รีวิว realme Watch 2 Pro | Buds Q2 คู่หู AIoT ใหม่ สมาร์ทวอทช์เพื่อคนรักสุขภาพ กับหูฟังไร้สายฟีเจอร์ดีใช้ง่าย ในราคาสบายกระเป๋า:: Thaimobilecenter.com realme Watch 2 Pro | realme Buds Q2

2 มิถุนายน 2021 - อย่างที่หลายท่านทราบกันดีว่า นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว realme ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในกลุ่ม AIoT (Artificial Intelligence of Things) ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยหลากหลายรูปแบบ เพื่อขยาย Ecosystem ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ซึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทาง realme ก็เพิ่งจะมีการเปิดตัวสองอุปกรณ์เสริมอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตให้ดีมากยิ่งขึ้น ในราคาที่ย่อมเยาเข้าถึงได้ทุกคน นั่นก็คือ นาฬิกาอัจฉริยะ realme Watch 2 Pro และหูฟังไร้สายรุ่นล่าสุด realme Buds Q2

สำหรับ realme Watch 2 Pro เป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่น (สมาร์ทวอทช์) ล่าสุดที่ถูกพัฒนาออกมาภายใต้สโลแกน “Style Meets Sports” กับจุดเด่นด้านดีไซน์ภายนอกที่มีความสวยงาม ด้วยหน้าจอแสดงผลสีโค้งมนขนาดใหญ่ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การออกกำลังกายอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น โหมดกีฬากว่า 90 โหมด, เซนเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2), เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate), คุณสมบัติของการป้องกันน้ำในระดับ IP68 ไปจนถึงระบบระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมแบบ High-Precision Dual-Satellite GPS

ในส่วนของ realme Buds Q2 เป็นหูฟังไร้สายที่พัฒนาต่อยอดมาจาก realme Buds Q ที่เคยนำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเรา โดยยังคงจุดเด่นด้านน้ำหนักของหูฟังที่เบาเพียง 4.1 กรัม ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบายหู นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไดรเวอร์เสียงขนาด 10 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยีเสียงแบบ Dynamic Bass Boost เพื่อช่วยขับเสียงเบสให้มีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น

สำหรับ realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2 จะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ไปติดตามรีวิวฉบับเต็มจากทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2 มาพร้อมกับกล่องผลิตภัณฑ์สีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งที่ด้านหน้ามีภาพ และชื่อของผลิตภัณฑ์ถูกพิมพ์เอาไว้อย่างเด่นชัด

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่อง realme Watch 2 Pro ประกอบไปด้วย นาฬิกา realme Watch 2 Pro, คู่มือการใช้งาน และแท่นชาร์จแบตเตอรี่

ทางด้านอุปกรณ์ภายในกล่องของ realme Buds Q2 ประกอบไปด้วย หูฟัง, เคสชาร์จแบตเตอรี่, จุกหูฟังขนาด S และ L และสายเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับใช้งานร่วมกับอแดปเตอร์จ่ายไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่

ข้ามมาดูที่ตัวผลิตภัณฑ์กันบ้าง สำหรับ realme Watch 2 Pro มาพร้อมกับหน้าจอสีขนาด 1.75 นิ้ว ความละเอียด 320x385 พิกเซล ที่มีความหนาแน่นพิกเซล 287 PPI พร้อมค่าความสว่างสูงสุดระดับ 600 nits เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองหน้าจอได้อย่างคมชัดแม้จะเป็นการใช้งานกลางแจ้ง โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผล (Watch Faces) ได้มากกว่า 100 รูปแบบ ซึ่งหน้าจอแสดงผลสวย ๆ แบบนี้ ทาง realme ได้ร่วมมือกับนักออกแบบชาวเกาหลีใต้อย่าง Grafflex เพื่อช่วยสร้างหน้าปัดนาฬิกาให้เข้ากับผู้ใช้ทุกไลฟ์สไตล์

ที่ด้านซ้ายของนาฬิกาไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆ

ที่ด้านขวาของนาฬิกามาพร้อมกับปุ่มควบคุมที่สามารถสั่งการตัวเครื่องได้หลายรูปแบบ ตามรายละเอียดดังนี้

กด 1 ครั้ง

- ปลุกหน้าจอแสดงผลของนาฬิกา - หยุด หรือกลับไปยังการออกกำลังกายที่เลือกไว้ - กลับไปยังหน้าก่อนหน้านี้ภายในแอปพลิเคชัน - ปิดหน้าจอแสดงผลของนาฬิกา

กดค้าง

- ปิดเครื่อง, ปิดเครื่อง หรือรีสตาร์ท - กดปุ่มค้างเป็นเวลา 10 วินาที เพื่อบังคับรีสตาร์ททันที (Force Restart)

สายนาฬิกาของ realme Watch 2 Pro เป็นสายซิลิโคนที่มีความหนาหนุ่ม ไม่ระคายเคืองต่อผิว โดยจะมีสโลแกนของ realme อย่าง DARE TO LEAP ประทับไว้ที่ด้านบน

สายนาฬิกาใช้ระบบตัวล็อกแบบหัวเข็มขัด สามารถปรับขนาดสายให้พอดีกับข้อมือผู้ใช้งานได้ทั้งหมด 24 ระดับ ซึ่งจะช่วยให้สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัย

พลิกมาดูที่ด้านหลังของตัวนาฬิกา จะพบกับเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ (Real-time Heart Rate Monitor) โดยใช้เซนเซอร์คุณภาพสูงแบบ PPG จากบริษัทผู้นำด้านเซนเซอร์อย่าง Goodix ซึ่งมีจุดเด่นด้านความรวดเร็ว และแม่นยำ โดยเซนเซอร์แบบ PPG จะใช้แสงสีเขียวที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับผู้ใช้ทุกภูมิภาค เพื่อช่วยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจของผู้ใช้อยู่ในระดับต่ำ หรือสูงกว่าค่ามาตรฐานอีกด้วย

นอกเหนือจากเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว realme Watch 2 Pro ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับระดับออกซิเจนภายในเลือด ที่ตรวจวัดค่าได้อย่างแม่นยำ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสุขภาพในเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว

ตัวเรือนของ realme Watch 2 Pro มาพร้อมกับคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ และฝุ่นในระดับ IP68 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่นาฬิกา realme Watch 2 Pro ไปลุยในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้แบบหายห่วง แต่จะไม่สามารถใส่ว่ายน้ำ หรือดำน้ำได้เนื่องจากนาฬิการุ่นนี้ไม่มีคุณสมบัติของการป้องกันแรงดันน้ำ (ATM) นอกจากนี้ ภายในตัวเรือนยังมาพร้อมกับระบบ High-Precision Dual-Satellite GPS ที่ช่วยตรวจจับตำแหน่งของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ ช่วยยกระดับการออกกำลังกายไปอีกขั้น เช่น การปั่นจักรยาน หรือการวิ่งกลางแจ้ง เป็นต้น

มาต่อกันที่หูฟัง realme Buds Q2 กันบ้าง โดยเคสชาร์จแบตเตอรี่จะมาพร้อมกับดีไซน์ทรงรี บนขนาดที่สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก

ที่ด้านล่างของเคสชาร์จแบตเตอรี่มีไฟแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่

ที่ด้านหลังมาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ โดยทาง realme เปิดเผยว่า realme Buds Q2 สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 20 ชั่วโมงเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จแบตเตอรี่  ในส่วนระยะเวลาการชาร์จ หากต้องการชาร์จหูฟังผ่านเคสชาร์จ จะใช้เวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 40 นาที และหากต้องการชาร์จเคสไปพร้อม ๆ กับหูฟังจนเต็ม จะใช้เวลาอยู่ที่ 2.5 ชั่วโมงครับ

สำหรับหูฟัง realme Buds Q2 มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Kaleidoscope ซึ่งเป็นการทำพื้นผิวสัมผัสด้านนอกของตัวหูฟังคล้ายกับภาพที่มองเห็นได้จากกล้องสลับลาย ซึ่งช่วยสะท้อนความสวยงามของตัวหูฟังได้เป็นอย่างดี

ในส่วนดีไซน์ของหูฟัง ทาง realme ได้ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยออกแบบให้เหมาะกับรูปทรงหูชั้นในของคนส่วนใหญ่ เพื่อช่วยให้ใส่ได้อย่างพอดีเข้ากับช่องหู และยังเพิ่มความสบายด้านการสวมใส่ รวมทั้งยังช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม โดนที่ด้านนอกของตัวหูฟังรองรับเทคโนโลยี Touch Control หรือการแตะเพื่อสั่งการ โดยมีคำสั่งดังนี้

แตะสองครั้ง

- เล่น หรือหยุดเพลง - รับสาย - วางสาย

แตะสามครั้ง

- เปลี่ยนเพลง

แตะค้างที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง

- ปฏิเสธสายเรียกเข้า

แตะค้างที่หูฟังทั้งสองข้าง

- เปิด-ปิด การใช้งาน Game Mode

พลิกมาดูที่ด้านในจะพบกับ Ear Tip แบบซิลิโคน ที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย ถัดมาที่ด้านบนเป็น Charging Pin ที่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก สามารถดูดติดกับด้านในของเคสชาร์จแบตเตอรี่ ช่วยให้เก็บหูฟังได้อย่างรวดเร็ว และชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างสะดวก

ตัวหูฟัง realme Buds Q2 มีน้ำหนักต่อข้างเพียง 4.1 กรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำหนักที่เบายิ่งกว่ากระดาษ A4 หนึ่งแผ่น (4.3 กรัม) ช่วยให้สวมใส่ได้ยาวนานตลอดวัน ส่วนน้ำหนักรวมเคสชาร์จแบตเตอรี่อยู่ที่ 39 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่พกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติของการป้องกันละอองน้ำในระดับ IPX4 ซึ่งช่วยป้องกันละอองน้ำได้จากทุกทิศทาง

ในส่วนของระบบเสียง realme Buds Q2 มาพร้อมกับไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ระดับ 10 มิลลิเมตร แบบ Bass Boost Driver ที่เป็นการใช้วัสดุ PEEK เพื่อช่วยความแข็งแรง และทนทาน รวมถึง PU ที่ จะช่วยให้เสียงเบสหนักแน่นมีพลัง รวมทั้งยังมีเทคโนโลยี Dynamic Bass Boost ที่ทาง realme ได้จับมือร่วมกับทีมจูนเสียงระดับแนวหน้า เพื่อปรับเสียงเบสให้หนักแน่น และมีไดนามิค เพื่อขับเสียงให้มีความกระหึ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมกับ Game Mode ที่จะช่วยปรับการเชื่อมต่อให้มีความหน่วงของเสียงต่ำเพียง 88 มิลลิวินาที (88ms Super Low Latency) ช่วยให้การเล่นเกม หรือการรับชมภาพยนตร์ จะไม่มีอาการดีเลย์ของเสียงนั่นเอง

ในส่วนของการตัดเสียง realme Buds Q2 มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Environmental Noise Cancellation (ENC) ซึ่งเป็นการดักเสียงรบกวนต่าง ๆ จากภายนอก ไม่ว่าจะเป็น เสียงรถยนต์, เสียงการทำงานภายในออฟฟิศ, เสียงจากรถไฟฟ้า หรือเสียงต่าง ๆ ภายในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อช่วยให้เสียงผู้พูดมีความคมชัด ปลายสายได้ยินชัดเจน

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมทดสอบฟังก์ชันของ realme Watch 2 Pro

เมื่อเปิดใช้งานนาฬิกาเป็นครั้งแรก ระบบจะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ทำการจับคู่สมาร์ทโฟนเข้ากับนาฬิกาผ่านแอปพลิเคชัน realme Link โดยให้ผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา ล็อกอินเข้าบัญชีผู้ใช้ให้เรียบร้อย และแตะที่ไอคอนรูป + บริเวณมุมขวาบน

แตะที่ Watch และเลือก realme Watch 2 Pro ระบบจะทำการสแกนนาฬิกาที่อยู่ใกล้เคียง โดยเมื่อผู้ใช้แตะเลือกนาฬิกา ระบบจะเข้าสู่โหมดการเชื่อมต่อทันที โดยผู้ใช้จะต้องแตะยืนยันการเชื่อมต่อที่ตัวนาฬิกาด้วย

เมื่อเชื่อมต่อเสร็จสิ้นก็จะเข้าสู่หน้า Dashboard ซึ่งผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสุขภาพในเบื้องต้น รวมถึงตั้งค่านาฬิกา และเปลี่ยนหน้าปัดของ realme Watch 2 Pro ได้โดยตรงจากแอปพลิเคชัน

มาดูที่ลูกเล่นการใช้งานของนาฬิกา realme Watch 2 Pro กันบ้าง โดยในหน้าโฮมสกรีนจะมีการบ่งบอกค่าต่าง ๆ ให้เห็นแบบครบถ้วน เช่น วัน และเวลาปัจจุบัน, จำนวนก้าว, ปริมาณแบตเตอรี่ หรือจำนวนแคลลอรี่ที่ถูกใช้ไป ซึ่งค่าเหล่านี้จะถูกปรับเปลี่ยนไปตามดีไซน์ของหน้าปัดที่ผู้ใช้เลือก

เมื่อปัดไปทางขวาจากหน้าโฮมสกรีนจะพบกับการตั้ง ค่าแบบเร่งด่วน ได้แก่ การเปิดใช้งานโหมดห้ามรบกวน (Do not disturb), ปรับระดับความสว่างของหน้าจอ, เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน, เปิดฟังก์ชัน Raise to wake สำหรับปลุกหน้าจอแบบอัตโนมัติเมื่อยกแขนขึ้น, เปิดใช้งานไฟฉาย และเข้าสู่การตั้งค่าทั้งหมดภายในตัวเครื่อง

เมื่อลากนิ้วจากด้านบนลงมายังด้านล่างจากหน้าโฮ มสกรีน จะพบกับ Notification Center หรือศูนย์รวมการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ

เมื่อปัดไปที่ด้านซ้ายจากหน้าโฮมสกรีนจะพบกับ หน้าการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของนาฬิกา เริ่มตั้งแต่ ข้อมูลการออกกำลังกาย

ประวัติการนอน

อัตราการเต้นของหัวใจปัจจุบัน

สภาพอากาศ

ควบคุมการเล่นเพลง

เมื่อลากนิ้วจากด้านล่างขึ้นมายังด้านบนจากหน้าโฮมสกรีน จะพบกับฟีเจอร์ทั้งหมดของ realme Watch 2 Pro ซึ่งมาพร้อมกับลูกเล่นที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2)

การออกกำลังกายที่มีโหมดการออกกำลังกายให้เลือก กว่า 90 รูปแบบ ครอบคลุมการออกกำลังกายทั้งในร่ม และกลางแจ้ง

โหมดออกกำลังกายทั้งหมด 90 ประเภท เรียกได้ว่าเกินพอสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

สามารถตั้งนาฬิกาปลุก, นาฬิกาจับเวลา และเวลานับถอยหลังได้

รองรับการลั่นชัตเตอร์กล้องบนสมาร์ทโฟนผ่าน นาฬิกา realme Watch 2 Pro ซึ่งผู้ใช้จะต้องเข้าไปเปิดใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวในแอปพลิเคชัน realme Link ครับ

และมาพร้อมกับฟีเจอร์ Find my Phone สำหรับค้นหาสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับนาฬิกา realme Watch 2 Pro

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมทดสอบฟังก์ชันของ realme Buds Q2

ในส่วนของ realme Buds Q2 วิธีการเชื่อมต่อครั้งแรกให้เข้าไปที่แอปพลิเคชัน realme Link จากนั้นแตะที่เครื่องหมาย + บริเวณมุมขวาบน เลือกแถบ Audio และแตะเลือกที่ realme Buds Q2

เปิดฝาเคสชาร์จแบตเตอรี่ และแตะที่ด้านนอกของหูฟังทั้งสองข้างค้างไว้อย่างน้อย 3 วินาที และกด Next จะปรากฏหูฟัง realme Buds Q2 ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ให้ผู้ใช้แตะเลือกหูฟัง realme Buds Q2 และกดคำว่า Pair ก็จะเชื่อมต่อเสร็จสิ้น

ในหน้า Dashboard ผู้ใช้สามารถดูปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของหูฟังแต่ละข้างได้อย่างง่าย ๆ พร้อมทั้งยังสามารถปรับรูปแบบการเล่นเสียงได้ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่

- Bass Boost+ - เร่งเสียงเบสให้มีความกระหึ่มคมชัด - Dynamic - ปรับการเล่นเสียงให้เหมาะสมกับเพลงที่กำลังฟังอยู่ - Bright - ปรับการเล่นเสียงโดยเน้นเสียงร้อง และเสียงพูดให้มีความสดใส

รวมทั้งยังสามรถเปิดใช้งาน Game Mode ได้จากตัวแอปพลิเคชัน realme Link อีกด้วย

สามารถตั้งค่าการคำสั่งของการแตะหูฟังได้ด้วยตน เองผ่านเมนู Button Settings

ในด้านการใช้งานจริงถือว่า realme Buds Q2 เป็นอีกหนึ่งหูฟัง True Wireless ที่น่าสนใจ โดยมาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว สัญญาณมีความเสถียร สามารถเชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร นอกจากนี้ ยังรองรับเทคโนโลยีการเล่นเสียงคุณภาพสูงแบบ AAC (Advanced Audio Coding) อีกด้วย

ด้านคาแรคเตอร์เสียง realme Buds Q2 ให้เสียงกลางพุ่งเด่น ได้ยินเสียงนักร้อง และเสียงเครื่องดนตรีอย่างชัดเจน สามารถแยกรายละเอียดของแต่ละชิ้นออกจากกันได้เป็นอย่างดี ส่วนเสียงเบสก็มาเป็นลูก ๆ ไม่มีอาการบวมหรือเบลอ และยังมี Impact ในระดับที่พอให้เราเพลิดเพลินกับเสียงเพลงโดยที่ไม่รู้สึกจุก หรือล้าหูจนเกินไป ด้านเวทีเสียงอยู่ในระดับที่ไม่แคบจนเกินไปจนผู้ฟังรู้สึกอึดอัด สามารถฟังเพลงต่อเนื่องเป็นเวลานานได้อย่างสบายครับ

สรุปผลการทดสอบของ realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่หู AIoT ที่เข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว สำหรับ realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2 โดยในส่วนของ realme Watch 2 Pro ก็มาพร้อมกับจุดเด่นด้านหน้าจอแสดงผลสีขนาดใหญ่ 1.75 นิ้ว ความละเอียด 320x385 พิกเซล ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นราย ละเอียดต่าง ๆ บนหน้าปัดได้อย่างชัดเจน รวมทั้งยังมีความสว่างสูงสุดถึง 600nits ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น พร้อมรองรับการปรับเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้มากกว่า 100 รูปแบบ

นอกจากนี้ realme Watch 2 Pro ยังตอบโจทย์ผู้ที่รักสุขภาพ และชื่นชอบการออกกำลังกาย ด้วยการมาพร้อมกับเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ PPG พร้อมเซนเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด ( SpO2 ) แบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังมาพร้อมกับระบบ High-Precision Dual-Satellite GPS ที่ช่วยระบุตำแหน่งของผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมาพร้อมกับคุณสมบัติของการป้องกันน้ำในระดับ IP68 จึงพร้อมลุยไปกับผู้ใช้งานในทุกสถานที่

ด้าน realme Buds Q2 มาพร้อมกับจุดเด่นด้านดีไซน์ที่สวยงามแบบ Kaleidoscopes ผสานกับไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่ระดับ 10 มิลลิเมตร พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Bass Boost เพื่อช่วยปรับเสียงเบสให้หนักแน่น และยังมีฟีเจอร์ Game Mode สำหรับช่วยลดความหน่วงของเสียงเหลือต่ำเพียง 88 มิลลิวินาที เท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์บนสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดี

ล่าสุดวันนี้ ( 2 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 น. ) realme Watch 2, realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว พร้อมได้ประกาศราคาวางจำหน่ายของแต่ละรุ่นออกมาแล้วเช่นกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

realme Watch 2 Pro ราคาโปรโมชั่นพิเศษ (มีจำนวนจำกัด) ที่ 2,999 บาท (จากราคาปกติ 3,499 บาท ) เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่สี Metallic Silver และ Space Grey

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง realme ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่ง realme Watch 2 Pro และ realme Buds Q2 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ realme Watch 2 Pro

- หน้าจอแสดงผลสีขนาด 1.75 นิ้ว (4.4 เซนติเมตร) ความละเอียด 320x385 พิกเซล พร้อมความสว่างสูงสุด 600 nits และค่า Refresh Rate ที่ 30 เฟรมต่อวินาที - กระจกกันรอยหน้าจอขอบโค้งแบบ 2.5D พร้อมเคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ - หน้าปัดนาฬิกา (Watch Face) มากกว่า 100 รูปแบบที่ได้รับการออกแบบร่วมกับ Grafflexนักออกแบบชาวเกาหลีใต้ พร้อมรองรับฟังก์ชัน Live Watch Faces - สายนาฬิกาซิลิโคนไม่ระคายต่อผิว พร้อมตัวล็อกแบบหัวเข็มขัด สามารถปรับความกระชับได้มากถึง 24 ระดับ - มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (Space Grey และ Metallic Silver) - เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ (PPG) - เซนเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) - เซนเซอร์ 3-Axis Accelerometer - เชื่อมต่อไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 พร้อมรองรับ realme Link - ระบบระบุตำแหน่งด้วยดาวเทียมแบบ High-Precision Dual-Satellite GPS - แบตเตอรี่ขนาด 390 mAh ที่สามารถสแตนด์บายได้นานสูงสุด 14 วัน - มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นในระดับ IP68 - โหมดการออกกำลังกาย 90 รูปแบบ - ระบบการแจ้งเตือนแบบ Smart Notifications สำหรับแจ้งเตือนสายโทรเข้า, สภาพอากาศ และข้อความ - รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อสั่งการต่าง ๆ เช่น อ่านข้อความ, ควบคุมเพลง หรือควบคุมกล้องถ่ายภาพ - ราคา 2,999 บาท (ราคาพิเศษจำนวนจำกัด) (ราคาปกติคือ 3,499 บาท) ถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดเด่นของ realme Buds Q2

- ดีไซน์สวยหรูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Kaleidoscopes และพื้นผิวมีคุณสมบัติของการป้องกันรอยนิ้วมือ - ตัวหูฟังถูกออกแบบให้เหมาะสมกับรูปทรงหูชั้นใน เพื่อช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบาย - น้ำหนักหูฟัง realme Buds Q2 ต่อหนึ่งข้างเพียง 4.1 กรัม และน้ำหนักรวมเคสชาร์จเพียง 39 กรัม - มีคุณสมบัติของการป้องกันละอองน้ำในระดับ IPX4 (เฉพาะตัวหูฟัง) - มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (Classic Black และ Unique Blue) - แบตเตอรี่ของหูฟังขนาด 40 mAh และแบตเตอรี่ของเคสชาร์จขนาด 400 mAh ที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 20 ชั่วโมง หรือต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงโดยไม่มีเคสชาร์จ - ชาร์จแบตเตอรี่ 10 นาที ใช้ฟังเพลงได้ 120 นาที - ชาร์จแบตเตอรี่หูฟังเต็ม 100% ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาที และชาร์จแบตเตอรี่เคสเต็ม 100% ใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง - ไดรเวอร์เสียงขนาด 10 มิลลิเมตร พร้อมระบบ Dynamic Bass Boost สำหรับช่วยขับเสียงเบสให้มีความหนักแน่น - รองรับย่านความถี่เสียงที่ 20Hz-20kHz - Game Mode สำหรับลดความหน่วงของเสียงเหลือเพียง 88 มิลลิวินาที (88ms Super Low Latency) - รองรับเทคโนโลยีการเล่นเสียงคุณภาพสูงแบบ AAC (Advanced Audio Coding) - ระบบตัดเสียงรบกวนขณะสนทนาแบบ Environmental Noise Cancellation (ENC) - รองรับการแตะที่ด้านนอกของหูฟังเพื่อสั่งการ - เชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 - ราคา 999 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ realme Watch 2 Pro

- มีให้เลือกเพียงขนาดเดียว - ระบบปฏิบัติการไม่ใช่ Wear OS by Google ส่งผลให้ไม่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อติดตั้งลงบนนาฬิกาได้

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ realme Buds Q2

Leave a Comment