รีวิว Samsung Galaxy A52s 5G กล้องดีมี OIS พร้อมชิปแรง จอสวยลื่น บอดี้ทนน้ำ แบตชาร์จไว ในราคาเอื้อมถึง :: Thaimobilecenter.com Samsung Galaxy A52s 5G

10 กันยายน 2021 - Galaxy A Series เป็นสมาร์ทโฟนที่ค่อนข้างน่าจับตามองเป็นอย่างมากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะ Samsung ได้นำฟีเจอร์หลายอย่างที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงมาใส่ไว้สมาร์ทโฟนซีรีส์ดังกล่าว พร้อมกับทำราคาให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เราสัมผัสฟีเจอร์ระดับเรือธงในราคาสบายกระเป๋า ซึ่งล่าสุดนี้ทาง Samsung ก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy A52s 5G ที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านการรองรับการเชื่อมต่อ 5G , หน้าจอ Super AMOLED ที่ลื่นไหลระดับ 120Hz พร้อมชิปเซ็ตประมวลผลที่มีความเร็วแรง และกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง ที่มีโหมด Single Take เก็บทุกภาพความประทับใจ กับระบบป้องกันการสั่นอย่างดี ในราคาวางจำหน่ายเพียง 13,999 บาทเท่านั้น

Galaxy A52s มาพร้อมกับจุดเด่นด้านหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ที่ขึ้นชื่อด้านความคมชัด แสดงสีสันได้อย่างสดใส พร้อมค่า Refresh Rate สูงระดับ 120Hz ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นฟีเจอร์ที่เรามักจะเห็นในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงตระกูล S Series, Note Series หรือ Z Series ส่วนภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตประมวลผลรองท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 778G ที่ประมวลผลได้เร็วขึ้น และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB กับหน่วยความจำ ROM ขนาด 128 GB รวมทั้งรองรับการ์ด microSD ได้อีกสูงสุด 1 TB บนตัวเครื่องที่ทนน้ำทนฝุ่นได้ในระดับ IP67 ซึ่งสามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลานานสูงสุด 30 นาที

ด้านการถ่ายภาพก็มาพร้อมกับชุดกล้องหลังจำนวน 4 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล ที่ให้เลนส์การถ่ายภาพมาครบทุกระยะ พร้อมโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจอย่าง Single Take สำหรับกดถ่ายเพียงครั้งเดียวก็ไม่พลาดทุกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไปจนถึงฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่รองรับการบันทึกไฟล์ที่ความละเอียดสูง 4K ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง รวมทั้งยังรองรับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS กับ Super Steady ที่ช่วยให้กล้องมีความนิ่งราวกับกล้อง Action Camera

ส่วนเรื่องความอึดของการใช้งานก็หายห่วง เพราะมากับแบตเตอรี่ความจุถึง 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 25W Super Fast Charging ที่ชาร์จได้รวดเร็วทันใจ

สำหรับตัวเครื่องจริงของ Galaxy A52s 5G จะมีความสวยงามเพียงใด, รายละเอียดแต่ละส่วนจะเป็นอย่างไร และจะมีฟีเจอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามรีวิวกันต่อได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

Galaxy A52s 5G1 มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ บนดีไซน์แบบ Infinity-O Display ซึ่งเป็นหน้าจอแสดงผลขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้านที่มีการเจาะรูบริเวณตรงกลางหน้าจอเพื่อติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่

นอกจากนี้ หน้าจอของ Galaxy A52s 5G ยังมาพร้อมกับค่าความสว่างสูงถึง 800 nits ช่วยให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยี Super Smooth หรือค่า Refresh Rate ในระดับ 120Hz ช่วยให้แสดงผลได้อย่างลื่นไหลเนียนตา และที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ Eye Comfort Shield สำหรับช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย

ที่ด้านบนของหน้าจอแสดงผลมาพร้อมกับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงขนาด f2.2 พร้อมลำโพงเสียงสำหรับสนทนาที่ทำหน้าที่เป็นลำโพงตัวที่สองคู่กับลำโพงเสียงตัวหลัก เพื่อขับเสียงแบบ Stereo

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องมาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบสัมผัส ประกอบไปด้วย ปุ่ม Recent Apps สำหรับเรียกดูแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งาน, ปุ่ม Home สำหรับกลับไปยังหน้าโฮมสกรีน และปุ่ม Back สำหรับย้อนกลับ

นอกจากนี้ ที่ด้านล่างของหน้าจอยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ เพื่อช่วยให้วางนิ้วเพื่อปลดล็อกได้อย่างฉับไว

ที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มควบคุมใด ๆ

ที่ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน และถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid Slot รองรับการใช้งานซิมการ์ดแบบ nanoSIM และรองรับการเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ความจุสูงสุด 1TB ที่ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องประกอบไปด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด เครื่อง

ที่ด้านล่างของตัวเครื่องประกอบไปด้วย พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C และลำโพงเสียงตัวหลัก โดย Galaxy A52s 5G นั้นรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อช่วยขับเสียงให้มีมิติมากขึ้นอีกด้วย

ที่ด้านหลังของตัวเครื่องมาพร้อมกับบอดี้ที่มีผิวสัมผัสแบบด้าน (Matte Finish) โดยสีที่ทุกท่านได้รับชมอยู่นี้คือ สีม่วงไวโอเล็ต Awesome Violet ส่วนตัวเลือกสีอื่น ๆ ของ Galaxy A52s 5G ได้แก่ สีมิ้นท์ Awesome Mint และสีดำ Awesome Black)

ภายใต้บอดี้สวย ๆ ของ Galaxy A52s 5G ติดตั้งแบตเตอรี่มาให้ที่ขนาด 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 25W Super Fast Charging รวมทั้งยังมีคุณสมบัติของการทนกันน้ำ และทนฝุ่นในระดับ IP67 ซึ่งสามารถทนน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร เป็นระยะเวลานานสูงสุด 30 นาที

ที่ด้านบนติดตั้งชุดกล้องหลังจำนวน 4 ตัว ( Quad Camera ) โดยแบ่งออกเป็น

- กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.7 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 81 องศา), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS - กล้องตัวที่ 2 แบบ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 123 องศา - กล้องตัวที่ 3 แบบ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 - กล้องตัวที่ 4 แบบ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ

สำหรับแอปพลิเคชันที่ติดตั้งมาให้จะประกอบไป ด้วย แอปพลิเคชันพื้นฐานจาก Google และแอปพลิเคชันจาก Samsung เช่น Bixby, AR Zone และ My Files

เมื่อปัดไปทางด้านซ้ายจากหน้าโฮมสกรีนจะพบกับ Google Discover ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมข่าวสารอัปเดตล่าสุดประจำวันที่ถูกคัดสรรมาให้ทุกท่าน

เมื่อปัดนิ้วจากบนลงล่างจะพบ Quick Panel ซึ่งเป็นศูนย์รวมคีย์ลัดสำหรับตั้งค่าสมาร์ทโฟนแบบเร่งด่วน สามารถปรับแต่งการจัดเรียงของไอคอนได้โดยแตะที่ 3 จุดด้านขวาบน

Galaxy A52s 5G รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด โดยจะรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ในซิมการ์ดที่ 1

รองรับ Dark Mode สำหรับปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้อยู่ในโทนสีดำเพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตา และประหยัดการใช้พลังงานแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น

Motion Smoothness ฟีเจอร์ที่ช่วยปรับการแสดงผลของหน้าจอ มีให้เลือกทั้งหมด 2 ระดับ ได้แก่ High สำหรับปรับการแสดงผลระดับ 120Hz ช่วยให้ดูลื่นไหลเนียนตา และ Standard สำหรับปรับค่า Refresh Rate ระดับ 60Hz เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น

Eye Comfort Shield สำหรับปรับการแสดงผลให้อยู่ในโทนอุ่นเพื่อถนอมสายตา เหมาะแก่การใช้งานในตอนกลางคืนก่อนเข้านอน โดยสามารถปรับการทำงานได้ทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ Adaptive ที่ระบบจะเปลี่ยนอุณหภูมิสีให้เหมาะสมกับเวลาปัจจุบันแบบอัตโนมัติ และ Custom ที่ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาการเปิดใช้งาน รวมถึงค่าอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ตนเอง

สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงสีสันได้ทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ Vivid (สีสันสดใส) และ Natural (สีธรรมชาติ)

สามารถปรับเปลี่ยนขนาดของตัวอักษรได้ทั้งหมด 8 ระดับ และสามารถปรับขนาดการแสดงผลของหน้าจอได้ทั้งหมด 6 ระดับ

สามารถปรับเปลี่ยนธีมได้ที่แอปพลิเคชัน Galaxy Themes

รองรับฟีเจอร์ Link to Windows สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูการแจ้งเตือน หรือเล่นแอปพลิเคชันบางส่วนบนมือถือได้จากคอมพิวเตอร์

พร้อมรองรับฟีเจอร์ Android Auto สำหรับเชื่อมต่อกับรถยนต์ เพื่อช่วยให้ใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของมือถือ Android ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

Motions and gestures ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ควบคุมสมาร์ทโฟนด้วยท่าทางต่าง ๆ เช่น Lift to wake สำหรับปลุกหน้าจออัตโนมัติเมื่อยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาในระดับพร้อมใช้งาน, Double tap to turn on screen สำหรับปลุกหน้าจอเมื่อแตะหน้าจอสองครั้ง หรือ Mute with gestures สำหรับปิดเสียงการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อคว่ำหน้าจอแสดงผล

Bixby Routine ฟีเจอร์สำหรับสั่งการทำงานแบบอัตโนมัติตามเงื่อนไข if clause เช่น หากมาถึงบ้าน ให้เชื่อมต่อ Wi-Fi อัตโนมัติ หรือหากถึงเวลา 22.00 น. ให้เปิดโหมดห้ามรบกวน และเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ เป็นต้น

Dual Messenger สำหรับเล่นแอปพลิเคชันแบบ 2 แอคเคานท์แยกออกจากกันอย่างอิสระ

ในส่วนของระบบความปลอดภัย รองรับการบันทึกลายนิ้วมือสูงสุด 5 ลายนิ้วมือ และรองรับการบันทึกใบหน้าสูงสุด 1 ใบหน้า

พร้อมรองรับฟีเจอร์ Secure Folder สำหรับเก็บไฟล์ต่าง ๆ เอาไว้ในตู้เซฟเสมือน โดยจะมีเพียงผู้ที่รู้รหัส หรือผู้ที่ลงทะเบียนลายนิ้วมือ และใบหน้าเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใช้งานได้

มาดูที่ประสิทธิภาพการทำงานกันบ้าง Galaxy A52s 5G เลือกใช้ชิปเซ็ตประมวลผลระดับรองท็อปรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 778G ประกบคู่กับหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB และหน่วยความจำภายในขนาด 128GB พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย One UI 3.1 ตั้งแต่แกะกล่อง

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพของการทำงานโดยรวมด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu ก็พบว่าทำคะแนนได้ทั้งหมด 464,507 คะแนน

เมื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench 5 พบว่า ทำคะแนนการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single-Core) ได้ทั้งหมด 557 คะแนน และทำคะแนนการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ได้ทั้งหมด 2,410 คะแนน

เมื่อลองนำไปเล่นเกมที่มีกราฟิกระดับสูง และจำเป็นต้องใช้พลังการประมวลผลจำนวนมากอย่าง Genshin Impact ก็พบว่า Galaxy A52s 5G สามารถเปิดเล่นที่กราฟิกระดับสูงสุด และเฟรมเรทระดับสูงสุดได้ โดยจะมีอาการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง แต่หากปรับลดกราฟิกอยู่ในระดับกลาง ก็ถือว่าสามารถเล่นได้ไหลลื่นเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีอาการสะดุดให้พบเจอ

ทดสอบการจับสัญญาณดาวเทียมในสถานที่โล่งแจ้ง พบว่ามีค่าความคลาดเคลื่อน +- ไม่เกิน 8 เมตร โดยรองรับทั้งระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, Galileo, BeiDou และ QZSS

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

มาดูในด้านการถ่ายภาพกันบ้าง สำหรับ Galaxy A52s 5G เรียกได้ว่าจัดเต็มด้านโหมดการถ่ายภาพเพื่อรองรับการบันทึกภาพความประทับใจในทุก สถานการณ์ โดยในโหมดการถ่ายภาพปกติผู้ใช้สามารถสลับเลนส์กล้องมุมกว้าง, เลนส์ตัวหลัก และการซูมภาพได้ง่าย ๆ โดยแตะที่ไอคอนรูปต้นไม้บริเวณด้านล่าง

มาพร้อมกับโหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืนให้มีความสว่างคมชัดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องโดยอาศัยพลังของ ระบบกันสั่น OIS ที่ติดตั้งมาให้กับกล้องตัวหลักนั่นเอง

รองรับฟีเจอร์ My Filters ที่สามารถดูดสีฟิลเตอร์จากภาพที่ชอบมาไว้ในกล้องของเราได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องแต่งที ละรูป เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพคุมโทนเป็นอย่างมาก

โหมด Single Take กดถ่ายภาพเพียงครั้งเดียว ก็ได้ภาพ และวิดีโอสูงสุดถึง 10 แบบ โดยระบบจะทำการคัดเลือกภาพ และวิดีโอที่ดีที่สุดในแต่ละช่วง พร้อมกับปรับแต่งใส่เอฟเฟ็กต์ให้แบบอัตโนมัติ

โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอที่ผู้ใช้สามารถปรับระดับการเบลอได้ทั้งหมด 7 ระดับ

มาดูที่การถ่ายวิดีโอกันบ้าง Galaxy A52s 5G รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K ระดับ 30 fps

พร้อมรองรับฟีเจอร์กันสั่นแบบ Super Steady ที่ช่วยให้วิดีโอมีความนิ่งราวกับกล้อง Action Camera โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบกันสั่นแบบฮาร์ดแวร์ OIS และซอฟท์แวร์ EIS

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับโหมดการถ่ายวิดีโอแบบ Pro Video ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่าง ๆ ของการถ่ายวิดีโอได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ค่าความไวแสง (ISO), ค่าความไวชัตเตอร์ (Speed Shutter) หรือค่าสมดุลแสงสีขาว (White Balance) ซึ่งเรียกได้ว่าตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการทำคอนเทนต์ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ก็จัดเต็มด้านโหมดการ ถ่ายภาพมาให้ไม่แพ้กล้องหลัง โดยในโหมดถ่ายภาพปกติผู้ใช้สามารถปรับองศาของกล้องหน้าได้ทั้งหมด 2 ระดับ ตอบโจทย์การถ่ายภาพเซลฟี่เดี่ยว และการถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่ม

มาพร้อมกับฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย รวมทั้งยังรองรับฟีเจอร์ My Filters เหมือนกับกล้องหลังอีกด้วย

รองรับโหมด Single Take ที่กดถ่ายครั้งเดียวก็เก็บทุกภาพความประทับใจที่เกิดขึ้นได้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ

และมาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพเซลฟี่หน้าชัดหลังเบลอ แบบ Portrait ที่ผู้ใช้สามารถปรับระดับการเบลอของฉากหลังได้ทั้งหมด 7 ระดับ

ในส่วนของการถ่ายวิดีโอ รองรับการบันทึกไฟล์ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ระดับ 30 fps เหมือนกับกล้องหลัง

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ความละเอียด 64+12+5+5 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A52s 5G

ภาพถ่ายจากกล้อง Ultra Wide

ภาพถ่ายจากโหมด Night

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait

ภาพถ่ายจากโหมด Macro

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ของ Samsung Galaxy A52s 5G

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเปิดใช้งานฟีเจอร์ Beauty

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy A52s 5G

เรียกได้ว่า Samsung Galaxy A52s 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่ให้สเปกมาค่อนข้างคุ่มค่าเมื่อเทียบกับราคาวางจำหน่าย 13,999 บาท เรียกว่าจัดมาให้อย่างดีในแทบทุกด้าน ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่มีค่า Refresh Rate 120Hz ระดับเดียวกับสมาร์ทโฟนเรือธง, ลำโพงเสียงแบบคู่ (Stereo Speake r) ที่เล่นเสียงได้อย่างกระหึ่มมีมิติด้วยระบบเสียง Dolby Atmos ไปจนถึงบอดี้ที่มีความสวยงาม และมีคุณสมบัติป้องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในมือถือช่วงราคาไม่เกิน 15,000 บาท

ด้านประสิทธิภาพการทำงานก็ได้รับการอัปเกรดมาจาก Galaxy A52 ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อต้นปี เพราะครั้งนี้ใส่ชิปเซ็ต 5G ระดับรองท็อปอย่าง Snapdragon 778G ซึ่งนอกเหนือจากจะช่วยให้รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ได้แล้ว ยังมอบพลังในการประมวลผลที่เร็วแรงเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเล่นเกมที่มีกราฟิกสวย ๆ หรือเกมที่จำเป็นต้องการการเชื่อมต่อที่เสถียร และรวดเร็วอย่าง ROV : Arena of Valor หรือ League of Legends: Wild Rift ได้เป็นอย่างดี

ด้านความสามารถของกล้องก็ถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการทำคอนเทนต์วิดีโอบนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก เพราะ Galaxy A52s 5G รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ซึ่งช่วยให้เราได้ไฟล์คุณภาพสูงเหมาะแก่การนำไปตัดต่อในแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้การถ่ายภาพก็ดีเยี่ยมเช่นกันด้วยกล้องหลัง 4 ตัว ที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS และโหมด Single Take ที่ช่วยให้เราเก็บภาพ และวิดีโอได้หลากหลายรูปแบบภายในช็อตเดียว ไม่มีเพียงเท่านั้นเพราะยังตอบโจทย์สายเซลฟี่ด้วยเช่นกัน ด้วยกล้องหน้าที่มีความละเอียดมากถึง 32 ล้านพิกเซล และที่สำคัญยังมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้อีกสูงสุด 1TB ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ หรือวิดีโอความละเอียดสูงเป็นจำนวนมากได้อย่างดี

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Samsung Galaxy A52s 5G มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีครับ

จุดเด่นของ Samsung Galaxy A52s 5G

- ตัวเครื่องมีคุณสมบัติของการทนน้ำ และทนฝุ่น ตามมาตรฐาน IP67 (ทนน้ำได้ลึกสูงสุด 1.0 เมตร นานสูงสุด 30 นาที) - หน้าจอแสดงผลแบบ Super AMOLED Infinity-O Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล) พร้อมค่า Refresh Rate สูงสุดที่ 120Hz, ความสว่างสูงสุด 800 nits, อัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9, โหมด Eye Comfort Shield, การใช้งานแบบ Dark Mode และครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 - เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ (On-Screen Fingerprint Sensor) พร้อมระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) - ชิปเซ็ตประมวลผล Snapdragon 778G ที่มาพร้อมซีพียู (CPU) Octa-Core 64-bit (Single Kryo 670 Prime ความเร็ว 2.4 GHz + Triple Kryo 670 Gold ความเร็ว 2.2 GHz + Quad Kryo 670 Silver ความเร็ว 1.9 GHz) - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Adreno 642L - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 8GB - หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูล (ROM) ขนาด 128 GB (เหลือให้ใช้งานจริงประมาณ 101.5 GB) - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 1 TB - แบตเตอรี่ Li-Ion ความจุ 4500 mAh พร้อมระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 25W Super Fast Charging - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย One UI 3.1

กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (Quad Camera) ประกอบด้วย

> กล้องตัวที่ 1 แบบ Wide (Main) ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.7 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f1.8, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร (มุมรับภาพ 81 องศา), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และระบบป้องกันการสั่นแบบ OIS > กล้องตัวที่ 2 แบบ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2 และมุมรับภาพ 123 องศา > กล้องตัวที่ 3 แบบ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 > กล้องตัวที่ 4 แบบ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร

- โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง - โหมดการถ่ายภาพแบบ Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืนให้มีความสว่างคมชัด โดยไม่ต้องตั้งค่าการถ่ายภาพ สามารภใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง - โหมดการถ่ายภาพแบบ Macro สามารถโฟกัสภาพถ่ายได้ใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร - รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง - ฟีเจอร์ Single Take สำหรับถ่ายวิดีโอเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อนำไปคัดเลือกภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวที่ดีที่สุด พร้อมกับปรับแต่งให้แบบอัตโนมัติ - ฟีเจอร์ My Filters สำหรับโคลนโทนสีของภาพถ่ายตามภาพที่ต้องการ - ฟีเจอร์ Fun สำหรับถ่ายภาพ พร้อมใส่ฟิลเตอร์จาก Snapchat - ฟีเจอร์ Dual Messenger สำหรับใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียแบบ 2 แอคเคานท์ - ฟีเจอร์ Super Steady สำหรับป้องกันการสั่นไหวของวิดีโอ

กล้องดิจิทัลด้านหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 1/2.8 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, รูรับแสงขนาด f2.2, ทางยาวโฟกัส 26 มิลลิเมตร และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K UHD (30 fps)

- ลำโพงเสียงแบบคู่ (Stereo Speakers) พร้อมระบบเสียงแบบ Dolby Atmos - รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านทาง Wi-Fi 6 (Dual Band : 2.4/5 GHz), 5G, 4G LTE, 3G WCDMA, EDGE และ GPRS - รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.0 และ NFC - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-Type C (USB 2.0) - พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร - รองรับการระบุตำแหน่ง และนำทางด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, BeiDou, Galileo และ QZSS - เทคโนโลยี Game Booster และ Frame Booster - Samsung Knox (ระบบความปลอดภัยแบบหลายชั้น) - ราคา 13,999 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Samsung Galaxy A52s 5G

- มีให้เลือกเพียงรุ่นความจุเดียว - ไม่มีกล้องเลนส์ซูม Telephoto - ถาดใส่ซิมการ์ดเป็นแบบ Hybrid Slot - อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 25W Super Fast Charging จำหน่ายแยกต่างหาก

สรุปคุณสมบัติเครื่อง

ท่านสามารถตรวจสอบคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Samsung Galaxy A52s 5G ได้โดยการคลิกที่ลิงก์ด้านล่างนี้

สรุปคุณสมบัติ (สเปก) และราคา ของ Samsung Galaxy A52s 5G

Leave a Comment