รีวิว Samsung Galaxy Watch 3 LTE สมาร์ทวอทช์ตัวท็อปใหม่ ดีไซน์สวยเด่น เก่งทุกสถานการณ์ ฟีเจอร์จัดเต็มรอบด้าน ไม่พลาดทุกการติดต่อ :: Thaimobilecenter.com Galaxy Watch 3 LTE

สมาร์ทวอทช์ตัวท็อปใหม่ ดีไซน์สวยเด่น เก่งทุกสถานการณ์ ฟีเจอร์จัดเต็มรอบด้าน ไม่พลาดทุกการติดต่อ

14 มีนาคม 2021 - ท่ามกลางการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable) อย่างสมาร์ทวอทช์ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน หากพูดถึงสมาร์ทวอทช์ เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงผลิตภัณฑ์ตระกูล Galaxy Watch Series ของ Samsung เป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน และในวันนี้เราก็มีสมาร์ทวอทช์ตัวท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดของตระกูลนี้อย่าง Samsung Galaxy Watch 3 LTE มารีวิวให้ทุกท่านได้ชมกัน

สำหรับ Galaxy Watch 3 LTE รุ่นนี้ คือสมาร์ทวอทช์ระดับ High-End รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ตัวเครื่องมาในดีไซน์เรียบหรู บนวัสด และงานประกอบที่ทนทานระดับมาตรฐานทางการทหาร พร้อมคุณสมบัติการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่นในระดับ 5ATM / IP68 ที่สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ฝน และเหงื่อ ไปจนถึงสามารถใส่ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งแบบ Extreme ได้แบบสบายๆ โดยตัวเรือนมากับหน้าปัดขนาด 45 มิลลิเมตร กับหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว เรียกว่าคุณภาพของการแสดงผลสวยงามดีเยี่ยมไม่แพ้สมาร์ทโฟน พร้อมด้วยฟีเจอร์สมัยใหม่ที่ครบถ้วน  ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจในตัว, ตรวจวัดปริมาณออกซิเจนได้เลือดได้, วิเคราะห์ค่า VO2 Max ได้ และมี GPS ในตัว จึงสามารถติดตามเส้นทางการวิ่ง หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งในรุ่น LTE ยังมี eSIM ในตัว ทำให้ช่วยให้สามารถโทรเข้า-โทรออกได้โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟน รวมทั้งการตรวจสอบข้อความ หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ ช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวก และคล่องตัวยิ่งขึ้น

ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่า Galaxy Watch 3 LTE เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมรุ่นหนึ่ง แต่การใช้งานจริงจะประทับใจอย่างที่คิดหรือไม่ เราไปติดตามกันต่อในรีวิว Galaxy Watch 3 LTE โดยทีมงาน Thaimobilecenter ได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอก และการออกแบบดีไซน์

Galaxy Watch 3 LTE เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับ High-End ที่มีดีไซน์เรียบหรูดูดีมีความพรีเมียม โดยตัวที่เราได้นำมีรีวิวนี้เป็นรุ่นหน้าปัด 45 มิลลิเมตร ซึ่งมาพร้อมกับจอแสดงผลขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 360 x360 พิกเซล เป็น หน้าจอแบบ Super AMOLED ส่วนตัวเรือนผลิตจากโลหะสแตนเลส มีความทนทานในระดับ MIL-STD-810G ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการทหาร และมีคุณสมบัติกันน้ำ 5ATM และ IP68 กันน้ำได้ลึกสุด 50 เมตร จึงใส่เล่นกีฬาทางน้ำได้ทุกชนิด รวมไปถึงกิจกรรมลุยๆ เช่นการเดินป่า

Galaxy Watch 3 LTE มีหน่วยประมวลผล และหน่วยความจำของตัวเอง โดยเป็นชิปเซ็ต Exynos 9110 (Dual-Core) ความเร็ว 1.15 GHz, RAM 1 GB และ ROM 8 GB โดยมีหน่วยความจำให้ใช้งานจริงประมาณ 4.3 GB จึงสามารถเก็บ และเปิดไฟล์ประเภทรูปภาพ และเพลงได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน

ด้านขวาของตัวเรือนจะมีไมโครโฟน และปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Back (บน) และ ปุ่ม Home (ล่าง-มีคาดแถบสีแดง) กดค้างที่ปุ่ม Home เพื่อเปิด/ปิดเครื่อง หรือกด 1 ครั้งเพื่อกลับสู่หน้าจอหลัก ส่วนการควบคุมอื่นๆ จะใช้การทัชลงบนหน้าปัดโดยตรง หรือจะหมุนวงแหวนรอบหน้าปัดเพื่อเลือกรายการก็ได้ หากกดทั้ง 2 ปุ่มพร้อมกันจะเป็นการบันทึกภาพหน้าจอ ซึ่งภาพจะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำของนาฬิกา และซิงค์กับสมาร์ทโฟนทันที

อีกด้านของตัวเรือนไม่มีปุ่มใดๆ แต่มีช่องลำโพงสำหรับการฟังเพลง และคุยโทรศัพท์ ถึงแม้จะเป็นลำโพงของนาฬิกาแต่ก็มีความดังพอสมควร

ใต้ตัวเรือนเป็นเซนเซอร์ที่วัดได้ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันเลือด ไปจนถึงออกซิเจนในเลือด อีกทั้งภายในยังมีเซนเซอร์ต่าง ๆ ครบครัน ทั้ง Accelerometer, Barometer, Gyro Sensor ไปจนถึง Light Sensor ทำให้ Galaxy Watch 3 LTE มีความสามารถอื่นๆ ด้วย เช่น ตรวจจับการล้ม และติดตามการนอนหลับ เป็นต้น

นอกจากนี้ Galaxy Watch 3 LTE ยังรองรับ Wi-Fi 2.4GHz, NFC, Bluetooth 5.0 และมีระบบ GPS ในตัว (รวมทั้ง Glonass, Beidou และ Galileo) พร้อม eSIM จึงสามารถทำงานทุกอย่างได้ด้วยตัวเองโดยแทบไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนเลย

สายรัดข้อมือที่ให้มาในกล่อง เป็นสายหนังแท้เกรดพรีเมียมขนาด 22 มิลลิเมตร สามารถถอดเปลี่ยนกับสายนาฬิกาทั่วไปได้ทุกแบบ ขอแค่เป็นสายขนาด 22 มิลลิเมตรเท่านั้น

เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และเริ่มต้นใช้งาน

Galaxy Watch 3 LTE จำเป็นจะต้องใช้งานคู่กับแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจากบน Play Store และใช้กับสมาร์ทโฟนได้ทุกแบรนด์ แต่แนะนำว่าควรใช้กับสมาร์ทโฟน Samsung เพื่อให้ใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ครับ

เราสามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ของ Galaxy Watch 3 LTE ได้ผ่านแอป Galaxy Wearable ซึ่งทำได้สะดวกกว่าการปรับแต่งบนนาฬิกาโดยตรง โดยสามารถจัดเรียงหน้าแอปพลิเคชัน, ปรับคุณสมบัติของจอภาพ, ตั้งค่าเสียง และเสียงเรียกเข้า เป็นต้น

มีหน้าปัดนาฬิกามากมายหลายแบบให้เลือกเปลี่ยนตามใจชอบ หรือถ้ายังไม่ถูกใจ ก็ยังปรับแต่งหน้าปัดในแบบของตัวเองได้อีก เรียกได้ว่าไม่มีเบื่อแน่นอน

และยังดาวน์โหลดหน้าปัดสวยๆ เพิ่มเติมจาก Galaxy Store ได้ด้วย

อีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจของแอป Galaxy Wearable คือการค้นหานาฬิกา เมื่อจำไม่ได้ว่าถอด Galaxy Watch 3 LTE ทิ้งไว้ตรงไหน ฟังก์ชันนี้จะสั่งให้นาฬิกาสั่นและส่งเสียงเพื่อบอกตำแหน่ง

ฟังก์ชันติดตามข้อมูลสุขภาพ และการออกกำลังกาย

ในส่วนของการติดตามข้อมูลทางสุขภาพ และการออกกำลังกาย Galaxy Watch 3 LTE จะทำงานคู่กับแอปพลิเคชัน Samsung Health เพื่อบันทึกสถิติต่างๆ ทั้งการออกกำลังกายในแต่ละวัน, อัตรา การเต้นของหัวใจ, ระดับความเครียด, ระดับออกซิเจนในเลือด, การนอนหลับ และอื่นๆ ซึ่ง Galaxy Watch 3 LTE จะเก็บสถิติและบันทึกข้อมูลเหล่านี้ลงในแอป Samsung Health โดยอัตโนมัติ

ฟังก์ชันการโทร และการใช้งานทั่วไป

นอกเหนือจากการติดตามข้อมูลการออกกำลังกาย แล้ว Galaxy Watch 3 LTE ยังมากับความสามารถอื่นๆ ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการโทร, การฟังเพลง, Google Assistant และยังดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Play Store ลงมาเพิ่มได้อีก ที่สำคัญในรุ่นนี้ยังมี eSIM ในตัว ทำให้ใช้งานฟังก์ชั่นเหล่านี้ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ทโฟนตลอดเวลา

สรุปผลการทดสอบของ Samsung Galaxy Watch 3 LTE

Samsung Galaxy Watch 3 LTE ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทวอทช์ระดับบนในตลาด ณ เวลานี้ โดยมีคุณสมบัติทุกอย่างที่สมาร์ทวอทช์ระดับ High-End ควรจะมี ตั้งแต่วัสดุ และงานประกอบระดับพรีเมียม ไปจนถึงฟังก์ชันภายในที่ครบครัน ถึงแม้ดีไซน์โดยรวมจะไม่ต่างจาก Galaxy Watch รุ่นก่อนหน้านี้เท่าใดนัก แต่ก็มีความสวยงามหรูหราพรีเมียม เข้าได้กับทุกกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการใส่ทำกิจกรรมอยู่ที่บ้าน, ใส่ไปทำงาน, ใส่ไปออกกำลังกาย หรือใส่ไปออกงานสังคม วัสดุ และงานประกอบมีความแข็งแกร่งทนทาน กันน้ำกันฝุ่น พร้อมลุยกับเราไปทุกที่ เรียกได้ว่าเรือนเดียวเอาอยู่ทุกสถานการณ์

จุดเด่นที่สำคัญของ Galaxy Watch 3 LTE คือสามารถทำงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟน โดยมีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการทำงานครบครัน ตั้งแต่การรองรับ Wi-Fi 2.4 GHz, NFC และ GPS ขณะเดียวกันยังมี eSIM ในตัว พร้อมลำโพง และไมโครโฟน จึงสามารถโทรเข้า-โทรออกจากตัวเรือนได้ทันที ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนไว้กับตัวตลอดเวลาอีกต่อไป

ในส่วนของการใช้งาน Galaxy Watch 3 LTE ซิงค์กับสมาร์ทโฟนได้เป็นอย่างดี การแจ้งเตือนต่างๆ เด้งขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่มีดีเลย์ หน้าจอมีการตอบสนองรวดเร็ว ทัชติดมือ และสู้แสงแดดกลางแจ้งได้ดี นอกจากนี้ยังมีกรอบวงแหวนบนหน้าปัดที่หมุนได้ ช่วยให้เลือกรายการต่าง ๆ บน Galaxy Watch 3 ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

จากการใช้งานจริง พบว่าแบตเตอรี่ของ Galaxy Watch 3 LTE อยู่ได้ประมาณ 2 วันเต็ม โดยมีการติดตามการออกกำลังกายบ้าง และติดตามการนอนหลับตลอดคืน อย่างไรก็ดี หากเลือกเปิดหน้าจอตลอดเวลา แบตเตอรีจะหมดเร็วขึ้นมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการตั้งค่านี้

จากที่กล่าวมาทั้งหมด โดยรวมแล้ว Galaxy Watch 3 LTE เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับ High-End ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้สายไลฟ์สไตล์ และสายออกกำลังกาย มีดีไซน์ที่สุภาพ เข้ากันได้กับทุกสถานการณ์ งานประกอบทนทาน และมีฟังก์ชันครบครัน ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ดีๆ สักเรือน Galaxy Watch 3 LTE ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ

Samsung Galaxy Watch 3 Series วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Samsung Brand Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด คือ 45 มิลลิเมตร และ 41 มิลลิเมตร รวมทั้งแบ่งออกเป็นรุ่น Bluetooth กับ Bluetooth + LTE โดยแต่ละรุ่นย่อยมีราคาดังนี้

Galaxy Watch 3 (41mm)

- Bluetooth ราคา 12,900 บาท - Bluetooth + LTE ราคา 15,900 บาท

Galaxy Watch 3 (45mm)

- Bluetooth ราคา 13,900 บาท - Bluetooth + LTE ราคา 16,900 บาท

รุ่นพิเศษ Galaxy Watch 3 (45mm) Titanium Edition

- ราคา 23,900 บาท

สำหรับท่านที่สนใจ Galaxy Watch 3 ในเดือนมีนาคมนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ เพียงแสดงสมาร์ทวอทช์รุ่นเก่าเพื่อซื้อ Galaxy Watch 3 รับ ส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท หรือ กดโค้ดรับสิทธิ์ผ่าน Galaxy Gift ซื้อ Galaxy Watch 3 รับฟรี E-Voucher By Central Group รวมมูลค่า 2,000 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ ณ จุดขาย

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Samsung ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่ง Galaxy Watch 3 LTE มาให้ทางทีมงานได้รีวิวให้ทุกท่านได้รับชมกันในโอกาสนี้ด้วยครับ

จุดเด่นของ Galaxy Watch 3 LTE

- วัสดุ และงานประกอบมีความทนทาน ผ่านการรับรองมาตรฐานทางทหาร MLT-STD-810G - มีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ-ป้องกันฝุ่น ในระดับ 5ATM และ IP68 จึงสามารถใส่เล่นกีฬาทางน้ำได้ทุกประเภท - สายรัดข้อมือเป็นหนังแท้เกรดพรีเมียม ขนาด 22มิลลิเมตร สามารถถอดเปลี่ยนได้ - จอแสดงผลแบบ Circular Super AMOLED ขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด 360x360 พิกเซล สู้แสงแดดกลางแจ้งได้ดี พร้อมขอบหน้าปัดที่สามารถหมุนได้ - หน้าปัดนาฬิกาครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass DX - สามารถเปลี่ยนสไตล์ของหน้าปัดได้ 40 รูปแบบ พร้อมรองรับฟังก์ชัน Always On Display - ชิปเซ็ตประมวลผล Exynos 9110 (Dual-Core) ความเร็ว 1.15 GHz - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Tizen OS 5.5 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 8 GB (เหลือพื้นที่ให้ใช้งานจริงประมาณ 4.3 GB) - แบตเตอรี่ความจุ 340 mAh - มีลำโพงเสียง และไมโครโฟนในตัว - เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Optical Heart Rate Sensor (HRM) และ Electrical Heart Sensor (ECG) - รองรับการตรวจวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด (SpO2) พร้อมการวิเคราะห์ค่า VO2 Max - เซนเซอร์ Accelerometer, Barometer, Gyro และ Light Sensor - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, Glonass, Beidou และ Galileo - สามารถใช้งาน eSIM เพื่อใช้งาน 4G/LTE สำหรับการใช้งานโทรศัพท์ และตรวจสอบข้อความแจ้งเตือนต่าง ๆ - รองรับการเชื่อมต่อ NFC, Bluetooth 5.0, Wi-Fi 802.11 b/g/n 2.4GHz - โปรแกรมออกกำลังกาย 120 รายการ และโปรแกรมฝึกการวิ่ง - ฟีเจอร์แจ้งเตือนสุขภาพ, ตรวจจับการล้ม และบันทึกประวัติการนอน - แสดงประวัติการแชท - ระบบตอบกลับข้อความอัจฉริยะ - รองรับการใช้งาน Bitmoji - รองรับการเล่นเพลงจาก Spotify

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Galaxy Watch 3 LTE

- แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่ยาวนานมากนัก อาจต้องหมั่นชาร์จเป็นประจำทุกวัน - ตัวเรือนค่อนข้างใหญ่ อาจไม่เหมาะกับผู้ที่มีข้อมือเล็ก - ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสมาร์ทวอทช์ที่มีความสามารถใกล้เคียงกัน

Leave a Comment