รีวิว Vivo V19 รุ่นใหม่จัดใหญ่ 6 กล้อง พร้อมอัปเกรดชิปแรงขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น ฟีเจอร์ดีขึ้น บนดีไซน์สวยลงตัวกว่า ในราคาหมื่นต้นๆ :: Thaimobilecenter.com

รุ่นใหม่จัดใหญ่ 6 กล้อง พร้อมอัปเกรดชิปแรงขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น ฟีเจอร์ดีขึ้น บนดีไซน์สวยลงตัวกว่า ในราคาหมื่นต้นๆ ด้วยกล้องหน้าคู่ Super Night Selfie 32 ล้านพิกเซล ผสาน 4 กล้องหลัง AI 48 ล้านพิกเซล, จอ Super AMOLED Ultra O Screen 6.44 นิ้ว, ชิปเซ็ต Snapdragon 712, แบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 33W จุใจ 4500 mAh, ROM 128GB+RAM 8GB และฟีเจอร์จัดเต็มกว่าเดิม บนบอดี้สวยพรีเมียมโฉมใหม่ ในราคา 12,999 บาท

5 พฤษภาคม 2020 - ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับรุ่นพี่อย่าง V17 ที่เพิ่งเปิดตัว และวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2020 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นทายาทที่จะมาช่วยสานต่อความสำเร็จแล้ว สำหรับ Vivo V19 สมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดในตระกูล V Series จากทาง Vivo ที่มาในสโลแกน Ignite Your Night ที่เน้นการถ่ายภาพในเวลากลางคืนทั้งกล้องหน้าที่อัปเกรดเป็น กล้องคู่ Super Night Selfie และกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว รวมเป็น มือถือกล้อง 6 ตัวในเครื่องเดียว

Vivo V19 อัปเกรดมาใช้กล้องหน้าคู่ฝังบนหน้าจอแบบ Dual In-Display Selfie ความละเอียด 32+8 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายเซลฟี่ในมุมกว้าง บนการดีไซน์หน้าจอไร้ขอบแบบ Ultra O Screen ขนาดใหญ่ 6.44 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi) ในอัตราส่วนแบบ 20:9 และรองรับฟังก์ชัน Always On Display สำหรับบอกเวลา และการแจ้งเตือนขณะปิดหน้าจอ พร้อมฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) ส่วนฝาหลังครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งรับกับฝ่ามือขณะถือแบบ 3D Curved พร้อมเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ

สำหรับกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) เรียงกันเป็นรูปตัว L พร้อมไฟแฟลชคู่ (Dual LED) ในแถบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มุมบนซ้ายของฝาหลัง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องคอมแพค โดยมี กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องมุมกว้าง Super Wide-Angle ความละเอียดระดับ 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บภาพได้กว้างสุด 120 องศา, กล้อง Bokeh ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ และกล้อง Macro ความละเอียดระดับ 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร ที่ ชูโรงด้วย AI Super Night Mode สำหรับการถ่ายภาพเวลากลางคืน ซึ่งสามารถใช้งานในกล้องหน้าได้ด้วย โดยสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนได้อย่างคมชัดเนียนตา และเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้แบบครบถ้วน รวมถึงฟังก์ชัน Ultra Stable Video สำหรับป้องกันการสั่นไหวขณะบันทึกวิดีโอ ด้วยเทคโนโลยี EIS

ด้านคุณสมบัติของ Vivo V19 อัปเกรดจากรุ่น V17 ด้วย ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 712 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็ว 2.3GHz รองรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และไอน้ำแบบ Copper Tube Liquid Cooling ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ถึง 7 องศาเซลเซียส พร้อมด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 616 , หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB , หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD ได้อีกสูงสุด 256GB โดยมี แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน และเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Vivo FlashCharge 2.0 ที่ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ระดับ 0-54% ได้ภายในเวลา 30 นาที ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่แบบ USB Type-C และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 เวอร์ชันใหม่

จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า Vivo V19 มีจุดเด่นที่น่าสนใจอยู่หลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียมเทียบชั้นเรือธง พร้อมกล้องทั้งหมด 6 ตัวในเครื่องเดียว ที่มีฟังก์ชัน หรือลูกเล่นมากมาย รวมไปถึงฟีเจอร์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน กับราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 12,999 บาท ซึ่งถือว่าจับต้องได้ไม่ยาก ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน ฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด และจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายออกไปหรือไม่ ขอเชิญทุกท่านไปรับชม รีวิว Vivo V19 พร้อมกันได้เลยค่ะ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Vivo V19 มาในแพ็กเกจสีดำสุดคลาสสิก พร้อมชื่อรุ่นที่มีริ้วสีรุ้งเมื่อกระทบกับแสง และจุดเด่นสำคัญของรุ่นอย่างกล้องหน้าคู่ที่ฝังอยู่บนหน้าจอ

ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง, อะแดปเตอร์ Vivo FlashCharge 2.0 (11V/3A), สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, เคสใส, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน

ภาพตัวอย่างการสวมใส่เคสใสที่แถมมาให้ภายในแพ็กเกจ

Vivo V19 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi) และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D บนตัวเครื่องมีขนาด 159.64×75.04×8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 186.5 กรัม

พร้อมรองรับฟังก์ชัน Always On Display

ที่ด้านบนมีเพียงลำโพงสำหรับสนทนา และเซ็นเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน กับเซ็นเซอร์ Ambient Light สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ฝังอยู่บนหน้าจอที่มุมบนขวาแบบ Dual In-Display Selfie ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องรองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างสุดที่ 105 องศา และรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ผ่านการวิเคราะห์โดยปัญญาประดิษฐ์

พร้อมกับรองรับระบบสแกนใบหน้าแบบ Face Access ในการปลดล็อกตัวเครื่อง

ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้ด้วย

รวมถึงรองรับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint)

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง สำหรับตัดเสียงรบกวนภายนอก

ที่ด้านล่างประกอบด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ที่ความจุสูงสุด 256GB ได้ในเวลาเดียวกัน

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มปรับระดับเสียง

ด้านหลังของ Vivo V19 ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 3D Curved รับกับฝ่ามือขณะถือใช้งาน พร้อมเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ โดยสีที่ทางทีมงานนำมาพรีวิวให้ได้ชมกันนั้นเป็นสีเงิน (Sleek Silver)

กล้องหลังของ Vivo V19 มีทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ในดีไซน์ใหม่เรียงกันเป็นรูปตัว L ภายในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกล้องคอมแพค โดยแบ่งออกเป็น

- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79) - กล้องตัวที่สองแบบ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา (F/2.2) - กล้องตัวที่สามแบบ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ (F/2.4) - กล้องตัวที่สี่เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้สูงสุดที่ 4 เซนติเมตร (F/2.4)

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

Vivo V19 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 10 ซึ่งถูกครอบทับด้วย Funtouch OS 10 ที่เป็นเวอร์ชันใหม่ และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G LTE ทั้ง 2 ซิมการ์ด (Dual 4G)

มีหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้สูงสุดที่ขนาด 256GB และมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB

เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้นๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่มไอคอน X (close all) ที่ด้านล่าง

เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการ ปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งของไอคอน  พร้อมเลือกใช้งาน Widget และเอฟเฟ็กต์ในการเลื่อนหน้าจอที่ต้องการได้

เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Notification Center ซึ่งเป็นหน้ารวมสำหรับการแสดงแจ้งเตือนต่างๆ และเมื่อปัดลงอีกหนึ่งครั้งจะเป็นการขยายหน้าจอ Toggle Switch ปุ่มลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชัน ต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth หรือการเปิด-ปิด Dark Mode

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งตำแหน่งของ คีย์ลัดเองได้ด้วย รวมถึง Jovi Smart Scene ที่จะแสดงภาพรวมการใช้งานตัวเครื่อง, Event, การแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ และการนับก้าว พร้อมสรุปพลังงานที่เผาผลาญในเบื้องต้น

เมื่อปัดไปทางขวาจากหน้าโฮมจะเจอกับหน้า Card พื้นที่การแสดงข้อมูลต่างๆ และคอยแนะนำฟีเจอร์ อย่างเช่น สภาพอากาศปัจจุบัน, จำนวนก้าว หรืออีเวนท์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ และยังสามารถจัดการแอปพลิเคชันที่แสดงภายในหน้า Card ได้ รวมทั้ง Shortcuts ทางลัดเข้าถึงแอปพลิเคชัน และเครื่องมือต่างๆ เช่น Speed up สำหรับเคลียร์พื้นที่หน่วยความจำ RAM, เครื่องคิดเลข หรือบันทึกเสียง เป็นต้น โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่ง และจัดตำแหน่งของการ์ดได้ด้วยตนเอง จากการกดเครื่องหมาย + ที่ด้านบน

แอปพลิเคชัน i Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการล้างพื้นที่ (การเคลียร์แรม), ตั้งค่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแต่ละแอปพลิเคชัน หรือการจำกัดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

สำหรับบริการต่างๆ จากทาง Google รวมถึงแอปพลิเคชันพื้นฐาน ก็มีการติดตั้งมาไว้ให้ได้ใช้งานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Calculator, Recorder, Compass และ Feedback

Vivo V19 สามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลของหน้าจอได้อย่างหลากหลาย ได้แก่ การปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ, โหมด Eye Protection และการปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอที่เลือกระดับได้ตามที่ต้องการ

และ Dark Mode ในการเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีดำ

ตัวอย่างการใช้งาน Dark Mode

สามารถเลือกขนาดตัวอักษรได้

Vivo V19 รองรับการแสดงผล 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard Mode (ค่าเริ่มต้น), Normal Mode และ Bright Mode และด้วยดีไซน์ที่เป็นแบบ Ultra O Screen ในอัตราส่วน 20:9 จึงสามารถปรับให้บางแอปพลิเคชันสามารถแสดงผลในสัดส่วนแบบเต็มหน้าจอได้ด้วย

เลือกการแสดงผลของรอยบากที่ด้านบนในแต่ละแอปพลิ เคชันได้

ในเมนู Home Screen สามารถตั้งค่าจำนวนการแสดงผลของไอคอนบนหน้าจอได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ 4x5, 4x6 (ค่าเริ่มต้น) และ 5x6

สามารถเลือกการแสดงผลของ Home Screen Layouts ได้ 2 แบบ ตามความถนัดของผู้ใช้

สามารถปรับค่าความโค้งมนของไอคอนได้

รวมถึงขนาดของไอคอน

สามารถเปิด-ปิด ฟังก์ชัน Lockscreen Magazine ในการเปลี่ยนภาพล็อกหน้าจอทุกครั้งที่เปิดการทำงาน และรูปแบบของหน้า Lockscreen

Vivo V19 มาพร้อมฟีเจอร์ Always On Display ที่สามารถเลือกรูปแบบได้หลากหลาย

สามารถเปลี่ยนธีม และภาพพื้นหลังได้

และยังสามารถเปลี่ยนธีมของตัวเครื่องได้ผ่านแอปพลิเคชัน i Theme

รวมถึง Font ตัวอัปษรรูปแบบต่างๆ และการตั้งค่าอื่นๆ บนหน้าจอได้

นอกจากนี้ยังรองรับการตั้งค่า Animation เมื่อมีการเข้าสู่หน้าโฮมจากการปลดล็อกหน้าจอ

รวมถึงการตั้งค่า Ambient Light Effect ไฟวิ่งแจ้งเตือนรอบจอเมื่อมีการโทรเข้า หรือการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อีกด้วย

สามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Navigation Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของ Vivo V19 มีทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของ เครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ

ที่สามารถเลือกรูปแบบ Icon เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ 4 รูปแบบ และ Animation ขณะปลดล็อกได้ 5 รูปแบบ

และระบบการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Access) ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถลงทะเบียนได้เพียง 1 ใบหน้าเท่านั้น

และสามารถเลือกรูปแบบ Animation ขณะปลดล็อกได้เช่นกัน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 5 รูปแบบ

Vivo V19 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh พร้อมระบบจัดการพลังงานภายในเครื่อง และโหมดประหยัดพลังงานแบบ Low Power Mode ที่เมื่อเปิดใช้งานสัญลีกษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

รวมถึงโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดอย่าง Super Power- Saving Mode ที่ช่วยยืดระยะเวลาในการใช้งานให้นานมากขึ้น แต่แลกกับการใช้งานได้เพียงฟังก์ชันพื้นฐานเท่านั้น

และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 33W Vivo FlashCharge 2.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ระดับ 0-54% ได้ภายในเวลา 30 นาที ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้เร็วยิ่งขึ้น

และสามารถตรวจสอบเวลาที่ใช้ไปในแต่ละแอปพลิเค ชัน รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชันได้

รวมถึง Focus Mode สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาธิ หรือเข้านอน โดยทำการปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบายๆ

ฟังก์ชัน Do Not Disturb สำหรับปิดการแจ้งเตือนทั้งหมดแบบไม่มีการสั่นเตือน ยกเว้นการตั้งปลุกที่ผู้ใช้ตั้งค่าเอาไว้ โดยจะมีสัญลักษณ์รูปพระจันทร์ที่ด้านบนเมื่อเปิดการใช้งาน

รองรับฟังก์ชัน App Clone สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook และ Line จึงทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์

สำหรับฟังก์ชันการใช้งานอัจฉริยะ มาให้ใช้งานบน Vivo V19 ด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบไปด้วย โหมด Smart Wake, Smart turn on/off screen และ Smart Call

ซึ่ง Smart Wake เป็นการวาดตามรูปแบบต่างๆ เพื่อเปิดใช้งานคีย์ลัด เช่น การวาดตัวอักษร C เพื่อเข้าสู่ฟังก์ชันการโทรศัพท์ หรือการวาดตัวอักษร m เพื่อเข้าสู่แอปพลิเคชัน i Music สำหรับฟังเพลง

Smart turn on/off screen การเปิด-ปิด หน้าจอแบบอัจฉริยะ โดยสามารถตั้งค่าให้หน้าจอติดเมื่อยกตัวเครื่องขึ้น หรือสัมผัสหน้าจอ 2 ครั้งติดกันเพื่อเป็นการล็อกหน้าจอ และ Smart Call การโทรอัจฉริยะ

รวมทั้งยังมีโหมดการใช้งานมือเดียว One-handed ซึ่งเป็นการปรับขนาดของแผงตัวเลขโทรศัพท์, แป้นพิมพ์รหัสผ่านให้เล็กลง ซึ่งช่วยให้ใช้งานมือถือด้วยมือเดียวอย่างสะดวกขึ้น และ Smart Click ในการเปิดใช้งานฟังก์ชันเฉพาะในขณะล็อกหน้าจอ

และสามารถเปิดใช้ฟังก์ชัน Easy Touch ปุ่มคีย์ลัดที่สามารถเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งได้

ฟังก์ชัน Smart Split สำหรับแบ่งหน้าจอการใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชัน โดยเน้นไปที่แอปพลิเคชันเกี่ยวกับ Message โดยสามารถตอบแชทได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่

และมีฟังก์ชัน Screen-Split ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน โดยสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ

ตัวอย่างการใช้งานฟังก์ชัน Screen-Split ที่รองรับทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน

สามารถบันทึกภาพสกรีนช็อตได้อย่างรวดเร็วเพียง ลาก 3 นิ้ว จากบริเวณด้านล่างหน้าจอไปยังด้านบน หรือกดปุ่ม Power พร้อมกับปุ่มลดเสียง

และยังสามารถบันทึกภาพสกรีนช็อตแบบยาวได้ด้วย

Vivo V19 ยังมาพร้อมระบบผู้ช่วยอัจฉริยะใหม่ล่าสุดอย่าง Jovi AI Assistant ที่รองรับฟังก์ชัน Smart Camera ประกอบไปด้วย Portrait Mode สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ พร้อมปรับค่าผิวเนียนให้เหมาะกับเพศ, วัย รวมถึงอายุของแต่ละบุคคลได้

AI Scene Identification ในการตรวจจับซีน พร้อมปรับภาพให้สวยแบบอัตโนมัติ และ AI Portrait Framing สำหรับช่วยจัดองค์ประกอบภาพ และช่วยแนะนำมุมสวยขณะถ่าย

Image Recognizer ใช้ในการค้นหาข้อมูลสินค้าที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับแสดงราคา และสถานที่สำหรับซื้อสินค้า

และ Smart Scene การแจ้งเตือนข่าวสารต่างๆ รวมถึงพยากรณ์อากาศ และตารางนัดหมาย เพื่อให้จัดการตารางเวลาได้ง่ายขึ้น

ทางด้านอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด กับแบบแยกอัลบั้ม โดยสามารถพิมพ์ Keyword สั้นๆ เพื่อค้นหาภาพที่ต้องการได้

ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งาน ได้ดี ไหลลื่น และสามารถแสดงเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

พร้อมฟังก์ชัน Ad Block Mode ในการปิดไม่ให้มีการแสดงโฆษณาบนบราว์เซอร์อีกด้วย

สำหรับบริการ vivoCloud ก็มีให้ใช้งานบน Vivo V19 เช่นเดียวกัน โดยผู้ใช้สามารถสำรองข้อมูลต่างๆ ภายในตัวเครื่อง เช่น ข้อความ SMS, รายชื่อผู้ติดต่อ และบุ๊คมาร์คของเว็บเบราวเซอร์ ไปยังระบบคลาวอินเทอร์เน็ตของ Vivo ได้

และทาง Vivo ได้ทำการรวบรวมแอปพลิเคชันเด่นมาให้ได้ดาวน์โหลดบน Vivo V19 กันผ่านทาง Vivo App Store

Vivo V19 รองรับการเล่นเพลง และไฟล์เสียงต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน i Music พร้อมเทคโนโลยี DeepField สำหรับช่วยขับเสียงร้องให้มีความชัดเจน พร้อมปรับเสียงเบสให้มีอิมแพคมากยิ่งขึ้น

สามารถปรับค่า Equalizer และเลือกใช้หูฟังต่างๆ ของ Vivo ได้

รวมถึงเลือกระดับความดังของเสียงให้เหมาะสมตาม ช่วงอายุของผู้ใช้ได้

ที่สำคัญ Vivo V19 ยังรองรับฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวอย่าง Privacy and App Encryption สำหรับล็อกแอปพลิเคชันต่างๆ ภายในตัวเครื่อง รวมถึง File Safebox ที่เปรียบเสมือนตู้นิรภัยประจำสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้สามารถย้ายไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เสียง, ไฟล์เอกสาร และไฟล์ประเภทอื่นๆ เข้าไปเก็บไว้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน

Vivo V19 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน Ultra Game Mode ซึ่งเป็นโหมดพิเศษที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ พร้อมรองรับระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้น และฟังก์ชัน 4D Game Vibration ในการสั่นตามเหตุการณ์ในเกม ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการเล่นเกมอีกด้วย

รวมถึงป้องกันการโดนขัดจังหวะขณะเล่นเกม ยกตัวอย่างเช่น การโชว์เบอร์โทรสายเรียกเข้าในรูปแบบป็อบอัปเท่านั้น ทำให้เกมไม่ถูกสลับไปยังหน้ารับสายสนทนา

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Vivo V19 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 38-39 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 5 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ หรือสภาพอากาศด้วยนั่นเอง

Vivo V19 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 616, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 256GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 เวอร์ชันใหม่

และ Vivo V19 รองรับเทคโนโลยี Multi-Turbo สำหรับเร่งการประมวลผลด้านต่างๆ ของตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CPU, กราฟิก และการเล่นเกม, การเชื่อมต่อเครือข่าย และการจัดการความร้อน

Vivo V19 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 241,657 คะแนน และจากทาง Geekbench 5 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 416 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 1,559 คะแนน

สำหรับผลทดสอบการประมวลผลด้านกราฟิกจากแอปพลิเค ชัน 3DMark แบบ OpenGL ES 3.1 อยู่ที่ 2,180 คะแนน และแบบ Vulkan ได้ 2,028 คะแนน

Vivo V19 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง PUBG Mobile, Marvel Future Fight และ Marvel Super War ก็พบว่า Vivo V19 นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง ซึ่งอยู่ในระดับอุ่นๆ ฝ่ามือเท่านั้น เนื่องจากรองรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และไอน้ำแบบ Copper Tube Liquid Cooling ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ถึง 7 องศาเซลเซียส จึงช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องจะร้อนเกินไป

Vivo V19 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi) และมีอัตราส่วนแบบ 20:9 จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

Vivo V19 มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบไปด้วย

- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79) - กล้องตัวที่สองแบบ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา (F/2.2) - กล้องตัวที่สามแบบ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ (F/2.4) - กล้องตัวที่สี่เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้สูงสุดที่ 4 เซนติเมตร (F/2.4)

โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์เรียบหรู สบายตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ได้แก่ เปิด-ปิด ไฟแฟลช พร้อมโหมด HDR

เลือก Filter และ Portrait Light Effect ทั้งหมด 5 รูปแบบ

รวมถึงสัดส่วนภาพถ่าย และตั้งค่าเพิ่มเติม โดยสามารถกดที่เมนู More เพื่อเลือกโหมดถ่ายภาพอื่นๆ

Vivo V19 รองรับการถ่ายภาพครบทุกระยะ ทั้งในมุมกว้างแบบ Super Wide Angle ที่ 120 องศา

และแบบ Super Macro ระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

ในโหมดการถ่ายภาพปกติ มีฟังก์ชัน AI Scene Recognition ที่เป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ

พร้อมโหมด Bokeh ที่สามารถปรับค่าความเบลอได้ระหว่าง F0.95 - F16

และสามารถปรับเลือกจุดโฟกัสใหม่ รวมถึงค่าความเบลอในภายหลังได้ด้วย

และฟีเจอร์ Face Beauty พร้อม Slim ที่สามารถเลือกปรับโครงสร้างบนใบหน้า และลำตัวได้อย่างอิสระ

และมีฟังก์ชัน Posture สำหรับแนะนำท่าโพสต์ต่างๆ ให้

รองรับการถ่ายภาพในโหมด PANO

และโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 48MP (8000x6000 พิกเซล)

สำหรับการถ่ายโหมด Pro บน Vivo V19 มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด

นอกจากนี้ยังรองรับโหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืนโดย เฉพาะอย่าง AI Super Night เวอร์ชั่นใหม่ ในการนำภาพถ่ายในระดับแสงต่างๆ มารวมกัน พร้อมวิเคราะห์ และปรับแต่งความคมชัดด้วย AI รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอในเวลากลางคืนได้อีกด้วย

การถ่ายวิดีโอบน Vivo V19 สามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD และรองรับโหมดมุมกว้างแบบ Super Wide Angle

พร้อมโหมดป้องกันการสั่นไหวแบบ Ultra Stable Video

สามารถเลือก Filter และ Art Effect ทั้งหมด 2 รูปแบบ

พร้อมกับฟีเจอร์ Face Beauty พร้อม Slim ที่สามารถเลือกปรับโครงสร้างบนใบหน้า และลำตัวได้อย่างอิสระ

และรองรับฟังก์ชัน SLO-MO

รวมถึง Time-Lapse

ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าเป็นแบบคู่ฝังอยู่ บนหน้าจอ (Dual In-Display Selfie) แบ่งออกเป็น กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องรองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างสุดที่ 105 องศา

โดยมีหน้าตา Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที และสามารถปรับค่าต่างๆ ได้ที่เมนูตั้งค่า

เลือก Filter และ Portrait Light Effect ได้ทั้งหมด 5 รูปแบบ

สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ในมุมกว้างแบบ Super Wide Angle 105 องศาได้

พร้อมโหมด Bokeh ที่สามารถปรับค่าความเบลอได้ระหว่าง F0.95 - F16

สามารถปรับเลือกจุดโฟกัสใหม่ รวมถึงค่าความเบลอในภายหลังได้ด้วย

กล้องหน้าของ Vivo V19 มาพร้อมโหมด Portrait ที่มี Style ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ ค่าเริ่มต้น, Fresh และ Film ที่ให้อารมณ์ของภาพต่างกันออกไป

และเทคโนโลยี AI Face Beauty ที่สามารถเลือกปรับโครงสร้างบนใบหน้าได้อย่างอิสระ

และมีฟังก์ชัน Posture สำหรับแนะนำท่าโพสต์ต่างๆ ให้

รองรับ AR Stickers สติกเกอร์น่ารักๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายเซลฟี่

ฟังก์ชันสำหรับถ่ายเซลฟี่ในมุมกว้างแบบ PANO ก็มีให้ใช้งานบน Vivo V19 ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลาง คืนด้วยโหมด Night ที่ทำงานร่วมกับโหมด Face Beauty

การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าของ Vivo V19 สามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p และบันทึกภาพในมุมกว้างแบบ Super Wide Angle ได้

พร้อมโหมดป้องกันการสั่นไหวแบบ Ultra Stable Video เหมือนกล้องหลัง

สามารถเลือก Filter และ Art Portrait ทั้งหมด 2 รูปแบบ

และ Face Beauty พร้อม Slim ที่สามารถเลือกปรับโครงสร้างบนใบหน้า และลำตัวได้อย่างอิสระ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียดระดับ 48+8+2+2 ล้านพิกเซล ของ Vivo V19

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Super Wide Angle

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Super Wide Angle

ภาพถ่ายในโหมด Super Macro

ภาพถ่ายจากโหมด Bokeh ที่ F/4.0 (ค่าเริ่มต้น)

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Studio Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Stereo Light ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Loop Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Rainbow Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Monochrome Background

ภาพถ่ายจากโหมด AR Sticker

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด NIGHT

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าคู่แบบ Dual In-Display Selfie ความละเอียด 32+8 ล้านพิกเซลของ Vivo V19

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายเซลฟี่ในมุมกว้างแบบ Super Wide Angle

ภาพถ่ายจากโหมด AI Face Beauty

ภาพถ่ายจากโหมด Bokeh ที่ F/4.0 (ค่าเริ่มต้น)

ภาพถ่ายจากโหมด Bokeh ที่ F/4.0 (ค่าเริ่มต้น) พร้อมเปิด AI Face Beauty

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait ในสไตล์แบบ Fresh

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait ในสไตล์แบบ Film

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Natural Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Studio Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Stereo Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Loop Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Rainbow Light

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait พร้อม Portrait Lighting Effect แบบ Monochrome Background

ภาพถ่ายจากโหมด AR Sticker

ภาพถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืนจากโหมด NIGHT

สรุปผลการทดสอบของ Vivo V19

จากการทดสอบทั้งหมดในข้างต้นพอจะกล่าวได้ว่า Vivo V19 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความน่าสนใจ เริ่มที่การอัปเกรดมาใช้งานกล้องหน้าคู่ฝังบนจอแบบ Dual In-Display Selfie ความละเอียด 32 + 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ Super Wide Angle จึง สามารถถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างสุดที่ 105 องศา พร้อมเด่นที่ AI Super Night Mode สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในที่แสงน้อย หรือเวลากลางคืนได้คมชัดมากขึ้น และสามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบถ้วน ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับ AI Face Beauty ในการปรับผิวสวย หรือโครงสร้างต่างๆ บนใบหน้าได้อย่างอิสระอีกด้วย รวมถึงโหมดหน้าชัดหลังเบลอที่สามารถเลือก Portrait Light Effect ได้ 5 รูปแบบ, โหมด Bokeh ที่สามารถปรับค่าความเบลอได้ระหว่าง F0.95 - F16 ซึ่งสามารถปรับเลือกจุดโฟกัสใหม่ รวมถึงค่าความเบลอในภายหลังได้ด้วย และฟังก์ชัน Ultra Stable Video ระบบป้องกันการสั่นไหวสำหรับการถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยี EIS

สำหรับกล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว (Quad Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79) พร้อมกล้อง Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา, กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ และ กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร ซึ่งรองรับ AI Super Night Mode สำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ ในเวอร์ชั่นใหม่ โดยนำภาพถ่ายในระดับแสงต่างๆ มารวมกัน พร้อมวิเคราะห์ และปรับแต่งความคมชัดด้วย AI รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับโหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอในเวลากลางคืนได้อีกด้วย, ฟังก์ชัน AI Scene Recognition ในการตรวจจับซีนต่างๆ พร้อมปรับภาพให้สวยแบบอัตโนมัติ,โหมด Portrait พร้อม Portrait Light Effect ทั้งหมด 5 รูปแบบ, โหมด Bokeh ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ F/0.95 - F/16 ทั้งก่อน และหลังการถ่ายภาพ, เทคโนโลยี AI Face Beauty ปรับโครงสร้างใบหน้า รวมถึงลำตัวได้แบบอิสระ และฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าโพสต์ที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย รวมถึงรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K Ultra HD พร้อมโหมดกันสั่น Ultra Stable Video สำหรับการบันทึกวิดีโอ

ด้านการดีไซน์ Vivo V19 ยังคงความพรีเมียมด้วยหน้าจอไร้ขอบแบบ Ultra O Screen ที่มีการเจาะรูกล้องหน้าคู่ไว้ที่มุมบนขวา กับ ขนาด 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi) จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ ซึ่งครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D โดยรองรับฟังก์ชัน Always On Display สำหรับบอกเวลา และการแจ้งเตือนขณะปิดหน้าจอ พร้อมฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) ที่ทำงานร่วมกับระบบสแกนใบหน้าในการปลดล็อกหน้าจอ (Face Access) ส่วน ที่ด้านหลังตัวเครื่องครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งรับกับฝ่ามือขณะถือแบบ 3D Curved พร้อมเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวเครื่องเป็นอย่างดี

Vivo V19 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 712 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวล ผล 2.3GHz รองรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และไอน้ำแบบ Copper Tube Liquid Cooling ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ถึง 7 องศาเซลเซียส โดยมากับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 616 และรองรับ เทคโนโลยี Multi Turbo 3.0 ที่ช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงาน ด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ ART++ Turbo สำหรับเพิ่มความเร็วในการเปิดแอปพลิเคชันต่างๆ พร้อม Game Turbo และ Center Turbo ที่ช่วยลดปัญหาเฟรมเรตตกขณะเล่นเกมได้ถึง 78.05% สำหรับเกมเมอร์ตัวจริง

โดยมีหน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB ที่สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีก 256GB จึงสามารถเก็บภาพ, ไฟล์ข้อมูล, แอปพลิเคชัน และเกม ได้อย่างจุใจ รวมถึงหมดปัญหาการเลือกใช้งานในช่องซิมการ์ดที่ 2 เนื่องจาก Vivo V19 มาพร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ที่ สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด + 1 microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน และทำงานอยู่บน ระบบ ปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 เวอร์ชันใหม่ ที่มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ที่น่าสนใจอย่าง Dark Mode ในการ เปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นสีดำ เพื่อความสบายตา กับ Focus Mode สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาธิ หรือเข้านอน โดยทำการปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบายๆ นอกจากนี้ยังรองรับระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Jovi AI Assistant อีกด้วย

Vivo V19 ยังตอบโจทย์การใช้งานด้านความบันเทิงโดยเฉพาะการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยฟีเจอร์เอาใจเกมเมอร์อย่าง Ultra Game Mode โหมดพิเศษที่ถูกออกแบบมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น การโชว์เบอร์โทรสายเรียกเข้าในรูปแบบป็อบอัปเท่านั้น ทำให้เกมไม่ถูกสลับไปยังหน้ารับสายสนทนา และการย่อขนาดคีย์บอร์ดภายในเกมให้มีขนาดเล็กลง เพื่อป้องกันปัญหาคีย์บอร์ดบดบังการแสดงผล นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม และป้องกันปัญหาเฟรมเรตตกระหว่างเล่นเกมได้ดีขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ 4D Game Vibration ในการสั่น ตามเหตุการณ์ในเกม ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสให้กับการเล่นเกมนั่นเอง

รวมถึงรองรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้าน อื่นๆ อย่างครับครัน ไม่ว่าจะเป็น รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด แบบ Dual 4G , ฟีเจอร์ App Clone สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันประเภทโซเชียลมีเดียได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ อย่างเช่น เช่น Facebook หรือ Line ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์ในเวลาเดียวกัน,  รวมถึงฟังก์ชัน Screen-Split ในการใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกัน และยังสามารถบันทึกภาพสกรีนช็อตแบบยาวได้

และ Vivo V19 ยังให้ความสำคัญด้านความเป็นส่วนตัว ด้วยฟังก์ชัน Privacy and App Encryption สำหรับล็อกแอปพลิเคชันต่างๆ ภายในตัวเครื่อง รวมถึง File Safebox ที่เปรียบเสมือนตู้นิรภัยประจำสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้สามารถย้ายไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เสียง, ไฟล์เอกสาร และไฟล์ประเภทอื่นๆ เข้าไปเก็บไว้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งานอีกด้วย

ล่าสุดวันนี้ (5 พฤษภาคม 2563) Vivo V19 ได้เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วที่ 12,999 บาท กับตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ (Gleam Black) และ สีเงิน (Sleek Silver) โดยจะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Lazada และ JD Central รวมถึงที่ร้าน Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo V19 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ

จุดเด่นของ Vivo V19

- ฝาหลังครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 3D Curved รับกับฝ่ามือขณะถือใช้งาน - บอดี้สีไล่เฉด (Gradient) ที่สามารถสะท้อนเล่นกับแสงในมุมต่างๆ - หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 408 ppi) ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D และรองรับฟังก์ชัน Always On Display - ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 712 แบบ Octa-Core Processor ที่มีความเร็ว 2.3 GHz - ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว และไอน้ำแบบ Copper Tube Liquid Cooling ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ได้ถึง 7 องศาเซลเซียส - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Adreno 616 - เทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 (ART++ Turbo, Game Turbo และ Center Turbo) - โหมดใช้งานแบบ Ultra Game Mode - หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) มาตรฐาน UFS 2.1 ขนาด 128GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) สูงสุดที่ขนาด 256GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 10 กล้องดิจิทัลด้านหน้าคู่ฝังบนหน้าจอแบบ Dual In-Display Selfieประกอบด้วย

- กล้องหลักความละเอียด 32 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.0 - กล้องรองแบบ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสงกว้างสูงสุดที่ F/2.2 โดยรองรับการถ่ายภาพเซลฟี่มุมกว้างสุด 105 องศา พร้อมเทคโนโลยี AI Face Beauty สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ผ่านการวิเคราะห์โดยปัญญาประดิษฐ์ พร้อม Portrait และ Portrait Light Effect, ฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าโพสต์ที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย และ AI Super Night ถ่ายเซลฟี่คมชัดแม้แสงน้อย หรือเวลากลางคืน รวมถึงฟังก์ชัน Ultra Stable Video ระบบกันสั่นสำหรับการบันทึกวิดีโอ กล้องดิจิทัลด้านหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย

- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (F/1.79) - กล้องตัวที่สองแบบ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 120 องศา (F/2.2) - กล้องตัวที่สามแบบ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ (F/2.4) - กล้องตัวที่สี่แบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร (F/2.4) โดยรองรับการโฟกัสภาพแบบ PDAF, ฟีเจอร์ HDR, ฟังก์ชัน AI Scene Recognition ในการตรวจจับซีนต่างๆ พร้อมปรับภาพให้สวยแบบอัตโนมัติ,โหมด Portrait พร้อม Portrait Light Effect, โหมด Bokeh ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ F/0.95 - F/16, เทคโนโลยี AI Face Beauty ปรับโครงสร้างใบหน้าได้อิสระ พร้อมฟังก์ชัน Pose Master ในการแนะนำท่าโพสต์ที่สวยงามให้กับผู้ถ่าย, โหมดถ่ายภาพกลางคืน AI Super Night และถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD พร้อมฟังก์ชันป้องกันการสั่นไหว Ultra Stable Video - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint) - ระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Access) - ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi AI Assistant - ฟังก์ชัน App Clone สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันประเภทโซเชียลมีเดียได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ - ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานแบบ 3.5 มิลลิเมตร - แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 33W Vivo FlashCharge 2.0 (สามารถชาร์จแบตเตอรี่ระดับ 0-54% ได้ภายในเวลา 30 นาที) - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE, GPRS และ WiFi (2.4/5GHz) - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 - ระบบ GPS+A-GPS ในตัว พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของประเทศรัสเซีย, ระบบ Beidou ของประเทศจีน และระบบ GALILEO ของสหภาพยุโรป - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot รองรับการใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM จำนวน 2 ซิม และการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้พร้อมกัน - ระบบ Jovi Smart Scene - ระบบ AI Noise Cancelling สำหรับการใช้งาน Video Calls - มีตัวเครื่องให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ ได้แก่ Sleek Silver และ Gleam Black - ราคา 12,999 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo V19

Leave a Comment