อัปเกรดดีไซน์ พร้อมกล้องใหม่ทั้งหน้า-หลัง และชิปเซ็ตที่เก่งกว่าเดิม ในราคาเริ่มไม่ถึงหมื่น ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว 48 ล้านพิกเซล ผสานระบบกันสั่น Super Steady, กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล, จอ Infinity-U Super AMOLED พร้อมสแกนนิ้วบนหน้าจอ, ชิปเซ็ต Exynos 9611 ใหม่ล่าสุด, ROM สูงสุด 128GB, RAM สูงสุด 6GB และแบตเตอรี่ชาร์จเร็ว 4000 mAh บนตัวเครื่องดีไซน์ใหม่แบบ Prism Holographic ในราคาเริ่มเพียง 8,990 บาท
7 พฤศจิกายน 2019 - หลังจากที่ทางทีมงานได้ทำการรีวิวสมาร์ทโฟนรุ่นอัปเกรดจากตระกูล Galaxy A Series ของทาง Samsung ไปทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ Samsung Galaxy A10s , Galaxy A20s และ Galaxy A30s ล่าสุดก็ถึงคิวพี่ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy A50s กันแล้ว
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบแบบ Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.4 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล) ที่มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนนิ้วไว้บนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) ส่วนที่ด้านหลังโค้งรับกับฝ่ามือแบบ 3D Glasstic พร้อมเพิ่มลวดลายรูปทรงเลขาคณิตแบบ Prism Holographic ที่มีการไล่เฉดสีสะท้อนเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ ซึ่งช่วยให้ตัวเครื่องมีความสวยโดดเด่น และดูพรีเมียมมากขึ้น
และยังชูโรงด้วยกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) คมชัดมากขึ้นที่ 48 ล้านพิกเซล ประกอบกับเลนส์ Ultra-Wide ที่เก็บภาพมุมกว้างสุดที่ 123 องศา และเลนส์ Depth สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยรองรับฟังก์ชัน Live Focus และ Scene Optimizer ในการตรวจจับซีนต่างๆ รวมถึงการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion และฟังก์ชันใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับเรือธงรุ่นพี่ Galaxy Note10+ อย่าง AR Doodle โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง รวมถึงกล้องหน้าคมชัด 32 ล้านพิกเซล พร้อมรองรับโหมด Beauty สำหรับปรับค่าผิวสวย และการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ Live Focus รวมถึงฟีเจอร์ AR Emoji ลูกเล่นที่ช่วยเพิ่มสีสัน และความน่าสนใจให้กับภาพเซลฟี่
ด้านสเปกภายใน Samsung Galaxy A50s ครบด้วย ชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็ว 2.3 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP3 ทำงานคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB ผสานหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (ROM) ขนาด 128GB ที่ สามารถเพิ่ม microSD Card ได้มากถึง 512GB และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W Fast Charging ผ่านพอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่แบบ USB Type-C โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ครอบทับด้วย One UI
จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า Samsung Galaxy A50s มีจุดเด่นที่น่าสนใจในหลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ระดับพรีเมียมเทียบชั้นเรือธง พร้อมฟีเจอร์ที่จัดมาให้แบบครบครัน และกล้องหลัง 3 ตัวที่มีฟีเจอร์ลูกเล่นต่างๆ เพิ่มมากขึ้น กับราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เริ่มต้นที่ 8,990 บาท ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบสนองต่อการใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมการ รีวิว Samsung Galaxy A50s ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Samsung Galaxy A50s มาในแพ็กเกจสีขาวสะอาดตา พร้อมระบุชื่อรุ่น A50s ไว้อย่างชัดเจน
ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อะแดปเตอร์ 15W Fast Charging, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, หูฟัง, เคสใส, เข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด และคู่มือการใช้งาน
ภาพตัวอย่างการสวมใส่เคสใสที่แถมมาให้ภายใน แพ็กเกจ
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมหน้าจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 402 ppi) และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้งแบบ 2.5D บนตัวเครื่องมีขนาด 158.5x74.7x7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 169 กรัม
ที่ด้านบนหน้าจอมีรอยบากทรงหยดน้ำ สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปบริเวณขอบหน้าจอด้านบนจะมีการติดตั้งลำโพงสำหรับสนทนา และ Proximity Sensor สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน กับ Light Sensor สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม
โดยผู้ใช้สามารถเลือกปิด Notch ที่ด้านบนด้วยแถบสีดำแทน
พร้อมรองรับฟังก์ชัน Always-On Display ในการแสดงเวลา วันที่ รวมถึงการแจ้งเตือนขณะปิดหน้าจอ
รวมถึงรองรับระบบการสแกนใบหน้า (Face Recognition) สำหรับปลดล็อกหน้าจอ
ด้านหน้าส่วนล่างประกอบด้วย ปุ่มกดแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ
โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนมาใช้ Full Screen Gestures ในการใช้นิ้วลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการแบบต่างๆ ได้ด้วย
Samsung Galaxy A50s มีการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนหน้าจอแบบ On-Screen Fingerprint
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ที่ความจุสูงสุด 512GB ได้ในเวลาเดียวกัน
ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับ ตัดเสียงรบกวน
ที่ด้านล่างประกอบด้วยช่องสำหรับเชื่อมต่อหูฟัง ขนาด 3.5 มิลลิเมตร, พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา และลำโพงเสียงภายนอก
ที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy A50s มีดีไซน์เงางามคล้ายกระจกแบบ 3D Glasstic พร้อมความโค้งรับกับฝ่ามือขณะถือใช้งาน และมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิตแบบ Prism Holographic สะท้อนเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ โดยตัวเครื่องที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ได้ชมกันเป็นสีเขียว (Prism Crush Green)
กล้องตัวหลักที่ด้านหลังของ Samsung Galaxy A50s มีทั้งหมด 3 ตัว (AI Triple Camera) แบ่งออกเป็น กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง F/2.0, กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เก็บภาพมุมกว้างสุด 123 องศา และกล้องตัวที่สามเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยรองรับฟังก์ชัน Live Focus และ Scene Optimizer ในการตรวจจับซีนต่างๆ รวมถึงการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion และฟังก์ชันใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับเรือธงรุ่นพี่ Galaxy Note10+ อย่าง AR Doodle โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง
เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย User Interface แบบ One UI โดยรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการสแตนด์บายแบบ Dual 4G LTE และการสนทนาผ่านระบบ VoLTE
มีหน่วยความแรม (RAM) ขนาด 6GB พร้อมหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ได้สูงสุดที่ขนาด 512GB
เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Notification Center ซึ่งเป็นหน้ารวมสำหรับการแสดงแจ้งเตือนต่างๆ และเมื่อปัดลงอีกหนึ่งครั้งจะเป็นการขยายหน้าจอปุ่มลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชัน ต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ
โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งตำแหน่งของคีย์ลัด เองได้ตามความถนัด
และยังสามารถตั้งค่าจำนวนการแสดงผลของเมนูลัด ได้ทั้งหมด 3 รูปแบบ ตามความถนัด ได้แก่ 3x3, 4x3 (ค่าเริ่มต้น)
เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้นๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกดปุ่ม Close All ที่ด้านล่าง หรือกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันเพื่อเข้าสู่เมนูลัด
เมื่อปัดหน้าจอไปทางขวาจะพบกับผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby เพียงแต่จะไม่มีปุ่มกดเรียกเหมือนรุ่นเรือธง โดยในหน้า Bixby Home เป็นหน้า Dashboard ที่รวมเอากิจกรรมทุกอย่างที่เราทำเป็นประจำ รวมถึงกิจกรรมที่หน้าสนใจมารวมไว้ในหน้าเดียวกัน
เมื่อกดค้างที่หน้าจอจะเป็นการเข้าสู่เมนูการ ปรับแต่งหน้าจอ โดยผู้ใช้สามารถปรับตำแหน่งของไอคอน พร้อมเลือกใช้งานภาพพื้นหลัง, ธีม และ Widget ที่ต้องการได้
Samsung Galaxy A50s สามารถเลือกตั้งค่าการแสดงผลแบบปกติ หรือแบบ Night Mode ที่จะปรับพื้นหลังให้เป็นสีดำ
พร้อมฟังก์ชันการตัดแสงสีฟ้า Blue Light Filter
มีโหมดการแสดงผลมาตรฐานมาให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ ปกติ (Basic) และโหมดสดใส (Vivid) ที่สามารถปรับตั้งค่า White Balance ได้เอง
สามารถปรับขนาดตัวอักษร และการซูมหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานของแต่ละท่านได้
และด้วยดีไซน์ของ Samsung Galaxy A50s ที่เป็นจอไร้ขอบแบบ Infinity-U Display ในอัตราส่วน 19.5:9 จึงสามารถปรับให้บางแอปพลิเคชันสามารถแสดงผลในสัดส่วนแบบเต็มหน้าจอ และสามารถเลือกปิด Notch ที่อยู่ด้านบน โดยเปลี่ยนให้เป็นแถบสีดำแทนได้
สามารถเลือกการแสดงผลของ Home Screen Layout ได้ 2 แบบ ตามความถนัดของผู้ใช้
พร้อมตั้งค่าจำนวนการแสดงผลของไอคอนบนหน้าจอ ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ 4x5 (ค่าเริ่มต้น), 4x6, 5x5 และ 5x6
สามารถตั้งค่าใช้งาน Edge Screen เพื่อเข้าสู่เมนูลัด เพียงปัดนิ้วจากด้านขวาของหน้าจอ พร้อมเลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งานได้ตามความถนัดของแต่ละคน
รวมถึงฟังก์ชัน Edge Lighting การแจ้งเตือนด้วยไฟวิ่งรอบหน้าจอ
ที่สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือน พร้อมปรับแต่งรูปแบบ และสีของไฟตามที่ชอบได้อีกด้วย
และยังตั้งค่าหน้าจอได้ 2 รูปแบบ ได้แก่ Standard Mode และ Easy Mode
สามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้ หรือเลือกใช้งานการควบคุมแบบ Full Screen Gestures ในการปัดหน้าจอขึ้นลักษณะต่างๆ เพื่อสั่งการ โดยสามารถเลือกให้แสดง หรือปิด Gesture hints ได้
สำหรับฟังก์ชัน Always-On Display สามารถเลือกการแสดงผล และดีไซน์ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงเลือกให้แสดง Notification ต่างๆ ในหน้า Always-On ขณะปิดหน้าจอ และเลือกเปลี่ยนสี / ดีไซน์ของนาฬิกาได้ด้วย
โดยผู้ใช้สามารถเปลี่ยนธีม, ภาพพื้นหลัง รวมถึงไอคอน และรูปแบบฟังก์ชัน Always-On Display ได้ที่แอปพลิเคชัน Galaxy Theme ซึ่งมีทั้งแบบใช้งานฟรี และต้องสั่งซื้อเพิ่ม
สำหรับรูปแบบของ Screen Lock มีด้วยกัน 4 รูปแบบ
รองรับการปลดล็อกหน้าจอด้วยเซ็นเซอร์สแกนลาย นิ้วมือที่ฝังอยู่บนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) ที่สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซ็นเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็ว
และการสแกนใบหน้า (Face Recognition) ที่สามารถระบุได้ว่าเราสวมใส่แว่นตาเป็นประจำหรือไม่ เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่สวมแว่นตาโดยเฉพาะ
Samsung Galaxy A50s รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายระยะใกล้แบบ NFC จึงสามารถใช้บริการแตะจ่ายเงินผ่านมือถือด้วยบริการต่างๆ ได้
รองรับการตั้งค่า Side keys สำหรับเข้าสู่แอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้ด้วยการกดปุ่ม Power ที่ด้านขวาตัวเครื่อง 2 ครั้งติดกัน
Samsung Galaxy A50s รองรับฟังก์ชัน Smart Pop-up View สำหรับการย่อแอปพลิเคชันให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่าง อิสระ, ปรับขนาดได้ และทำงานอย่างอื่นไปพร้อมๆ กันได้
รองรับฟังก์ชัน Direct Share สำหรับแชร์ข้อมูลต่างๆ ให้กับเพื่อนได้ทันที
และ Motions and Gestures ในการตรวจจับท่าทางเพื่อสั่งการ ได้แก่ Smart Stay ที่ช่วยเปิดหน้าจอค้างไว้ จากการตรวจจับระดับสายตาของผู้ใช้จากกล้องหน้า
Smart Alert สำหรับสั่นเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับ, Easy Mute คว่ำหน้าจอลงเพื่อปิดเสียงสายเรียกเข้า
และการสกรีนช็อตด้วยการลากมือผ่านหน้าจอ กับการเลื่อนแถบรายชื่อผู้ติดต่อเพื่อโทร หรือส่งข้อความในทันที
รองรับฟังก์ชัน One-Handed Mode สำหรับย่อหน้าต่างให้มีขนาดเล็กลงมาเพื่อช่วยให้ใช้งานมือถือด้วยมือเดียวอย่างสะดวก ขึ้น
สามารถใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือแอปพลิเคชันแชทได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ ผ่านฟังก์ชัน Dual Messenger
และตั้งค่าการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ด้วยการส่งข้อความ SOS ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อที่ตั้งค่าไว้ได้
เมื่อกดค้างที่ไอคอนแอปพลิเคชันจะพบกับเมนูลัด ต่างๆ
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh โดยรองรับระบบการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 15W Super Fast Charging ที่ช่วยย่นระยะเวลาในการชาร์จให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
รองรับฟังก์ชัน Split-Screen View ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน
มีแอปพลิเคชันจากทาง Samsung อย่าง Samsung Max ที่ช่วยในการประหยัดปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi
SmartThings แอปพลิเคชันสำหรับจัดการกับระบบบ้านอัจฉริยะ ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมควบคุมการทำงานได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็มีให้ใช้บน Samsung Galaxy A50s ด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung ประทับใจมานานแล้วก็คือ Galaxy Gift นั่นเอง เพราะเหมือนกับเป็นศูนย์รวมโปรโมชั่น, ส่วนลด หรือของฟรี ต่างๆ มากมาย เพื่อผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Samsung โดยเฉพาะ ทั้งอาหาร, ขนม, เครื่องดื่ม, ที่พัก, บัตรชมภาพยนตร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์เสริม และอีกมากมาย
Samsung Members ที่เปรียบเหมือนแอปพลิเคชันบริการหลังการขายเคลื่อนที่ ด้วยช่องทางการแจ้งปัญหาการใช้งานแบบออนไลน์, การสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่, สิทธิพิเศษ และเครื่องมือสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพ พร้อมการทดสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่
และมี Samsung Health แอปพลิเคชันสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ และการออกกำลังกาย ให้สามารถวางแผนการกิน, การพักผ่อน และการออกกำลังกายของตนเองในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น
รวมถึง Samsung Wearable สำหรับเชื่อมต่อ และตั้งค่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของ Samsung
ทางด้านอัลบั้มภาพถ่ายนั้นสามารถแสดงภาพถ่ายได้ หลักๆ 2 แบบ คือ แสดงแบบแยกอัลบั้ม กับแบบรวมภาพถ่ายทั้งหมด
ในส่วนของเว็บเบราว์เซอร์ก็ตอบสนองต่อการใช้งาน ได้ดี ไหลลื่น และสามารถแสดงเนื้อหาทั้งหมดได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดยสามารถเลือกให้แสดงผลแบบปกติ และแบบ Night Mode (เมื่อเปิดการแสดงผลหน้าจอแบบ Night Mode) รวมถึงตั้งค่า Ad Blockers สำหรับปิดการรบกวนจากโฆษณาต่างๆ บนเว็บไซต์
นอกจากนี้ Samsung Galaxy A50s ยังมีฟีเจอร์ Game Launcher ที่รวมเกมทั้งหมดภายในเครื่องมารวมไว้ในที่เดียวกัน พร้อมฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่นฟังก์ชันประหยัดพลังงานขณะเล่นเกม หรือปิดการแจ้งเตือนขณะเล่นเกม
และยังมีฟังก์ชันปรับค่าประสิทธิภาพ ให้เราเลือกได้ว่าจะให้ระบบรันเกมโดยลดประสิทธิภาพลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ หรือรันโดยเน้นประสิทธิภาพการเล่นเกมขั้นสูงสุดโดยไม่ต้องสนใจแบตเตอรี่ และสามารถตั้งค่าแยกเฉพาะแต่ละเกมได้ด้วย ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้เราปรับประสิทธิภาพการเล่นเกมให้เหมาะกับสถานการณ์มากขึ้น เช่นการเปิดบอททิ้งไว้ ซึ่งเราไม่ได้ต้องการกราฟิกสวยๆ หรือความลื่นไหล แต่ต้องการเปิดทิ้งไว้ให้นานที่สุด ในทางกลับกัน เมื่อเราเล่นเกมด้วยตัวเอง เราก็ต้องการให้ตัวเกมลื่นไหลที่สุด และมีกราฟิกสวยงาม เป็นต้น
เมื่อเล่นเกมในโหมด Game Launcher จะมีเมนูลัดเพิ่มเข้ามาในแถบนำทาง ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าการบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ และการโทรได้ พร้อมเมนูลัดเพิ่มเข้ามาในแถบนำทาง ซึ่งสามารถเลือกตั้งค่าการบล็อกการแจ้งเตือนต่างๆ และการโทรได้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ แบบ Pop-Up ขณะเล่น และการล็อกหน้าจออัตโนมัติเมื่อเปิดเกมทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่ง
โดยในโหมดล็อกหน้าจอ ระบบจะลดความสว่างของหน้าจอ, ล็อกการสัมผัส และลดเฟรมเรตของตัวเกมลง แต่เกมจะยังคงรันต่อไปเรื่อยๆ เหมาะสำหรับการเปิดบอททิ้งไว้ เพราะประหยัดพลังงานกว่าการเปิดเกมไว้ตลอด และช่วยป้องกันการสัมผัสปุ่มต่างๆ โดยไม่ตั้งใจได้
สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Samsung Galaxy A50s นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor
สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 32 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 4 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ หรือสภาพอากาศด้วยนั่นเอง
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 9611 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.3 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP3, หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้อีก 512GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย One UI
Samsung Galaxy A50s มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 181,412 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 4 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 1,688 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 5,386 คะแนน
สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,390 คะแนน ส่วนการทดสอบแบบ Vulkan ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,482 คะแนน
Samsung Galaxy A50s รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง PUBG Mobile, Marvel Future Fight และ MortalKombat ก็พบว่า Samsung Galaxy A50s นั้นสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ และมีอัตราส่วนแบบ 19.5:9 จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับระบบกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 + 8 + 5 ล้านพิกเซล โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และสัดส่วนภาพถ่าย
พร้อมใส่ฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้ และสามารถปรับค่าผิวสวยในโหมด Beauty
Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับเลนส์ Ultra-Wide ที่สามารถเก็บภาพในมุมกว้างสุด 123 องศา
ในโหมดการถ่ายภาพปกติมีเทคโนโลยี Scene Optimizer ที่เป็นการนำเอาระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาช่วยวิเคราะห์สภาพแวดล้อม และวัตถุที่อยู่ตรงหน้า เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าของกล้องให้เหมาะสมแบบอัตโนมัติ
ฟังก์ชัน Live Focus สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ พร้อมปรับค่า Skin Tone ได้ 8 ระดับ
และยังสามารถปรับระดับความเบลอ รวมถึงรูปแบบของ Bokeh ในภายหลังได้อีกด้วย
รองรับโหมดถ่ายภาพมุมกว้างแบบ Panorama ทั้งในมุมปกติ และมุมกว้างแบบ Ultra-Wide
พร้อมโหมดถ่ายภาพอาหาร
และโหมด Night สำหรับถ่ายภาพในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ
สำหรับการถ่ายโหมด Pro บน Samsung Galaxy A50s มาพร้อมกับรายละเอียดการตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด
และมีสติกเกอร์แบบต่างๆ ในโหมด AR Emoji ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้แก่การถ่ายภาพ
พร้อมถ่ายภาพด้วยการตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบ หน้าของผู้ใช้ ที่สามารถเปลี่ยนสีพื้นหลัง รวมถึงเลือกถ่ายแบบเฉพาะส่วนหัวได้
ด้านการถ่ายวิดีโอ Samsung Galaxy A50s สามารถถ่ายในมุมมองปกติ และมุมกว้างด้วยเลนส์ Ultra-Wide ได้ โดยรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p
สามารถใส่ฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้ และปรับค่าผิวสวยในโหมด Beauty
และมาพร้อมกับโหมดป้องกันการสั่นไหวแบบ Super Steady เหมือนกับรุ่นเรือธง ที่ช่วยให้การถ่ายวิดีโอเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow-mo, Slow-Motion และ Hyperlapse
นอกจากนี้ยังรองรับฟีเจอร์ AR Doodle ใหม่ล่าสุดแบบเดียวกับบน Galaxy Note10+ โดยจะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง
สำหรับกล้องหน้าของ Samsung Galaxy A50s มีความคมชัดระดับ 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับ F/2.0 โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์สะอาดตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน เหมือนกับกล้องหลัง ได้แก่ การเปิด-ปิด ไฟแฟลช, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และสัดส่วนภาพถ่าย
สามารถใส่ฟีลเตอร์แบบต่างๆ ได้
พร้อมปรับค่าผิวเนียนในโหมด Beauty ได้ 3 ระดับ และปรับสัดส่วนใบหน้า, ขนาดกราม และขนาดของดวงตาได้
รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอด้วยฟังก์ชัน Live Focus โดยสามารถปรับระดับความเบลอได้ 7 ระดับ
พร้อมปรับค่า Skin Tone ได้ 8 ระดับ
และยังสามารถปรับระดับความเบลอ รวมถึงรูปแบบของ Bokeh ในภายหลังได้
กล้องหน้าของ Samsung Galaxy A50s ก็มาพร้อมกับ AR Emoji ในการสร้างอวาตารของผู้ใช้ในรูปแบบการ์ตูน 3 มิติ ที่สามารถปรับแต่งโครงสร้างใบหน้า ร่างกาย รวมถึงการแต่งตัวได้ตามใจชอบ โดยสามารถเลือกดาวน์โหลดเครื่องแต่งกายได้เพิ่มเติมที่แอปพลิเคชัน Galaxy Store ซึ่งมีทั้งแบบฟรี และเสียเงิน
สามารถเปลี่ยนสีพื้นหลัง และบันทึกภาพลงเครื่อง พร้อมแชร์ให้เพื่อนได้ในทันที
และยังสร้างเป็นสติ้กเกอร์เลื่อนไหวในท่าทาง ต่างๆ พร้อมแชร์ให้กับเพื่อนได้ทันที โดยผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง เพิ่มสติ้กเกอร์ และเพิ่มข้อความลงไปได้อีกด้วย
โดยการถ่ายภาพในโหมด AR Emoji จะสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวบนใบหน้าของผู้ใช้ ที่สามารถเลือกถ่ายแบบเฉพาะส่วนหัว และเปลี่ยนสีพื้นหลังได้
และสติกเกอร์น่ารักๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายเซลฟี่
ด้านการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้ารองรับความ ละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD+ 1080p
สามารถเพิ่มฟีเตอร์แบบต่างๆ ได้ พร้อมปรับค่า Skin Tone ได้ 8 ระดับ
และรองรับฟีเจอร์ AR Doodle ด้วยเช่นกัน
รวมถึงการเพิ่มสติกเกอร์แบบต่างๆ ในโหมด AR Emoji
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียดระดับ 48+8+5 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A50s
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide
ภาพถ่ายจากโหมด Food
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus พร้อมปรับ Bokeh เป็นรูปหัวใจ
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus พร้อมปรับ Bokeh เป็นรูปผีเสื้อ
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Blur (ค่าเริ่มต้น)
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Spin
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Zoom
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Color Point
ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องดิจิทัลด้านหน้าของตัวเครื่อง ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลของ Samsung Galaxy A50s
ภาพถ่ายจากโหมดปกติ
ภาพถ่ายจากโหมด Beauty ที่ระดับ 1
ภาพถ่ายจากโหมด Beauty ที่ระดับ 2
ภาพถ่ายจากโหมด Beauty ที่ระดับ 3
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Blur (ค่าเริ่มต้น)
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Spin
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Zoom
ภาพถ่ายจากโหมด Live Focus แบบ Color Point
สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A50s
จากการทดสอบทั้งหมดในข้างต้นพอจะกล่าวได้ว่า Samsung Galaxy A50s มีความน่าสนใจหลายด้าน เริ่มตั้งแต่การดีไซน์ฝาหลังโฉมใหม่หมดจดที่พรีเมียมมากยิ่งขึ้นในชื่อ Prism Holographic ที่มีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต พร้อมการไล่เฉดสีสะท้อนเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ และเงางาม โค้งรับกับฝ่ามือแบบ 3D Glasstic ส่วนด้านหน้าใช้ดีไซน์เดิมอย่าง Infinity-U Display เทคโนโลยี Super AMOLED ที่มีการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้บนหน้าจอแบบ On-Screen Fingerprint กับขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 402 ppi) ที่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอคมชัดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับการอัปเกรดอย่างเห็นได้ ชัดก็คือกล้องตัวหลัก โดย Samsung Galaxy A50s ใช้ระบบกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ที่มีความคมชัดกว่ารุ่นก่อนที่ 48 ล้านพิกเซล (รูรับแสงขนาด F/2.0) พร้อมกับเลนส์มุมกว้างแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถเก็บภาพในมุมกว้างสุดที่ 123 องศา จึงไม่ต้องถอยห่างจากวัตถุมากก็สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ รวมถึงเลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สำหรับทำภาพหน้าชัดหลังเบลอในฟังก์ชัน Live Focus โดยในโหมดนี้ยัง สามารถ ปรับระดับความเบลอ รวมถึงรูปแบบการเบลอ และรูปแบบของ Bokeh ให้เป็นรูปต่างๆ อย่างเช่น หัวใจ, ดวงดาว, ผีเสื้อ, โน๊ตดนตรี ได้ในภายหลังอีกด้วย อีกทั้งยังรองรับฟังก์ชัน Scene Optimizer ในการตรวจจับซีนต่างๆ, โหมดถ่ายภาพอาหาร (Food) และโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night) โดยเฉพาะ รวมถึงการถ่ายวิดีโอแบบ Slow-Motion และฟังก์ชันใหม่ล่าสุดที่ถอดแบบมาจากเรือธงรุ่นพี่ Galaxy Note10+ อย่าง AR Doodle ที่จะทำการตรวจจับใบหน้า พร้อมวาดสิ่งที่เราต้องลงไปเพิ่มได้ และสิ่งที่เราวาดลงไปจะเคลื่อนไหวตามใบหน้าของเรานั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มสีสันให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี ทางด้าน กล้องหน้าเองก็คมชัดมากขึ้นที่ 32 ล้านพิกเซล โดยมาพร้อมกับโหมด Beauty สำหรับปรับค่าผิวสวย และการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ Live Focus รวมถึงฟีเจอร์ AR Emoji สำหรับสร้างอวตารของผู้ใช้ที่สามารถตรวจจับใบหน้าขณะถ่ายภาพได้ และสติกเกอร์รูปแบบต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสัน และความน่าสนใจให้กับการเซลฟี่
Samsung Galaxy A50s รันการทำงานด้วยชิปเซ็ต Exynos 9611 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็ว 2.3 GHz พร้อมหน่วย ประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G72 MP3 ทำงานคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6GB มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้มากถึง 512GB จึงสามารถเก็บภาพ, ไฟล์ข้อมูล, แอปพลิเคชัน และเกม ได้อย่างจุใจ รวมถึงหมดปัญหาการเลือกใช้งานในช่องซิมการ์ดที่สอง เนื่องจาก Galaxy A50s รองรับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot ที่สามารถใช้งาน 2 ซิมการ์ด + 1 microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องตลอดวัน พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 15W Fast Charging ผ่านพอร์ตการเชื่อมต่อมาตรฐานใหม่แบบ USB Type-C โดยทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ครอบทับด้วย One UI
นอกเหนือไปจากฟีเจอร์เด่นข้างต้น Samsung Galaxy A50s ยังรองรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อบนเครือข่าย 4G LTE ได้ทั้ง 2 ซิมการ์ด แบบ Dual 4G , ฟังก์ชัน Dual Messenger สำหรับใช้งานแอ ปพลิเคชันประเภทโซเชียลมีเดียได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ อย่างเช่น เช่น Facebook หรือ Line, ฟังก์ชัน Screen-Split View ที่สามารถใช้งาน 2 แอปพลิเคชันได้พร้อมกัน และ Smart Pop-Up View สำหรับ การย่อแอปพลิเคชันให้เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่สามารถเลื่อนตำแหน่งได้อย่าง อิสระ, ปรับขนาดได้ และทำงานอย่างอื่นไปพร้อมๆ กันได้
และยังมีแอปพลิเคชันพิเศษสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ท โฟน Samsung โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Gift ที่มา พร้อมกับโปรโมชั่น ส่วนลด รวมถึงของฟรีต่างๆ ทั้งสินค้า และบริการจากแบรนด์ชั้นนำ แบบพิเศษเฉพาะผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung, Samsung Max ที่ช่วยในการประหยัดปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ Wi-Fi, SmartThings สำหรับจัดการกับระบบบ้านอัจฉริยะ ด้วยการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมควบคุมการทำงานได้จากสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว, Samsung Members ที่ เป็นเหมือนแอปพลิเคชันบริการหลังการขายเคลื่อนที่ พร้อมเครื่องมือสำหรับปรับปรุงประสิทธิภาพ และ Samsung Health แอปพลิเคชันสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ และการออกกำลังกาย ให้สามารถวางแผนการกิน, การพักผ่อน และการออกกำลังกายของตนเองในแต่ละวันได้ง่ายขึ้น
จากการทดสอบทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า Samsung Galaxy A50s เหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เน้นใช้งานในด้านทั่วไป และต้องการฟังก์ชันที่ครบครัน ไม่ว่าจะทำงาน หรือใช้งานเพื่อความบันเทิงอย่างเล่นเกม และดูซีรีส์เรื่องโปรด รวมถึงชื่นชอบการถ่ายภาพ ด้วยกล้องทั้ง 3 ตัว (Triple Camera) ที่มีฟีเจอร์ และลูกเล่นต่างๆ ครบครัน ในราคาสมเหตุสมผล พร้อมกับมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน รวมถึงรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ช่วยให้ใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับ Samsung Galaxy A50s เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่ 8,990 บาท สำหรับรุ่น 4GB+64GB และราคา 10,990 บาท สำหรับรุ่น 6GB+128GB กับตัวเลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Prim Crush Green, Prim Crush Black และ Prim Crush White โดยวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้าน Samsung Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A50s มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ
จุดเด่นของ Samsung Galaxy A50s
- ด้านหลังตัวเครื่องมีดีไซน์เงางามคล้ายกระจกแบบ 3D Glasstic พร้อมความโค้งรับกับฝ่ามือ และมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิตแบบ Prism Holographic สะท้อนเล่นกับแสงในมุมตกกระทบต่างๆ - หน้าจอแสดงผล Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.4 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2340 พิกเซล : 402 ppi) - ชิปเซ็ตประมวลผล Octa-Core Exynos 9611 ความเร็ว 2.3 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ Mali-G72 MP3 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4GB หรือ 6GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64GB หรือ 128GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ความจุ 512GB - ถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Triple-Slot รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) และ microSD Card ได้ในเวลาเดียวกัน - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย One UI - กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ความละเอียด 48 + 8 + 5ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide และ Depth Camera โดยมีF/2.0 + F/2.2 + F/2.2 ซึ่งรองรับฟีเจอร์ Live Focusในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และเทคโนโลยี Scene Optimizerในการตรวจจับซีนต่างๆ จากทั้งหมด 20 หมวดหมู่, ฟังก์ชัน AR Emoji, โหมด Foodสำหรับถ่ายภาพอาหาร, โหมด Night สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืนและการถ่ายวิดีโอในโหมด Super Steady, การถ่ายวิดีโอแบบ Super Slow-Motionรวมถึงฟังก์ชัน AR Doodle - กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล โดยมี F/2.0 รองรับฟังก์ชัน Live Focus, ฟังก์ชัน AR Emoji และ AR Doodle - เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (On-Screen Fingerprint) - ระบบสแกนใบหน้า (Face Recognition) - ระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby - ฟังก์ชัน Dual Messenger สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันประเภทโซเชียลมีเดียได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ - ช่องเสียบหูฟังมาตรฐานแบบ 3.5 มิลลิเมตร - แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 15W Fast Charging - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G LTE, 3G, EDGE, GPRS และ WiFi dual Band - รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 และ NFC - รองรับบริการแตะจ่ายเงินผ่านมือถือ - รองรับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - ระบบ GPS+A-GPS ในตัว พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย, Beidou ของประเทศจีน และ GALILEO ของสหภาพยุโรป - รุ่น 4GB+64GB ราคา 8,990 บาท และรุ่น 6GB+128GB ราคา 10,990 บาท ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A50s
