รีวิว Vivo Y12s รุ่นเล็กแบตอึด 5000 mAh กับจอ Halo FullView ผสานกล้องคู่ AI และสแกนนิ้วได้ ในราคาแค่ 4,299 บาท :: Thaimobilecenter.com

รุ่นเล็กแบตอึด 5000 mAh กับจอ Halo FullView ผสานกล้องคู่ AI และสแกนนิ้วได้ ในราคาแค่ 4,299 บาท พร้อมชิปเซ็ต Helio P35 กับ RAM 3GB+ROM 32GB และฟีเจอร์ครบครัน บนตัวเครื่องดีไซน์ 2.5D Dazzling Colors สวยโค้งมน

24 พฤศจิกายน 2020 - ช่วงปลายปีเช่นนี้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงจากแบรนด์ชั้นนำต่างก็พากันเปิดตัวไปหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งช่วงต้นปีหน้าก็จะกลับมาคึกคักอีกระลอกหนึ่ง แต่ตลาดระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนึ่งในแบรนด์ขวัญใจมหาชนอย่าง Vivo ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ออกมาเก็บตกตลาด Entry-Level เพิ่มเติม ซึ่งก็คือ Vivo Y12s ที่เรานำมารีวิวในวันนี้นั่นเองครับ

Vivo Y12s เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ครบถ้วน รวมถึงความบันเทิงขั้นพื้นฐาน ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ตัวเครื่องมีการออกแบบให้มีดีไซน์เรียบง่าย จับถนัดมือ โดยมีหน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ ที่สามารถถ่ายทอดคอนเทนต์ด้านความบันเทิงต่างๆ ออกมาได้อย่างเต็มตา พร้อมขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P35 กับหน่วยความจำ RAM ขนาด 3GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB โดยมีเทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 มาช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น ตั้งแต่การใช้งานทั่วไป ไปจนถึงการเล่นเกม อีกทั้งยังรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 256GB บนถาดใส่ซิมแบบ Triple-Slot ได้อีกด้วย จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Vivo Y12s คือแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 5,000 mAh เมื่อรวมกับระบบ AI ประหยัดพลังงานอัจฉริยะของ Vivo แล้ว ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สามารถใช้งานข้ามวันได้แบบสบายๆ แถมยังเล่นเกมต่อเนื่องได้ถึง 8.9 ชั่วโมงเลยทีเดียว และถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น แต่ Vivo Y12s มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 0.23 วินาที หรือระบบปลดล็อกด้วยการสแกนใบหน้าที่ปลดล็อกได้ทันทีโดยไม่ต้องเอื้อมมือหยิบ ด้านการถ่ายรูป Vivo Y12s มากับกล้องหลังคู่ AI Dual Camera ด้วยกล้องหลัก (Main) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกบด้วยกล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ที่สามารถแยกแยะตัวแบบออกจากฉากหลัง และสร้างเอฟเฟกต์เบลอแบบ Bokeh ได้อย่างสวยงาม จากคุณสมบัติเหล่านี้ นับว่า Vivo Y12s เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่น่าสนใจไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เราไปติดตามใน รีวิว Vivo V12s ด้านล่างนี้กันต่อได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Vivo Y12s เป็นสมาร์ทโฟนที่มีน้ำหนัก และขนาดพอดีมือ ตัวเครื่องด้านหน้าเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ดีไซน์ Halo FullView Display ขนาด 6.51 นิ้ว มีความละเอียด 1600x720 พิกเซล (HD+) ในอัตราส่วนการแสดงผล 20:9

กล้องหน้าของ Vivo Y12s ติดตั้งอยู่บนรอยบากทรงหยดน้ำด้านบนหน้าจอ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8

ฝาหลังของ Vivo Y12s เป็นโพลีคาร์บอเนตที่เคลือบผิวด้วยเทคนิค 2.5D Dazzling Colors มีพื้นผิวกึ่งมันกึ่งด้าน ซ่อนลวดลายสะท้อนแสง ดูสวยงามแบบสุขุม ไม่ฉูดฉาดเกินไป สำหรับเครื่องที่นำมารีวิวในครั้งนี้เป็นสีดำ Phantom Black ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากหินแบล็คอาเกต (Black Agate)

ชุดกล้องด้านหลังมี 2 ตัว (AI Dual Camera) ที่จัดเรียงบนฐานสี่เหลี่ยมผืนผ้า พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย :

- กล้องหลัก ( Wide ) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 - กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่ม Power ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้วย และมีปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ด้านบน

ตำแหน่งของถาดใส่ซิมจะอยู่ที่ขอบเครื่องด้านซ้ายเยื้องไปด้านบน

ใต้ตัวเครื่องมีช่องลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB, ไมโครโฟน และช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ขอบเครื่องด้านบนไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใด หรือโมดูลใดๆ

ถาดใส่ซิมของ Vivo Y12s เป็นแบบ Triple-Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม พร้อมกับการ์ดหน่วยความจำ microSD ได้พร้อมๆ กัน โดยไม่ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง

สำหรับอุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วยคู่มือการใช้งาน, เคสใส, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 10W, สาย microUSB และเข็มจิ้มซิม

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

Vivo Y12s ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11 เวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้มีการปรับปรุงดีไซน์ของอินเทอร์เฟซให้ดูเรียบง่าย และเป็นระเบียบยิ่งขึ้น ในสไตล์แบบ Flat Art

เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการเปิด แผงแจ้งเตือน โดยมีทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่ใช้บ่อยๆ เช่น Wi-Fi, โหมดเงียบ, Bluetooth, หมุนจออัตโนมัติ, ปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น และมีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอหน้าจอมาให้ด้วย ส่วนด้านล่างจะแสดงแถบแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ

หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการขยายเมนูทางลัด เมื่อกดที่ไอคอนรูปปากกาและกระดาษที่มุมซ้ายล่าง จะเข้าสู่เมนู ปรับ แต่งการ์ด โดย เราสามารถเลือกไอคอนการตั้งค่าที่เราต้องการเข้ามาไว้ในแผงการแจ้งเตือนได้ตามใจชอบ

เมื่อปัดนิ้วขึ้นที่หน้าจอเริ่มต้น จะพบกับแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ในตัวเครื่อง โดยสามารถค้นหาได้ที่แถบค้นหาด้านบน

สำหรับแอปพลิเคชันของ Google ที่ติดตั้งมาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่เช่นกัน และมีแอปพลิเคชันใหม่อย่าง YT Music และ Google One ด้วย

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร ยังคงมีหน้าอินเตอร์เฟซที่สะอาดเรียบง่าย และไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันก่อนมากนัก

เมื่อกดปุ่ม แอปล่าสุด ที่แถบนำทาง จะแสดงแอปพลิเคชันที่เปิดค้างไว้ทั้งหมด สามารถเลือกสลับแอปขึ้นมาใช้งาน หรือปัดขึ้นเพื่อปิดแอปพลิเคชัน และสามารถเลือกแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 แอปได้

การแบ่งหน้าจอใช้ได้ทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน

เมื่อกดค้างลงบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลัก จะมีเมนูสำหรับการปรับแต่งหน้าจอปรากฏขึ้น ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเกี่ยวกับหน้าจอเริ่มต้น, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง และวิดเจ็ตได้

หากรู้สึกเบื่อกับหน้าจอเดิมๆ เราสามารถเข้าไปยัง ธีม เพื่อดาวน์โหลดภาพพื้นหลัง, ธีม และรูปแบบอักษรใหม่ๆ ได้ มีทั้งที่ดาวน์โหลดฟรี และแบบเสียเงิน โดยจะมีราคาแจ้งไว้ชัดเจนทุกรายการ

ในส่วนการตั้งค่าหน้าจอ ยังมี ธีมมืด ที่จะเปลี่ยนโทนสีของหน้าจอให้มืดลง ช่วยถนอมสายตาเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน

หากรู้สึกว่าสีสันบนหน้าจอไม่ตรง หรือไม่ถูกใจ สามารถเข้ามาปรับแต่งได้เองในหน้าการตั้งค่า

หรือถ้ารู้สึกว่าตัวอักษรเล็กเกินไป มองไม่ค่อยเห็น ก็สามารถเข้ามาปรับขนาดได้เช่นกัน

และยังเลือกซื้อฟอนต์ใหม่ๆ ในร้านค้าธีมมาใช้งานได้ด้วย โดยจะมีราคาอยู่ที่ 30-55 บาท

ในด้านความปลอดภัย Vivo Y12s รองรับทั้งการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่บนหน้าจอ ใกล้กับขอบล่างของตัวเครื่อง เหมาะกับการสแกนด้วยนิ้วโป้งข้างขวา

Vivo Y12s มีแอปพลิเคชัน iManager สำหรับปรับปรุงสมรรถนะของตัวเครื่องให้รวดเร็วอยู่เสมอ โดยสามารถล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น, สแกนไวรัส, ตรวจสอบการใช้ข้อมูลเน็ต, จัดการแอปพลิเคชัน และอื่นๆ  เมื่อเปิดแอปขึ้นมา ตัวแอปจะตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบทันที หากผลการประเมินต่ำกว่า 100 เราสามารถสั่งให้ระบบจัดการโดยอัตโนมัติได้ในปุ่มเดียว ซึ่งใช้เวลาจัดการไม่นาน

ในเมนู ล้างพื้นที่ จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายใน และตัวเลือกในการล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น เมื่อกดปุ่ม ล้างข้อมูล ทั้งหมด ระบบจะลบไฟล์ขยะทั้งหมดทันที การลบไฟล์เหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตัวเครื่องแต่อย่างใด

ในเมนู การตรวจสอบความปลอดภัย จะเป็นการสแกนหาช่องโหว่ในระบบและมัลแวร์ต่างๆ

ในเมนู ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต จะแสดงปริมาณดาต้าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้ไปทั้งหมด ทั้งแบบ LTE และ Wi-Fi พร้อมทั้งแสดงสถิติการใช้ปริมาณดาต้าของแต่ละแอปพลิเคชันด้วย

เมนู แอปและการแจ้งเตือน เป็นเมนูการจัดการเกี่ยวกับแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงแสดงสถิติการใช้งาน และระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละวัน

นอกจากเมนูหลักข้างต้นแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ ใน เครื่องมือยูทิลิ ตี้ ให้ใช้งานด้วย ซึ่งเมนูการตั้งค่าของ Ultra Game Mode จะอยู่ในนี้

การเข้ารหัสแอป เป็นฟีเจอร์การล็อกแอปพลิเคชันด้วยรหัสผ่าน ช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นแอบเข้ามาใช้แอปพลิเคชันบนเครื่องเราได้ง่ายๆ

ตู้เซฟการชำระเงิน เป็นฟังก์ชันรักษาความปลอดภัยสำหรับแอปพลิเคชันธุรกรรม โดยแยกแอปพลิเคชันไปทำงานบนพื้นที่หน่วยความจำที่แยกออกมาต่างหาก เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก

แบตเตอรี่ เป็นเมนูสำหรับจัดการการใช้แบตเตอรี่ และดูสถิติการใช้งานของแต่ละแอปพลิเคชัน

การทดสอบความเร็วเครือข่าย เป็นเครื่องมือวัดความเร็วอินเทอร์เน็ตของเครือข่ายที่เราเชื่อมต่ออยู่ พร้อมสรุปการประเมินให้เข้าใจง่ายว่าความเร็วที่วัดได้ เหมาะแก่การทำกิจกรรมใดบ้าง

Ultra Game Mode เป็นฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกม ที่จะช่วยเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องโดยรวม, ปิดกั้นการรบกวนจากแจ้งเตือนต่างๆ และเพิ่มเครื่องมืออำนวยความสะดวกบางอย่างขณะเล่น ซึ่งสามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราได้

EasyShare เป็นแอปพลิเคชันของ Vivo ที่ช่วยให้ผู้ใช้รับ-ส่งไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟน Vivo ด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการสำรองข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือระบบ Cloud ของ Vivo ด้วย

ด้านความบันเทิง Vivo Y12s มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เข้าใจได้ไม่ยาก และมีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการสับเปลี่ยนเพลง, วนซ้ำ, ดูเพลย์ลิสต์, ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ยังมีเอฟเฟกต์เสียง DeepField ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับเสียงเพลง, เพิ่มเบส และปรับ Equalizer ได้

สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอก็มีเครื่องเล่นของตัวเองติดตั้งมาให้แล้วเช่นกัน โดยมีปุ่มลัดในการล็อกการสัมผัสหน้าจอ (รูปแม่กุญแจทางซ้าย), ภ่ายสกรีนช็อต (ปุ่มสี่เหลี่ยมทางขวา), เปิดหน้าตางลอย (ไอคอนสี่เหลี่ยมมุมซ้ายล่าง) และ แผงควบคุมทั่วไป ส่วนการตั้งค่าอื่นๆ จะอยู่ที่ไอคอนไข่ปลา 3 จุดมุมขวาบน

ในเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม จะมีให้ปรับความสว่างของจอ, ปรับสัดส่วนภาพ, ปรับความเร็วในการเล่น และเปิด/ปิดซับไตเติ้ล (เฉพาะวิดีโอที่มีซับไตเติ้ลติดมา)

สำหรับการเล่นเกมบน Vivo Y12s นั้น Ultra Game Mode จะทำงานเบื้องหลังโดยอัตโนมัติเพื่อปิดกั้นแจ้งเตือนต่างๆ และเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกมยิ่งขึ้น

ขณะเล่นเกม เราสามารถเรียกเมนูลัดของ Ultra Game Mode ออกมาได้ด้วยการลากนิ้วจากขอบจอด้านซ้ายไปทางขวา เพื่อตั้งค่าการปิดกั้นระหว่างเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว

ในการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ Vivo Y12s ทางทีมงานได้เลือกทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ Kick-Flight, PUBG Mobile และ RoV โดยตั้งค่ากราฟิกของตัว เกมไว้ดังนี้ :

การตั้งค่าเกม Kick-Flight

การตั้งค่าเกม PUBG Mobile

การตั้งค่าเกม RoV

หลังจากที่ทางทีมงานได้เล่นเกมทั้ง 3 เกมบน Vivo Y12s ราวๆ 2 ชั่วโมง พบว่า Vivo Y12s สามารถเล่นเกมทั่วไปบน PlayStore ได้ แต่ไม่ค่อยเหมาะกับเกมที่มีกราฟิกระดับสูงๆ สำหรับเกมยอดนิยมที่มีกราฟิกเบาๆ อย่าง RoV นั้น Vivo Y12s สามารถเล่นได้อย่างราบรื่นโดยเปิดภาพ HD และเปิดโหมดเฟรมเรตสูง โดยมีอาการกระตุกเวลาโหลดเข้าเกม หรือเปลี่ยนฉาก แต่ในระหว่างเล่นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนเกมที่มีแอ็คชันรวดเร็วอย่าง Kick-Flight ก็ยังเล่นได้อย่างราบรื่นที่กราฟิกระดับกลาง ตัวเครื่องมีการตอบสนองต่อการควบคุมได้ดี และไม่มีอาการกระตุกให้เสียจังหวะขณะเล่น แต่สำหรับเกมที่มีกราฟิกสูงขึ้นมาอีกระดับอย่าง PUBG Mobile นั้น อาจจะต้องตั้งค่ากราฟิกไว้ที่ระดับกลาง หรือต่ำ เพื่อให้เล่นได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ตัวเครื่องไม่มีการสะสมความร้อนแต่อย่างใด โดยรวมแล้ว Vivo Y12s เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการเล่นเกมที่มีกราฟิกเบาๆ หรือเกมฆ่าเวลามากกว่าที่จะเล่นอย่างจริงจังครับ

Vivo Y12s ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P35 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR Rogue GE8320 , หน่วยความจำแรม RAM ขนาด 3 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB

Vivo Y12s วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน AnTuTu 8 ได้ 107812 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน GeekBench 5 ในส่วน Single-Core ได้ 164 คะแนน และ Multi-Core 949 คะแนน

สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Vivo Y12s นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 47 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 1 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

การถ่ายรูปเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Vivo ที่หลายคนจะต้องนึกถึงก่อนอย่างอื่น สำหรับ Vivo Y12s รุ่นนี้เป็นกล้องคู่ AI Dual Camera ที่คุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์อาจจะดูไม่หวือหวา แต่ซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพถือว่าทำได้ดีทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่เกิน 5,000 บาท โดยกล้องทั้ง 2 ตัวประกอบด้วย :

- กล้องหลัก ( Wide ) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 - กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4

การถ่ายรูปบน Vivo Y12s มีโหมดให้เลือกค่อนข้างน้อย โดยมีเพียง ภาพ ถ่าย (โหมดอัตโนมัติ), ภาพคน (โหมด Portrait), พาโนรามา, วิดีโอ และโหมดเสริมอื่นๆ อีกเพียง 3 โหมด ในโหมด ภาพถ่าย (โหมดอัตโนมัติ) จะมีเมนูให้เปิดใช้เอฟเฟ็กต์โบเก้ เพื่อถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอได้กับตัวแบบทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องเป็นคน แต่ไม่สามารถปรับระดับความเบลอได้

โหมด ภาพคน เป็นโหมดสำหรับถ่ายรูปแนว Portrait โดยเฉพาะ ในโหมดนี้จะสามารถเปิดใช้เฟเฟ็กต์บิวตี้พร้อมกับโบเก้ได้ โดยปรับได้สูงสุด 100 ระดับ

นอกจากนี้ ยังมีไกด์แนะนำการโพสท่า และมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลายแบบ โดยสามารถปรับระดับความเข้มของฟิลเตอร์ได้ตามใจชอบ

สำหรับกล้องหน้าของ Vivo Y12s มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีฟังก์ชันโดยรวมเหมือนกับกล้องหลัง แต่ในโหมดภาพถ่าย (โหมดอัตโนมัติ) จะเบลอฉากหลังไม่ได้ ทำได้เฉพาะในโหมดภาพคนเท่านั้น โดยยังมีเอฟเฟ็กต์บิวตี้ให้ปรับ 100 ระดับเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังสามารถแสดงไกด์การโพสท่า และมีโหมดถ่ายรูปมุมกว้างแบบพาโนรามาให้ใช้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 2 ตัว (AI Dual Camera) ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

สรุปผลทดสอบของ Vivo Y12s

โดยสรุปแล้ว Vivo Y12s เป็น สมาร์ทโฟนราคาประหยัดแบตอึดที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานทั่วไปได้อย่างครบถ้วน โดยมากับคุณสมบัติพอดีตัว และแบตเตอรี่ที่มอบระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนาน ตัวเครื่องมีดีไซน์และงานประกอบสวยงาม ถึงแม้ไม่โดดเด่นเตะตาแต่ก็ดูสุขุม เข้ากันได้กับผู้ใช้ทั้งชายและหญิง อีกทั้งยังมีขนาดและน้ำหนักพอดีมือ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ฝาหลังเป็นผิวมันเงา จึงเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่ป้องกันได้ด้วยการใส่เคส TPU ที่แถมมาให้ จึงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ด้านการใช้งานทั่วไป Vivo Y12s สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น แต่ซอฟต์แวร์ภายในมีความสดใหม่ โดยเป็นระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 11 เวอร์ชันล่าสุด จึงมั่นใจได้ว่าฟีเจอร์ต่างๆ และการรักษาความปลอดภัยของระบบนั้นไม่ล้าหลังแน่นอน อีกทั้งยังมีจุดเด่นคือความอึดของแบตเตอรี่ที่ให้มา 5,000 mAh จึงมีใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย เหมาะกับผู้ที่ชอบดูซีรีส์ในช่วงพักเที่ยง หรือขณะเดินทาง สามารถเพลินได้ยาวๆ จนถึงบ้านโดยไม่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่สำรอง Vivo Y12s มีหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32GB ซึ่งอาจค่อนข้างน้อยสำหรับยุคนี้ ใครที่ชอบถ่ายรูป หรือถ่ายคลิปวิดีโอ อาจต้องย้ายไฟล์ลงคอมพิวเตอร์บ่อยๆ แนะนำว่าควรเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD เข้าไปด้วย โดยสามารถรองรับได้สูงสุด 256GB ครับ

ในมุมมองของการเล่นเกม เมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติ และราคาแล้ว แน่นอนว่า Vivo Y12s ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยตรง แต่ยังสามารถเล่นเกมทั่วๆ ไปอย่าง RoV หรือ PUBG Mobile ได้อยู่ โดยอาจต้องตั้งค่ากราฟิกในระดับกลาง หรือต่ำ ซึ่งก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 5,000 บาท โดยรวมเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเกมฆ่าเวลามากกว่าที่จะเล่นแบบจริงจัง

ด้านการถ่ายรูป กล้องหลังของ Vivo Y12s เป็น กล้องคู่ AI Camera ด้วยกล้องหลัก ( Main ) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ประกบด้วยกล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพื่อเสริมความสามารถในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ด้วยความที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น จึงมีฟังก์ชันการถ่ายรูปไม่มากนัก แต่มีโหมดการถ่ายรูปพื้นฐานครบถ้วน และถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ซึ่งคุณภาพของรูปถ่ายก็ถือว่าดีทีเดียวเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ส่วนกล้องหน้าของ Vivo Y12s นั้น มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอได้ดีเช่นกัน แต่ในบางสภาพแสงภาพจะค่อนข้างฟุ้ง แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ โดยรวมน่าจะเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบถ่ายรูปเล่นโดยไม่เน้นฟังก์ชันพิเศษครับ

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา สามารถกล่าวได้ว่า Vivo Y12s คือสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่รองรับการใช้งานพื้นฐานครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึด ใช้ดูหนังฟังเพลง เล่นโซเชียล และถ่ายรูปสนุกๆ ในราคาไม่เกิน 5,000 บาทครับ

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo Y12s มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ด้วยครับ

จุดเด่นของ Vivo Y12s

- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ 2.5D Dazzling Colors - ตัวเครื่องขนาด 164.41×76.32×8.41 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 191 กรัม - หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) พร้อมอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9 - เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ที่ด้านข้างตัวเครื่อง (ปลดล็อกในเวลา 0.23 วินาที) พร้อมฟังก์ชันปลดล็อกหน้าจอด้วยใบหน้า (Face Wake) - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P35 (Octa-Core) ความเร็ว 2.3 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ PowerVR GE8320 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 3 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 32 GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 256 GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 พร้อมครอบทับด้วย FuntouchOS 11 - ฟังก์ชัน Multi-Turbo 3.0 - ฟีเจอร์ Ultra Game Mode ช่วยบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่างๆพร้อมกับเร่งประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องขณะเล่นเกม

- กล้องดิจิทัลด้านหลัง 2 ตัว (AI Dual Camera) ประกอบด้วย

> กล้องหลัก ( Wide ) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 > กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.4

รวมทั้งมีไฟแฟลช LED, ระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI, เอฟเฟกต์เบลอฉากหลัง, โหมดพาโนราม่า และรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD1080p (30fps)

- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/1.8) พร้อมเอฟเฟกต์บิวตี้ที่ปรับแต่งใบหน้าให้สวยงามได้อย่างละเอียด และมีไกด์แนะนำท่าโพส

- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมอะแดปเตอร์แบบ 10W, ฟังก์ชัน AI Power Saving และ Reverse Charging (5V/1A) - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS, A-GPS, BeiDou, GLONASS และ Galileo - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G/4G+, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz/5GHz และ Bluetooth 5.0 - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB (USB 2.0) พร้อมรองรับการใช้งาน OTG (USB On-the-Go) - ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual SIM-Dual Standby) พร้อมถาดแบบ Triple Slot - วิทยุ FM ในตัว - แอปพลิเคชัน iManager สำหรับจัดการระบบการทำงานหลักของตัวเครื่อง - ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Glacier Blue และ สีดำ Phantom Black - ราคา 4,299 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ย่อมเยาสบายกระเป๋า พร้อมแถมฟรีเคส และฟิล์มกันรอย

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo Y12s

- ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB ไม่ใช่ USB Type-C - กล้องไม่รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide) และมีโหมดถ่ายภาพค่อนข้างน้อย - ไม่มีหูฟังแถมมาให้

Leave a Comment