exynos 7 Octa 7870 ที่มีความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz, หน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Mali-T830 MP1, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB , หน่วยความภายในขนาด 32 GB และขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.0 Oreo ก็ตอบโจทย์ต่อการใช้งานด้านต่างๆ ได้อย่างไหลลื่น ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานพร้อมๆ กัน 2 แอปพลิเคชัน หรือแม้แต่การเล่นเกมยอดนิยมในบ้านเรา ที่มีกราฟิกแบบสามมิติอย่างPUBG Mobile หรือ RoV ก็สามารถเล่นได้ ถึงแม้จะมีอาการหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลต่อการเล่นแต่อย่างใด และไม่มีการสะสมความร้อนที่ตัวเครื่องให้พบเจอขณะเล่นเกมอีกด้วย

และจากการทดสอบทั้งหมดที่ผ่านมา ก็พอที่จะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy J6 น่าจะเหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมกับดีไซน์เรียบหรูจับถือสะดวก, กล้องถ่ายภาพได้คมชัดทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง, มีหน้าจอไร้ขอบสำหรับรับชมคอนเทนท์ได้อย่างเต็มตา และคุณสมบัติตัวเครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ในราคาย่อมเยาที่ใครๆ ก็เป็นเจ้าของได้ ซึ่ง Samsung Galaxy J6 ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

หากท่านใดที่สนใจ Samsung Galaxy J6 ก็สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Samsung Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ในราคาเพียง 6,990 บาท สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy J6 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy J6

- ตัวเครื่องใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ Unibody จึงทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบหรูดูน่าใช้งาน - รองรับระบบ สแกนใบหน้า กับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Sensor) สำหรับตรวจสอบสิทธิ์ของการเข้าใช้งานเครื่อง และการเข้าถึงข้อมูลภายใน - จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ความละเอียด 1480x720 พิกเซล ขนาด 5.6 นิ้ว ในแบบ Infinity Display อัตราส่วน 18.5:9 พร้อมหน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP1 - ฟังก์ชันถนอมสายตาด้วยการลดแสงสีฟ้า - รองรับฟังก์ชัน Multi Window สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน - รองรับฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby - ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Exynos 7 Octa 7870 ความเร็วในการประมวลผล 1.6 GHz - หน่วยประมวลผลภาพกราฟิกโดยเฉพาะ (GPU : Graphics Processing Unit) แบบ Mali-T830 MP1 - ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 8.0 Oreo - หน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลขนาด 32 GB และรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) - กล้องดิจิทัลด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งมีขนาดรูรับแสง f/1.9 พร้อมไฟแฟลช LED, มีโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) - กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ซึ่งมีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุด f/1.9 พร้อมไฟแฟลชในตัว (LED Flash) พร้อมฟังก์ชัน 3-Step Lighting, Selfie Focus กับโหมดถ่ายภาพหน้าสวย และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD (1080p) - รองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual SIM) - สามารถใส่ใช้งานได้พร้อมกันทั้งซิมการ์ดที่ 1, ซิมการ์ดที่ 2 และการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับเทคโนโลยีการสื่อสารทางเสียงผ่านโครงข่าย 4G (Voice over LTE) - ระบบ GPS+A-GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง) - รองรับเทคโนโลยีเสียง Real Original Sound (ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อกับหูฟังเสียก่อนถึงจะสามารถเปิดใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้) - มีวิทยุ FM ในตัว - ชนิดแบตเตอรี่แบบ Li-Ion ขนาด 3000 mAh พร้อมรองรับการเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน - สำรองข้อมูลผ่านบริการ Samsung Cloud ได้สูงสุด 15 GB - แอปพลิเคชัน Secure Folder กับฟังก์ชัน Dual Messenger พร้อมรองรับการใช้งาน Line/Facebook ได้ 3 แอคเคานท์พร้อมกันภายในเครื่องเดียว - ราคา 6,990 บาท

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy J6

- หน้าจอมีความละเอียดที่ระดับ HD+ ยังไม่ถึงระดับ FHD+ - หน่วยความจำ ROM/RAM มีขนาด 32GB/3GB ซึ่งถือว่าไม่มากนักหากเทียบกับสมาร์ทโฟนบางรุ่นในระดับราคาเดียวกัน - ไม่รองรับฟังก์ชัน Always-On Display - ไม่มีปุ่มเรียกใช้งาน Bixby - ไม่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง - ไม่รองรับการใช้บริการ Samsung Pay ผ่าน NFC หรือ MST - ตัวเครื่องเป็นพลาสติก ในขณะที่สมาร์ทโฟนในระดับราคาที่ใกล้เคียงกันบางรุ่นเป็นโลหะ

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้เป็นเพียงเครื่องทดสอบจากทางศูนย์ เพราะฉะนั้นคุณสมบัติบางอย่างอาจมีความแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริงบ้างไม่มากก็น้อย รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบหรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง *

Leave a Comment