แท็บเล็ตเรือธงใหม่ล่าสุด แรงระดับท็อป พร้อมปากกาอัจฉริยะ และกล้องคู่ บนบอดี้สุดพรีเมียม ด้วยจอ Super AMOLED 10.5 นิ้ว กับระบบสแกนนิ้วบนหน้าจอ, ปากกา S Pen บลูทูธใหม่ใหญ่เข้ามือ กับการสั่งงานด้วยท่าทาง, ชิปเซ็ต Snapdragon 855 ตัวท็อป, RAM สูงสุด 8GB, ROM สูงสุด 256GB, แบตเตอรี่ชาร์จเร็วสุดอึด 7040 mAh, กล้องคู่ Ultra Wide และลำโพง AKG จัดเต็ม 4 ตัว บนบอดี้โลหะสวยบางเฉียบ
3 ตุลาคม 2019 - นอกเหนือไปจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปีอย่าง Samsung Galaxy S10 Series และ Samsung Galaxy Note10 Series แล้ว ทาง Samsung ประเทศไทย ยังได้ส่งแท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่อย่าง Samsung Galaxy Tab S6 เข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยเช่นกัน โดยโดดเด่นตั้งแต่การดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบ พร้อมกับฟีเจอร์ภายในครบครันทุกการใช้งานในระดับไฮเอนด์
Samsung Galaxy Tab S6 ผลิตตัวเครื่องจากวัสดุประเภทโลหะอลูมิเนียม กับ ความหนาเพียง 5.7 มิลลิเมตร โดยมีน้ำหนัก 420 กรัม ที่สามารถพกพาติดตัวไปไหนมาไหนได้ค่อนข้างสะดวก พร้อม แถบแม่เหล็ก ที่ด้านหลังตัวเครื่อง สำหรับเก็บปากกา S-Pen บลูทูธรุ่นใหม่ พร้อมชาร์จแบตเตอรี่ในตัว ซึ่งตัวปากกา S-Pen จะมีสีเดียวกับตัวเครื่อง กับขนาดใหญ่พอดีมือ และเบาคล้ายปากกาจริง โดยรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ พร้อมสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้ จึงรองรับการสั่งงานแบบไร้สาย รวมถึงการสั่งงานด้วยท่าทาง
สำหรับหน้าจอแสดงผลใช้เทคโนโลยี Super AMOLED ขนาดใหญ่เต็มตา 10.5 นิ้ว คมชัดระดับ WQXGA (2560x1600 พิกเซล : อัตราส่วน 16:10) พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนหน้าจอแบบ On-Screen Optical Fingerprint Scanner และยังมีลำโพง 4 ตัว (Quad Speakers) อยู่รอบตัวเครื่อง ที่ได้รับการปรับจูนเสียงจาก AKG พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos สำหรับถ่ายทอดเสียงแบบรอบทิศทางแบบ 3D Surround
ด้านสเปกจัดเต็มสมกับระดับเรือธง ด้วย ชิปเซ็ต Qualcomm (SDM8150) Snapdragon 855 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.84 GHz โดยมากับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 640 จับคู่หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีกสูงสุด 1TB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ถูกครอบทับด้วย One UI รวมถึงแบตเตอรี่ความจุ 7040 mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน และมีระบบชาร์จความเร็วสูง
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อัปเกรดขึ้นบน Samsung Galaxy Tab S6 ก็คือกล้องถ่ายภาพตัวหลักที่ด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) แบ่งออกเป็นเลนส์ Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 123 องศา พร้อมรองรับฟีเจอร์ Live Focus ที่สามารถเลือก Bokeh ได้ 4 รูปแบบ, ฟังก์ชัน Scene Optimizer ในการตรวจจับซีนต่างๆ พร้อมปรับค่าให้อัตโนมัติ และฟีเจอร์น้องใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับบน Galaxy Note10+ อย่าง AR Doodle โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง
จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า Samsung Galaxy Tab S6 มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องระดับพรีเมียม พร้อมฟีเจอร์ที่อัปเกรดขึ้นแบบครบครัน กับ ราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมการ รีวิว Samsung Galaxy Tab S6 พร้อมกันได้เลยค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQXGA (1600x2560 พิกเซล : 287 ppi) ในอัตราส่วน 16:10 บนตัวเครื่องมีขนาด 244.5x159.5x5.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 420 กรัม
หน้าจอส่วนบนประกอบด้วย กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และติดตั้งเซ็นเซอร์ Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
รวมถึงรองรับระบบการสแกนใบหน้า (Face Recognition) สำหรับปลดล็อกหน้าจอ
ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent Apps, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ Full Screen Gestures ในการใช้นิ้วลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการแบบต่างๆ ได้ด้วย
หนึ่งในจุดเด่นที่น่าสนใจของ Samsung Galaxy Tab S6 ก็คือการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนหน้าจอแบบ Optical (On-Screen Fingerprint)
ที่ด้านบนของตัวเครื่องประกอบด้วย 2 ใน 4 ของลำโพงเสียงภายนอก ที่ได้รับการปรับจูนเสียงจาก AKG พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos สำหรับถ่ายทอดเสียงแบบรอบทิศทาง 3D Surround, ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และแถบเสารับสัญญาณที่ด้านซ้าย กับด้านขวา
ที่ด้านล่างประกอบก็มี ลำโพงเสียงภายนอกอีก 2 ตัว พร้อมด้วยแถบเสารับสัญญาณที่ด้านซ้าย กับด้านขวา และพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีพอร์ตสำหรับ Keyboard Cover ซึ่งจะวางจำหน่ายแยก
และที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบด้วย ถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM พร้อมอีก 1 ช่องสำหรับ microSD Card ที่ความจุสูงสุด 1TB, ไมโครโนตัวหลักสำหรับสนทนา, ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ
Samsung Galaxy Tab S6 มีตัวเครื่องที่ผลิตจากโลหะอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง พร้อมแทบแม่เหล็กสำหรับเก็บ และชาร์จปากกา S-Pen ในตัว โดยตัวเครื่องที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ได้ชมกันเป็นสีเทา (Mountain Gray)
กล้องตัวหลักที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy Tab S6 เป็นแบบคู่ (Dual Camera) แบ่งออกเป็นเลนส์ Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยมีพิกเซลขนาด 1 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้าง F/2.0 เก็บภาพมุมกว้าง 80 องศา รวมถึงฟังก์ชัน Live Focus และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน รูรับแสงกว้าง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา
สำหรับปากกา S-Pen จะมีสีเดียวกับตัวเครื่อง กับขนาดพอดีมือ และเบาคล้ายปากกาจริง โดยรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth ซึ่งเมื่อนำมาติดกับแถบแม่เหล็กที่ด้านหลังตัวเครื่องจะถือเป็นการชาร์จแบตไปในตัว
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย User Interface โฉมใหม่อย่าง One UI โดยรองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ nano-SIM และการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE
มีหน่วยความแรม (RAM) ขนาด 6GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดที่ขนาด 1TB
เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Notification Center ซึ่งเป็นหน้ารวมสำหรับการแสดงแจ้งเตือนต่างๆ และเมื่อปัดลงอีกหนึ่งครั้งจะเป็นการขยายหน้าจอปุ่มลัด (Quick Panel) สำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชันต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ
โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งตำแหน่งของคีย์ลัด เองได้ตามความถนัด
เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้นๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่ม Close All ที่ด้านล่าง หรือกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่เมนูลัด
เมื่อปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby เพียงแต่จะไม่มีปุ่มกดเรียก โดยในหน้า Bixby Home เป็นหน้า Dashboard ที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างที่เราทำเป็นประจำ รวมถึงกิจกรรมที่หน้าสนใจมารวมไว้ในหน้าเดียวกัน
และสามารถการตั้งค่าการเรียกใช้งาน Bixby ได้ที่เมนู Side Key
เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการ ปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งของไอคอน พร้อมเลือกใช้งาน Widget และภาพพื้นหลังที่ต้องการได้
เมื่อปัดหน้าจอจากด้านขวาจะเจอกันแถบเมนูลัด และสามารถปรับตำแหน่งเมนูต่างๆ ได้
Samsung Galaxy Tab S6 สามารถเลือกตั้งค่าการแสดงผลแบบปกติ หรือแบบ Night Mode ที่จะปรับพื้นหลังให้เป็นสีดำ
พร้อมฟังก์ชันการตัดแสงสีฟ้า Blue Light Filter
มีโหมดการแสดงผลมาตรฐานมาให้เลือกทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ Natural และ Vivid ที่ให้สีสันสดใส และยังสามารถปรับตั้งค่า White Balance ได้เองอีกด้วย
สามารถปรับขนาดตัวอักษร และการซูมหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละท่านได้
สามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลของหน้าจอได้ 2 แบบ
สามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้ หรือเลือกใช้งานการควบคุมแบบ Full Screen Gestures ในการปัดหน้าจอขึ้นลักษณะต่างๆ เพื่อสั่งการ
และปรับเปลี่ยนดีไซน์ กับสีของนาฬิกาในหน้า Lockscreen ได้
สำหรับรูปแบบของ Screen Lock มีด้วยกัน 5 รูปแบบ
รวมถึงรองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์สแกน ลายนิ้วมือที่ฝังอยู่บนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) แบบ Optical ที่สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ
และการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ที่สามารถระบุได้ว่าเราสวมใส่แว่นตาเป็นประจำหรือไม่ เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่สวมแว่นตาโดยเฉพาะ
สามารถตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ และตั้งค่าการใช้งานปากกา S-Pen ได้ที่เมนู Air Action
โดยเมื่อนำปากกา S-Pen มาวางติดไว้ที่แถบแม่เหล็กด้านหลังตัวเครื่องจะเป็นการชาร์จไฟนั่นเอง
เมื่อใช้ปากกา S-Pen สัมผัสที่ปุ่ม Air Action ที่อยู่ด้านข้างหน้าจอ จะปรากฎแถบแนะนำการใช้งานปากกา และเมนูลัดต่างๆ
โดยสามารถเลือกเมนูที่ต้องใช้งานเพิ่ม พร้อมปรับแต่งตำแหน่งของคีย์ลัดเองได้ตามความถนัด
โดยเมนูที่น่าสนใจได้แก่ Create Note สำหรับสร้างบันทึกในทันที
View All Notes จะเข้าสู่หน้ารวมทุกโน้ตที่ได้ทำการบันทึกไว้
Smart Select สำหรับสกรีนช็อตหน้าจอในตำแหน่งที่เลือก รวมถึงสร้างไฟล์ GIF ได้ยาวสุด 15 วินาที
ตัวอย่างไฟล์ GIF จากฟังก์ชัน Smart Select
Screen Write ในการเขียนลงบนหน้าจอ ณ ขณะนั้นได้ทันที และสามารถเลือกแชร์ให้กับเพื่อน หรือบันทึกไว้ได้
ตัวอย่างภาพที่ได้จากฟังก์ชัน Screen Write
Live Messages จะเป็นการสร้างไฟล์ GIF ตามลำดับการเขียน หรือวาดด้วยปากกา S-Pen
ตัวอย่างไฟล์ GIF จากฟังก์ชัน Live Messages
และ AR Doodle โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง
รวมถึงฟังก์ชัน Screen Off Memo ในการเขียนบันทึกต่างๆ ตอนล็อกหน้าจอ
Samsung Galaxy Tab S6 รองรับโหมดที่น่าสนใจอย่าง DeX Mode กับการทำงานแบบคอมพิวเตอร์ PC โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง DeX Station หรือ DeX Pad เพียงกดที่เมนู Samsung DeX ที่อยู่ใน Quick Panel โดยเมนูต่างๆ จะอยู่ที่ด้านล่างหน้าจอ คล้ายกับคอมพิวเตอร์ PC
เริ่มจากด้านซ้ายสุดเป็นเมนูควบคุมหลัก ใช้ออกจาก DeX Mode หรือเข้าสู้การตั้งค่า DeX Labs
ถัดมาเป็นปุ่ม App Drawer สำหรับเข้าสู่หน้าแอปพลิเคชันทั้งหมด และเป็นปุ่ม Recent Apps, Home, ปุ่มย้อนกลับ ตามลำดับ
รวมถึงการแสดงแอปพลิเคชันที่เปิดค้างไว้ทั้งหมด โดยมีลูกศรให้เลื่อนไปมาได้
และมีแถบการแจ้งเตือน ที่สามารถกดเพื่อดูรายละเอียดได้ทันที
ต่อมาเป็นแถบสถานะการเชื่อมต่อ WiFi, Bluetooth พร้อมสถานะแบตเตอรี่ และปุ่มเข้าสู่เมนูลัดต่างๆ (Quick Panel) สำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชันต่างๆ มากมาย
และแถบที่ด้านขวาสุด ประกอบด้วยเมนูเรียกแป้นพิมพ์, ตั้งค่าเสียงแจ้งเตือน, การสกรีนช็อต, ค้นหา และวันที่
ใน DeX Mode สามารถใช้งานต่างๆ ได้เหมือนกับคอมพิวเตอร์ปกติ โดยเปิดใช้งานได้พร้อมกันหลายหน้าจอ และสามารถพับหน้าต่างที่ไม่ต้องใช้งานไว้ก่อนได้ เรียกได้ว่าเพียงครู่เดียวก็สามารถใช้งานเมนูต่างๆ ได้อย่างคล่องมือ
นอกจากนี้ยังมีโหมด Kids Home โหมดการใช้งานสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
ในโหมดนี้มี Interface เป็นตัวการ์ตูน และมีแอปพลิเคชันให้ติดตั้งแบบจำกัด
โดยผู้ใช้ในฐานะผู้ปกครองสามารถตั้งค่าโปรไฟล์ ของเด็ก และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ในเครื่อง และเว็บไซต์ พร้อมจำกัดระยะเวลาการเล่นในแต่ละวันได้ด้วย
และการตั้งค่าทุกอย่าง รวมถึงการออกจาก Kids Home จะมีการถามรหัสผ่านทุกครั้ง (เป็นรหัสผ่านชุดเดียวกับที่ใช้ปลดล็อกตัวเครื่อง) เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ แอบเข้ามาแก้ไขการตั้งค่าเอง
หากตรงกับวันเกิดที่ตั้งไว้ในโปรไฟล์ของเด็ก Kids Home ก็จะมีเซอร์ไพรส์น่ารักๆ ให้ด้วย
ในโหมด Kids Home จะประกอบด้วย Crocro's Friends Village เกมเสริมทักษะที่เด็กๆ สามารถสร้างบ้านของคร็อคโครและผองเพื่อนได้ โดยเลือกได้ว่าจะให้แต่ละชั้นเป็นร้านอะไรบ้าง เช่น ร้านอาหาร หรือร้านขายเสื้อผ้า เป็นต้น
Bobby's Canvas แอปพลิเคชันวาดรูประบายสี ซึ่งมีให้เลือกวาดได้ 4 แบบ
Lisa's Music Band แอปพลิเคชันเล่นเพลงที่เด็กๆ สามารถเล่นดนตรีประกอบจังหวะไปพร้อมกับเพลงได้ด้วยการกดที่ตัวการ์ตูนรูป เครื่องดนตรี
Cooki's Video แอปพลิเคชันสำหรับดูคลิปวิดีโอ ซึ่งผู้ปกครองสามารถเลือกเพิ่มวิดีโอที่ต้องการให้กับเด็กๆ ได้
My Magic Voice แอปพลิเคชันที่จะบันทึกเสียง และเล่นเสียงที่บันทึกออกมาเป็นเอฟเฟกต์ของตัวการ์ตูนต่างๆ ซึ่งเด็กๆ สามารถเลือกได้ตามใจชอบ
Crocro Adventure เกมฝึกทักษะที่เด็กๆ จะต้องช่วยคร็อกโครเดินทางผ่านอุปสรรคต่างๆ ด้วยการเรียงลำดับจิ๊กซอว์ให้ถูกต้อง
My Phone แอปพลิเคชันสำหรับโทรศัพท์ ซึ่งเด็กๆ จะติดต่อได้เฉพาะหมายเลขในสมุดรายชื่อที่ผู้ปกครองตั้งค่าไว้เท่านั้น โดยไม่สามารถกดเลขหมายอื่นๆ เองได้
My Camera แอปพลิเคชันถ่ายรูปสำหรับเด็ก ที่มีสติกเกอร์ต่างๆ ให้ตกแต่งรูปตามใจชอบ
My Gallery เป็นแกลเลอรี่สำหรับดูรูปภาพ และวิดีโอในเครื่อง ซึ่งผู้ปกครองสามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้เข้าถึงไฟล์ใดในเครื่องได้บ้าง
My Browser เด็กๆ สามารถท่องเว็บไซต์ได้เองด้วยเช่นกัน แต่เฉพาะเว็บไซต์ที่ผู้ปกครองอนุญาตเท่านั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ได้อีกด้วย
สุดท้ายกับ My Art Studio แอปพลิเคชันสำหรับฝึกจินตนาการของเด็กๆ ที่สามารถวาดรูประบายสีตามที่ต้องการ
รวมถึงสร้างสติกเกอร์ที่ใช้ร่วมกับการถ่ายภาพ ได้ โดยเลือกระบายสีตามแบบที่มีให้ หรือวาดเองใหม่ได้
Samsung Galaxy Tab S6 รองรับฟังก์ชัน Smart Pop-up View สำหรับการย่อแอปพลิเคชันให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่าง อิสระ, ปรับขนาดได้ และทำงานอย่างอื่นไปพร้อมๆ กันได้
เมื่อกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันจะพบกับเมนูลัด ต่างๆ
Samsung Galaxy Tab S6 มีแบตเตอรี่ความจุ 7040 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานสูงสุดที่ช่วยยืดระยะเวลาในการใช้งานออกไป แลกกับการใช้งานฟังก์ชันเบื้องต้นได้เท่านั้น
รองรับฟังก์ชัน Split-Screen View ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน
หนึ่งในฟังก์ชันเด่นของ Samsung Galaxy Tab S6 ก็คือ สามารถปรับแต่งวิดีโอได้
ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อเลือกเฉพาะช่วงใดช่วงนึง พร้อมใส่ฟีลเตอร์ที่ให้อารมณ์แตกต่างไปจากเดิม
ปรับค่าผิวเนียน, ตาโต และโทนสีผิวได้
สามารถเพิ่มข้อความต่างๆ ทั้งจากการพิมพ์ และเขียนด้วยปากกา S-Pen รวมถึงใส่สติกเกอร์เพิ่มได้
รวมถึงความเร็วในการเล่นวิดีโอ และเสียง
SmartThings แอปพลิเคชันสำหรับจัดการกับระบบบ้านอัจฉริยะ ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมควบคุมการทำงานได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ก็มีให้ใช้บน Samsung Galaxy Tab S6 ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung ประทับใจมานานแล้วก็คือ Galaxy Gift นั่นเอง เพราะเหมือนกับเป็นศูนย์รวมโปรโมชั่น, ส่วนลด หรือของฟรี ต่างๆ มากมาย เพื่อผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung โดยเฉพาะ ทั้งอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม, ที่พัก, บัตรชมภาพยนตร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์เสริม และอีกมากมาย
Samsung Members ที่เปรียบเหมือนแอปพลิเคชันบริการหลังการขายเคลื่อนที่ ด้วยช่องทางการแจ้งปัญหาการใช้งานแบบออนไลน์, การสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่, สิทธิพิเศษ และเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมการทดสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งาน ได้ดี ไหลลื่น และสามารถแสดงเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยสามารถเลือกให้แสดงผลแบบปกติ และแบบ Night Mode
พร้อมปรับขนาดตัวอักษร และตั้งค่าอื่นๆ ได้
รวมถึงตั้งค่า Ad Blockers สำหรับปิดการรบกวนจากโฆษณาต่างๆ บนเว็บไซต์
นอกจากนี้ Samsung Galaxy Tab S6 ยังมีฟีเจอร์ Game Launcher ที่รวมเกมทั้งหมดภายในเครื่องมารวมไว้ในที่เดียวกัน พร้อมฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่นฟังก์ชันประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม หรือปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม รวมถึงตัวเลือกให้ซ่อนไอคอนเกมบนหน้าจอหลัก โดยจะให้แสดงอยู่ใน Game Launcher เท่านั้น และเลือกรับ หรือไม่รับการแจ้งเตือนจากเกมได้
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันปรับค่าประสิทธิภาพ ให้เราเลือกได้ว่าจะให้ระบบรันเกมโดยลดประสิทธิภาพลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หรือรันโดยเน้นประสิทธิภาพการเล่นเกมขั้นสูงสุดโดยไม่ต้องสนใจแบตเตอรี่ และสามารถตั้งค่าแยกเฉพาะแต่ละเกมได้ด้วย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้เราปรับประสิทธิภาพการเล่นเกมให้เหมาะกับสถานการณ์มากขึ้น เช่นการเปิดบอททิ้งไว้ ซึ่งเราไม่ได้ต้องการกราฟิกสวยๆ หรือความลื่นไหล แต่ต้องการเปิดทิ้งไว้ให้นานที่สุด ในทางกลับกัน เมื่อเราเล่นเกมด้วยตัวเอง เราก็ต้องการให้ตัวเกมลื่นไหลที่สุด และมีกราฟิกสวยงาม เป็นต้น
เมื่อเล่นเกมในโหมด Game Launcher จะมีเมนูลัดเพิ่มเข้ามาในแถบนำทาง ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าการบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ และการโทรได้ พร้อมเมนูลัดเพิ่มเข้ามาในแถบนำทาง ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าการบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ และการโทรได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ แบบ Pop-Up ขณะเล่น และการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อเปิดเกมทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่ง
โดยในโหมดล็อกหน้าจอ ระบบจะลดความสว่างของหน้าจอ, ล็อกการสัมผัส และลดเฟรมเรตของตัวเกมลง แต่เกมจะยังคงรันต่อไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับการเปิดบอททิ้งไว้ เพราะประหยัดพลังงานกว่าการเปิดเกมไว้ตลอด และช่วยป้องกันการสัมผัสปุ่มต่างๆ โดยไม่ตั้งใจได้
สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Samsung Galaxy Tab S6 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor
Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm (SDM8150) Snapdragon 855 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.84 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 640, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 1TB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI
Samsung Galaxy Tab S6 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 365,155 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 4 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 3,540 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 10,809 คะแนน
สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 5,282 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 4,742 คะแนน
Samsung Galaxy Tab S6 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง PUBG Mobile, Marvel Future Fight และ Naruto X Boruto NINJA VOLTAGE พบว่า Samsung Galaxy Tab S6 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง
Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQXGA (1600x2560 พิกเซล : 287 ppi) ในอัตราส่วน 16:10 จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ 2K ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส ผสานลำโพงเสียง 4 ตัว (Quad Speakers) ที่ปรับจูนเสียงจาก AKG พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos ช่วยให้เข้าถึงทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือเล่นเกม
การใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ
Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมกับระบบกล้องหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13 + 5 ล้านพิกเซล โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และสัดส่วนภาพถ่าย
รวมถึง Beauty ปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ
และเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้
ฟังก์ชัน Live Focus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ กับโบเก้ 4 รูปแบบ ได้แก่ Blur, Spin, Zoom และ Color Point พร้อมสามารถปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ โดยสามารถปรับระดับความเบลอภายหลังได้ด้วย
ตัวอย่างการถ่ายภาพมุมปกติ และมุมกว้างแบบ Ultra-Wide Angle
ในโหมดการถ่ายภาพปกติมีเทคโนโลยี Scene Optimizer ที่เป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ
พร้อมการถ่ายภาพในเวลากลางคืนด้วยโหมด Night
และในโหมด Food สำหรับถ่ายภาพอาหารโดยเฉพาะ
สำหรับการถ่ายโหมด Pro บน Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด
รวมถึงการถ่ายภาพในมุมกว้างแบบ Panorama
ด้านการถ่ายวิดีโอ Samsung Galaxy Tab S6 สามารถถ่ายในมุมมองปกติ และมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultra-Wide ได้ โดยรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD และสามารถใส่ฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้
พร้อมฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแบบ Hyperlapse
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ AR Doodle ใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับบน Galaxy Note10+ โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง
สำหรับกล้องหน้าของ Samsung Galaxy Tab S6 มีความคมชัดระดับ 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ F/2.0 โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน เหมือนกับกล้องหลัง ได้แก่ การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และสัดส่วนภาพถ่าย
รวมถึง Beauty ปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ
และฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้
รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยฟังก์ชัน Live Focus กับโบเก้ 4 รูปแบบ ได้แก่ Blur, Spin, Zoom และ Color Point พร้อมปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ โดยสามารถปรับระดับความเบลอภายหลังได้เช่นกัน
และสติกเกอร์น่ารักๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายเซลฟี่
กล้องหน้าของ Samsung Galaxy Tab S6 มาพร้อมกับ AR Emoji ในการสร้างอวาตารของผู้ใช้ในรูปแบบการ์ตูน 3 มิติ ที่สามารถปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า ร่างกาย รวมถึงการแต่งตัวได้ตามใจชอบ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดเครื่องแต่งกายได้เพิ่มเติมที่แอปพลิเคชัน Galaxy Store ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
พร้อมตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าของผู้ใช้ ที่สามารถเลือกถ่ายแบบเฉพาะส่วนหัว และเปลี่ยนสีพื้นหลังได้
และฟังก์ชัน Mini Motion ในการถ่ายภาพคู่กับอวาตารที่เราสร้างขึ้น พร้อมตรวจจับท่าทางของผู้ใช้ และเคลื่อนไหวตามนั่นเอง
นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา รวมถึงภาพพื้นหลังของอวตารที่สร้างขึ้นได้
และยังสร้างเป็นสติ้กเกอร์เลื่อนไหวในท่าทาง ต่างๆ พร้อมแชร์ให้กับเพื่อนได้ทันที โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง เพิ่มสติ้กเกอร์ และเพิ่มข้อความลงไปได้อีกด้วย
ด้านการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้ารองรับความ ละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD+
โดยรองรับโหมด Beauty ที่สามารถปรับค่าผิวเนียนได้ 3 ระดับ
และสามารถเพิ่มฟีเตอร์แบบต่างๆ ได้
รวมถึงรองรับฟีเจอร์ AR Doodle ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังแบบคู่ (Dual Camera) ความละเอียดระดับ 13+5 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy Tab S6
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายมุมกว้างในโหมด Ultra-Wide
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายมุมกว้างในโหมด Ultra-Wide
ภาพถ่ายจากโหมด Food
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Blur
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Spin
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Zoom
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Color Point
ภาพถ่ายเวลากลางคืนในโหมด Night
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ Samsung Galaxy Tab S6
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิด Beauty ที่ระดับ 1
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิด Beauty ที่ระดับ 2
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิด Beauty ที่ระดับ 3
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Blur
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Spin
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Zoom
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus โบเก้แบบ Color Point
ภาพถ่ายพร้อมสติ้เกอร์
ภาพถ่ายจากโหมด AR Emoji
ตัวอย่างภาพจากฟีเจอร์ AR Doodle
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy Tab S6
จากการทดสอบทั้งหมดในข้างต้นพอจะกล่าวได้ ว่า Samsung Galaxy Tab S6 เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่น่าสนใจที่สุด ณ ชั่วโมงนี้ ด้วยฟีเจอร์ระดับเรือธงจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซ็ต Qualcomm (SDM8150) Snapdragon 855 ที่มากับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 640 พร้อม RAM 6GB+ROM 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 1TB บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI และมีแบตเตอรี่ความจุ 7040 mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน รวมถึงรองรับการใช้งานใน โหมด DeX กับ การทำงานแบบคอมพิวเตอร์ PC โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง DeX Station หรือ DeX Pad ซึ่งถือว่าใช้งานได้ง่าย และไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวมาก พร้อมพกพาติดตัวไปได้ง่ายๆ ทุกที่ ด้วย ความหนาตัวเครื่องเพียง 5.7 นิ้ว และน้ำหนักกำลังดีที่ 420 กรัม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกแทนการพกพาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
Samsung Galaxy Tab S6 มี หน้าจอขนาด 10.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Super AMOLED ความละเอียดระดับ WQXGA (2560x1600 พิกเซล : อัตราส่วน 16:10) ที่แสดงผลได้อย่างคมชัด และมีสีสันสดใส จึงสามารถชมคอนเทนต์ที่ความละเอียด 2K QHD 1440p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส ผสานกับลำโพงเสียง 4 ตัว (Quad Speakers) รอบ ตัวเครื่อง ที่ได้รับการปรับจูนเสียงจาก AKG พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos สำหรับถ่ายทอดเสียงแบบรอบทิศทาง 3D Surround ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์เรื่องโปรดก็ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
ปากกา S-Pen ของ Samsung Galaxy Tab S6 ถือเป็นตัวช่วยที่ขาดไปไม่ได้ กับความสามารถในการเชื่อมต่อ Bluetooth พร้อมฟีเจอร์ Air Action กับเมนูที่ช่วยให้การโน้ตข้อความต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น, ฟังก์ชัน Screen Off Memo ในการเขียนบนหน้าจอพร้อมบันทึกได้ทันที แม้ตอนล็อกหน้าจอ และยังสามารถตัดต่อวิดีโอ พร้อมเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ลงไปได้
ด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Tab S6 ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน กับการอัปเกรดขึ้นมาเป็นแบบคู่ (Dual Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 123 องศา โดยรองรับฟังก์ชัน Live Focus เปลี่ยน Bokeh ได้ 4 รูปแบบ, ฟังก์ชัน Scene Optimizer, โหมด Food, โหมด Night และรองรับการบันทึก วิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD พร้อมฟังก์ชัน AR Doodle น้องใหม่แบบเดียวกับใน Galaxy Note10+ โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง ส่วน กล้อง หน้าคมชัด 8 ล้านพิกเซล รองรับฟังก์ชัน Live Focus ที่เปลี่ยน Bokeh ได้ 4 รูปแบบได้เช่นเดียวกัน พร้อมกับ AR Emoji ใน การสร้างอวตารรูปแบบ 3 มิติ และมีสติ้กเกอร์รูปแบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาพเซลฟี่
นอกเหนือไปจากฟีเจอร์เด่นข้างต้น Samsung Galaxy Tab S6 ยังรองรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชัน Screen-Split View ที่สามารถใช้งาน 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกัน และ Smart Pop-Up View สำหรับการย่อแอปพลิเคชันให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่าง อิสระ, ปรับขนาดได้ และทำงานอย่างอื่นไปพร้อมๆ กันได้
และยังมีแอปพลิเคชันพิเศษสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ท โฟน Samsung โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Gift ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่น ส่วนลด รวมถึงของฟรีต่างๆ ทั้งสินค้า และบริการจากแบรนด์ชั้นนำ แบบพิเศษเฉพาะผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung, SmartThings สำหรับจัดการกับระบบบ้านอัจฉริยะ ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมควบคุมการทำงานได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว และ Samsung Members ที่เป็นเหมือนแอปพลิเคชันบริการหลังการขายเคลื่อนที่
และจากการทดสอบทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy Tab S6 เหมาะกับท่านที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสำหรับพกพาติดตัวไปทำงานด้วยได้ทุกที่ทุกเวลา กับความหนาเพียง 5.7 มิลลิเมตร น้ำหนักกำลังดีที่ 420 กรัม บนเทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบไร้รอยต่อด้วยวัสดุอะลูมิเมียมที่แข็งแกร่งพรีเมียม พร้อมกับสเปกระดับเรือธงจัดเต็มครบทุกด้านการใช้งาน และยังสามารถแปลงร่างเป็นโหมด DeX ที่คล้ายกับการทำงานบนคอมพิวเตอร์จริงๆ โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมใดๆ
Samsung Galaxy Tab S6 วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นความจุ ได้แก่ รุ่น 128GB ราคา 25,900 บาท และรุ่น 256GB ราคา 28,900 บาท กับตัวเลือก 3 สีได้แก่ สีเทา (Mountain Gray), สีฟ้า (Cloud Blue) และสีชมพู (Pink) โดยเริ่มว่างจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้าน Samsung Experience Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พร้อมสั่งซื้ออุปกรณ์เสริมในราคาพิเศษ ได้แก่ Galaxy Tab S6 Keyboard Book Cover เพียง 2,990 บาท (จากปกติ 4,590 บาท) และ Galaxy Tab S6 Book Cover เพียง 1,190 บาท (จากปกติ 1,790 บาท) เฉพาะที่ร้าน Samsung Experience Shop และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 20 ตุลาคมนี้
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy Tab S6 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy Tab S6
- เทคโนโลยีการผลิตตัวเครื่องแบบ Unibody ด้วยวัสดุประเภทโลหะอะลูมิเนียม พร้อมความบางเฉียบเพียง 5.7 มิลลิเมตร จึงดูสวยหรูพรีเมียมน่าใช้งาน - ปากกา S-Pen รุ่นใหม่ซึ่งมีขนาดใหญ่เหมาะมือใกล้เคียงกับปากกาจริง พร้อมมีการจัดเก็บด้วยระบบแม่เหล็ก, ระบบชาร์จอัตโนมัติ, การควบคุมแบบไร้สายผ่านบลูทูธ, การสั่งงานด้วยท่าทาง และรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ - หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 16:10 ความละเอียดระดับ WQXGA (1600x2560 พิกเซล : 287 ppi) - ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm (SDM8150) Snapdragon 855 แบบ Octa-Core Processor - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Adreno 640 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB หรือ 8GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB หรือ 256GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) สูงสุดขนาด 1TB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย One UI - กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบคู่ (Dual Camera) แบ่งออกเป็นเลนส์ Wideความละเอียด 13 ล้านพิกเซล โดยมีพิกเซลขนาด 1 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้างF/2.0 เก็บภาพมุมกว้าง 80 องศา รวมถึงฟังก์ชัน Live Focus เปลี่ยน Bokeh ได้4 รูปแบบ และเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พิกเซลขนาด 1.12ไมครอน รูรับแสงกว้าง F/2.2 เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา โดยรองรับฟังก์ชันScene Optimizer, โหมด Food, โหมด Nightและรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD พร้อมฟังก์ชัน ARDoodle โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้า - กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน พร้อมรูรับแสงกว้าง F/2.0 รองรับฟังก์ชัน Live Focus เปลี่ยน Bokeh ได้ 4 รูปแบบ และ AR Emoji - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) - ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition) - ลำโพง 4 ตัว (Quad Speakers) ที่ได้รับการปรับจูนเสียงจาก AKG พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos สำหรับถ่ายทอดเสียงแบบรอบทิศทาง 3D Surround - ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby - รองรับโหมด DeX และ Kids Home - แบตเตอรี่ความจุ 7040 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง - ฟังก์ชัน Split-Screen View แบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE, GPRS และ WiFi Dual Band - ระบบ GPS+A-GPS ในตัว พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS, Beidou ของประเทศจีน และ GALILEO ของสหภาพยุโรป - รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - สิทธิพิเศษในการซื้อสินค้า และบริการต่างๆ ผ่าน Galaxy Gifts - ตัวเลือก 3 สีได้แก่ สีเทา (Mountain Gray), สีฟ้า (Cloud Blue) และสีชมพู (Pink) - ราคา 25,900 บาท (รุ่น RAM 6GB+ROM 128GB) และ 28,900 บาท (รุ่น RAM 8GB+ROM 256GB)
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy Tab S6
