หูฟังไร้สายตัวคุ้ม แบตอึด 24 ชั่วโมง พร้อมเบสนุ่มทุ้มลึก เสียงใสไม่ดีเลย์ ดีไซน์สวยกันน้ำได้ ในราคาแค่ 999 บาท
25 พฤษภาคม 2021 - สำหรับแบรนด์ชั้นนำอย่าง OPPO นอกจากจะมีความโดดเด่นด้านการพัฒนาสมาร์ทโฟนแล้ว ก็ยังมีชื่อเสียงด้านการผลิตหูฟังมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากที่ก่อนหน้านี้ทาง OPPO ได้ทำการเปิดตัว OPPO Enco X หูฟังระดับไฮเอนด์ที่จับมือพัฒนาร่วมกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Dynaudio ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัวหูฟัง True Wireless รุ่นเล็กสุดคุ้มตัวใหม่ ใน ราคาวางจำหน่ายเพียง 999 บาท เท่านั้น ภายใต้ชื่อรุ่นว่า OPPO Enco Buds
สำหรับ OPPO Enco Buds แม้ว่าจะเป็นหูฟัง True Wireless ที่มีราคาประหยัดด้วยค่าตัวไม่ถึง 1 พันบาท แต่ในส่วนของคุณสมบัติถือว่าจัดมาให้ดีเยี่ยมเลยทีเดียว ด้วยไดรเวอร์เสียงขนาด 8 มิลลิเมตร ซึ่งให้เสียงเบสนุ่มทุ้มลึก พร้อมถ่ายทอดทุกย่านเสียงได้อย่างเต็มอารมณ์ระดับ HD, แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง , รองรับระบบเสียงคุณภาพสูงแบบ ACC ไปจนถึงระบบการเชื่อมต่อไร้สายที่ทรงประสิทธิภาพบนเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 เพื่อให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับทุกเสียงดนตรีแบบไม่มีดีเลย์แม้กระทั่งการเล่นเกม ผนวกกับการใช้งานในชีวิตประจำวันแบบลุย ๆ ได้อย่างเต็มที่ ด้วยคุณสมบัติของการป้องกันละอองน้ำ-ละอองฝุ่นในระดับ IP54 โดย OPPO Enco Buds ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ไปติดตามรีวิวจากทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
OPPO Enco Buds มาพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์สีขาวสะอาดตา ที่มีการสกรีนภาพดีไซน์ของหูฟังรุ่นดังกล่าวให้เห็นกันแบบชัดเจน
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย เคสชาร์จแบตเตอรี่, หูฟัง OPPO Enco Buds, คู่มือการใช้งาน และจุกหูฟังซิลิโคนขึ้นรูป 3 ขนาด (S, M และ L) ตามสรีระหูของเรา
สำหรับเคสชาร์จแบตเตอรี่ของ OPPO Enco Buds มาพร้อมกับดีไซน์โค้งมน สามารถจับถือได้อย่างถนัดมือ และพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก
ที่ด้านหน้าของเคสชาร์จแบตเตอรี่ มีไฟแสดงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ตามรายละเอียดดังนี้
- ไฟแสดงสถานะ สีแดง หมายถึงแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ - ไฟแสดงสถานะ สีเหลือง หมายถึงแบตเตอรี่อยู่ในระดับปานกลาง - ไฟแสดงสถานะ สีเขียว หมายถึงแบตเตอรี่เต็ม หรือมีปริมาณอยู่ในระดับสูง
สำหรับ หูฟัง OPPO Enco Buds ใช้งานได้ยาวนานตลอดวันถึง 24 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จแบตเตอรี่ โดยชาร์จเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้ฟังเพลงได้นานถึง 1 ชั่วโมง หรือหากชาร์จหูฟังทั้งสองข้างจนเต็ม จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว (ฟังเพลง) ส่วนการชาร์จหูฟังพร้อมกับเคสชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม จะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ 2.5 ชั่วโมงครับ
ที่ด้านหลังของเคสชาร์จแบตเตอรี่มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อยุคใหม่แบบ USB Type-C
ด้านในของเคสชาร์จแบตเตอรี่มาพร้อมกับ Charging Pin หรือแท่นสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวหูฟัง ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก ช่วยให้หูฟังไม่หลุดออกจากเคสชาร์จแบตเตอรี่
มาดูที่หูฟังกันบ้าง สำหรับ OPPO Enco Buds เป็นหูฟังแบบ True Wireless ที่มาพร้อมกับดีไซน์รูปทรงรีที่เข้ากับใบหูของผู้ใช้งาน ช่วยให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวก โดยที่ด้านนอกของหูฟังมาพร้อมกับ Touch Area ขนาดใหญ่ สำหรับสั่งการด้วยการสัมผัส หรือแตะค้างที่หูฟัง ตามรายละเอียดดังนี้
- แตะที่หูฟังข้างซ้าย หรือข้างขวา 1 ครั้ง เพื่อเล่น หรือหยุดเพลง - แตะที่หูฟังข้างซ้าย หรือข้างขวา 2 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนเพลง - แตะที่หูฟังข้างซ้าย หรือข้างขวา 2 ครั้ง เพื่อรับสายเรียกเข้า หรือวางสายสนทนา - แตะค้างที่หูฟังข้างขวา เพื่อเพิ่มระดับเสียง - แตะค้างที่หูฟังข้างซ้าย เพื่อลดระดับเสียง - แตะที่หูฟังข้างซ้าย หรือข้างขวา 3 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนโหมดการทำงานเป็นแบบ Game Mode (High Gear : Low Latency 80 ms)
ที่ด้านในของตัวหูฟังจะมีสัญลักษณ์ L (ซ้าย) R (ขวา) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสวมใส่หูฟังได้อย่างถูกต้อง รวมทั้งยังมีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ เพื่อหยุดการเล่นเพลงแบบอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ถอดหูฟังทั้งสองข้างออก (หากถอดหูฟังออกข้างเดียวระบบจะทำการหยุดเล่นเพลงชั่วคราว และเล่นเพลงต่อที่หูฟังอีกข้างที่กำลังสวมใส่ทันที) พร้อมฟีเจอร์เล่นเพลงต่อแบบอัตโนมัติเมื่อสวมใส่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง
ด้านล่างเป็น Ear Tips ที่มาพร้อมกับจุกแบบซิลิโคนที่สามารถใส่ได้อย่างสบายหู สามารถถอดเปลี่ยนจุกหูฟังได้ด้วยตนเอง ซึ่งแม้ว่า OPPO Enco Buds จะถูกออกแบบมาให้เป็นหูฟัง In-Ear แต่ก็สามารถสวมใส่ได้โดยไม่เจ็บหูแต่อย่างใด
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตัวหูฟัง OPPO Enco Buds มาพร้อมกับคุณสมบัติของการป้องกันละอองน้ำ-ละอองฝุ่น ในระดับ IP54 ซึ่ง เรียกได้ว่าพร้อมลุยไปกับผู้ใช้ในทุกสถานการณ์
มาดูกันที่ระบบเสียงกันบ้าง สำหรับ OPPO Enco Buds มาพร้อมกับไดรเวอร์เสียงขนาด 8 มิลลิเมตร เ พื่อช่วยขับเสียงในย่านต่าง ๆ ให้มีความไพเราะคมชัด และมีเบสที่นุ่มทุ้มลึก พร้อมรองรับการเล่นไฟล์เสียงคุณภาพสูงแบบ ACC (Advanced Audio Coding) ที่เป็นการส่งสัญญาณเสียงด้วยการเข้ารหัสเสียงขั้นสูง เพื่อช่วยรักษารายละเอียดเสียงจากไฟล์ต้นฉบับ
นอกจากนี้ OPPO Enco Buds ยังมาพร้อมกับระบบ DNN Model-based Noise Cancellation สำหรับช่วยตัดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการนำเอาอัลกอริทึมอัจฉริยะในการแยกเสียงพูดออกจากเสียงเบื้องหลัง (Backgroud) ระหว่างการสนทนา ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าปลายสายจะไม่ได้ยินเสียงรบกวนเมื่อต้องใช้งานสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เช่นการใช้งานบนรถไฟฟ้า หรือการใช้งานระหว่างการใช้งานนอกสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงจราจร
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งาน
สำหรับการเชื่อมต่อของ OPPO Enco Buds ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวกไม่ยุ่งยาก เพราะเพียงแค่เปิดฝาเคสชาร์จแบตเตอรี่ ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟน OPPO ที่รองรับแบบอัตโนมัติ (เบื้องต้นรองรับการเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติเฉพาะ OPPO Find X3 Pro 5G, OPPO Find X2 Pro 5G, OPPO Find X2 5G, OPPO Reno5 Pro 5G ที่ใช้ ColorOS 11.0 ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ จะรองรับหลังอัปเดต OTA ยกเว้น A Series, F Series และ Reno4 Pro 5G)
ส่วนผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ สามารถเชื่อมต่อ OPPO Enco Buds ได้โดยเข้าไปที่ Bluetooth และแตะเลือก OPPO Enco Buds ซึ่งหลังจากเชื่อมต่อกันครั้งแรกเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อใช้งานครั้งต่อไปไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใหม่ เพียงแค่เปิดฝาเคสชาร์จแบตเตอรี่ ระบบก็จะทำการเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนให้ทันที
ในด้านการเชื่อมต่อหูฟัง ถือว่าทำได้อย่างรวดเร็ว และเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก OPPO Enco Buds ใช้ชิปเซ็ต Bluetooth 5.2 ที่สามารถเชื่อม ต่อได้ไกลถึง 10 เมตร พ ร้อมรองรับฟีเจอร์ Binaural Low-latency Bluetooth Transmission ที่ช่วยแก้ปัญหาสัญญาณรบกวน หรือปัญหาการขาดการเชื่อมต่อ ด้วยการเชื่อมต่อสัญญาณจากสมาร์ทโฟนเข้ากับหูฟังทั้งสองข้างพร้อมกัน ต่างจากหูฟัง TWS ทั่ว ๆ ไป ที่เป็นการเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างสมาร์ทโฟน และหูฟังเพียงข้างเดียว และค่อยกระจายสัญญาณไปให้หูฟังอีกข้างหนึ่ง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวยังช่วยให้ตัวหูฟังสามารถสลับการใช้งานแบบซ้าย-ขวาได้แบบ อัตโนมัติ ซึ่งเมื่อผู้ใช้สวมใส่หูฟังข้างเดียว หูฟังอีกข้างก็จะถูกตัดการเชื่อมต่อ หรือตัดการทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน และยังช่วยให้การใช้งานดูลื่นไหลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Game Mode ที่จะปรับการทำงานของหูฟังให้มีความหน่วงต่ำเพียง 80 ms (แตะหูฟังข้างใดข้างหนึ่งเป็นจำนวน 3 ครั้งเพื่อเปิดใช้งาน Game Mode) ซึ่งจะช่วยให้ได้ยินเสียงต่าง ๆ ภายในเกมโดยไม่มีอาการดีเลย์ ซึ่งเรียกได้ว่าตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะในเกมที่ต้องการความแม่นยำของเสียงในระดับสูง อย่างเช่นเกมแนว Battle Royale หรือเกมแนว FPS เป็นต้น
ในส่วนของเสียงที่ได้จากหูฟัง OPPO Enco Buds จากที่ทีมงานได้นำไปทดสอบฟังเพลงในหลากหลายแนว ทั้งเพลง Pop, Rock, Metal, Classical, Hip Hop และ EDM ก็พบว่า คาแรคเตอร์เสียงของ OPPO Enco Buds จะมีความโดดเด่นด้านเสียงกลางที่ให้เนื้อเสียงที่อิ่มหนาพอสมควร แยกแยะรายละเอียดของเสียงนักร้อง และเสียงเครื่องดนตรีได้อย่างชัดเจน
ในส่วนของเสียงเบสก็มีความนิ่มนวล ให้เบสมาเป็นลูกแต่ไม่กระแทกกระทั้นจนรู้สึกล้าหู ด้านเวทีเสียง หรือ Sound Stage ก็ไม่แคบจนเกินไป ทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอารมณ์ ซึ่งเรียกได้ว่าเสียงที่ได้จาก OPPO Enco Buds มีคุณภาพที่ค่อนข้างเกินตัวกับราคาขายเพียง 999 บาทมากเลยทีเดียว
ด้านระบบตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยม ปลายสายได้ยินเสียงผู้พูดอย่างชัดเจนโดยที่แทบไม่มีเสียงรบกวนเข้ามาแทรก แม้จะเป็นการใช้งานในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนเยอะอย่างการใช้งานขณะอยู่บนรถไฟฟ้าก็ ตาม
สรุปผลการทดสอบของ OPPO Enco Buds
จากการทดสอบทั้งหมด ก็พอจะสรุปได้ว่า OPPO Enco Buds เป็นหูฟังไร้สายราคาประหยัดคุ้มค่าอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาวางจำหน่ายเพียง 999 บาท ด้วยการมาพร้อมกับ แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จแบตเตอรี่ รวมทั้งยังมาพร้อมกับความเร็วด้านการชาร์จ เพราะ ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 15 นาที ก็สามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้นานถึง 1 ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
ด้านคุณภาพเสียงก็ถือว่าทำได้อย่างน่าประทับใจ ด้วย ไดรเวอร์ขับเสียงแบบไดนามิกขนาด 8 มิลลิเมตร ที่รองรับการเทคโนโลยีการส่งสัญญาณเสียงแบบ AAC (Advanced Audio Coding) เพื่อช่วยถ่ายทอดเสียงเพลงคุณภาพสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ OPPO Enco Buds ยังมีจุดเด่นด้านการเชื่อมต่อที่เสถียร ด้วยการมาพร้อมกับ ชิปเซ็ต Bluetooth 5.2 ที่รองรับเทคโนโลยี Binaural Low-Latecncy Bluetooth Transmission เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อเข้ากับหูฟังทั้งสองข้างเป็นไปอย่างลื่นไหล พร้อม ระยะการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ไกลถึง 10 เมตร และยังมี Game Mode ที่ช่วยลดค่าความหน่วงของสัญญาณให้อยู่ในระดับ 80 ms เพื่อตอบโจทย์เหล่าผู้ที่ชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ และผู้ที่ชื่นชอบเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งหูฟัง OPPO Enco Buds มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ
จุดเด่นของ OPPO Enco Buds
- แบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง (เมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จแบตเตอรี่) - ระยะเวลาการใช้งานของหูฟังนานสูงสุด 6 ชั่วโมง (ฟังเพลง) หรือ 4 ชั่วโมง (สนทนา) ต่อหนึ่งรอบการชาร์จ - แบตเตอรี่ความจุ 40 mAh (หูฟัง) และ 400 mAh (เคสชาร์จ) - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C ที่เคสชาร์จ สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ - น้ำหนักหูฟังต่อข้างเบาเพียง 4 กรัม - ไดรเวอร์เสียงแบบไดนามิกขนาด 8 มิลลิเมตร พร้อมความไวระดับ ความไว 100.6 dB ที่ 1 kHz - ตอบสนองย่านความถี่เสียงได้ที่ระดับ 20Hz-20kHz - เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.2 - ระบบการเชื่อมต่อแบบ Binaural Low-Latecncy Bluetooth Transmission ที่ช่วยลดการรบกวน หรือความล่าช้าของสัญญาณ ด้วยการเชื่อมต่อหูฟัง 2 ข้างในครั้งเดียว - รองรับการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน และหูฟังได้ในระยะไกลสูงสุด 10 เมตร - ระบบการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนแบบอัตโนมัติ - อัลกอริทึม DNN Mobel-based Noise Cancellation สำหรับช่วยตัดเสียงรบกวน - รองรับเทคโนโลยีการเล่นเสียงคุณภาพสูงแบบ AAC (Advanced Audio Coding) - โหมดเล่นเกมด้วยค่าความหน่วงต่ำ (High Gear : Low Latency 80 ms) - รองรับการสั่งงานการผ่านการสัมผัสที่ด้านข้างของหูฟัง - มีคุณสมบัติของการป้องกันละอองน้ำ-ละอองฝุ่นในระดับ IP54 (เฉพาะตัวหูฟัง) - แถมฟรีซิลิโคน 3 ขนาด - ดีไซน์สวยงามทันสมัยแบบ Minimal พร้อมเคสกึ่งโปร่งแสง - มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก คือสีขาว ซึ่งมีวางจำหน่ายแล้ว และสีฟ้า ซึ่งกำลังจะมีวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ - ราคา 999 บาท ถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้ง่าย และคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPOEnco Buds
- พื้นผิวของเคส และหูฟังมีความมันเงา จึงอาจทำให้เกิดคราบเปื้อนได้ง่าย และค่อนข้างลื่นมือ - ไม่มีสายชาร์จแถมมาให้ภายในกล่องผลิตภัณฑ์ แต่สามารถใช้สาย USB Type-Cของสมาร์ทโฟนเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้
