รีวิว TECNO POP 3 Plus สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กยอดประหยัด พร้อมจอใหญ่ แบตเยอะ ในราคาเพียง 2,390 บาท :: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กยอดประหยัด พร้อมจอใหญ่ แบตเยอะ ในราคาเพียง 2,390 บาท ด้วยจอหยดน้ำ Dot Notch FullView ใหญ่ 6.52 นิ้ว, แบตเตอรี่ 4000 mAh, กล้องหน้า-หลัง AI 8 ล้านพิกเซล, ชิปเซ็ต Helio A22, ระบบสแกนนิ้ว+สแกนใบหน้า, บอดี้ไล่เฉดเงางามสะดุดตา และแถมฟรีประกันจอแตกนาน 1 ปี

24 ธันวาคม 2019 - สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Thaimobilecenter ทุกท่านครับ อีกไม่นานปี 2019 ก็จะผ่านพ้นไปแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปเราจะเห็นว่าปีนี้เป็นปีที่วงการสมาร์ทโฟนคึกคักกันมากทีเดียว ทั้งแบรนด์สมาร์ทโฟนใหม่ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา และสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสเปกที่ดุดันขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสมาร์ทโฟนในระดับกลาง ราคา 5,000 - 10,000 บาท และหลายรุ่นเราก็ได้ทำการรีวิวกันไปแล้ว สำหรับวันนี้เราจะขยับมาดูสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นราคาประหยัดกันบ้าง ซึ่งก็มีที่น่าสนใจอยู่หลายรุ่น หนึ่งในนั้นคือ TECNO POP 3 Plus ครับ

TECNO POP 3 Plus เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่เน้นการใช้งานทั่วไปอย่างการเล่น Facebook, LINE และโซเชียลมีเดียอื่นๆ รวมไปถึงการดูหนัง ฟังเพลง โดยตัวเครื่องมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอแสดงผลรอยบากทรงหยดน้ำแบบ Dot Notch FullView ที่ใหญ่ถึง 6.52 นิ้ว และแบตเตอรี่ขนาดจุใจที่ 4,000 mAh ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ชอบมือถือ " จอใหญ่-แบตอึด " ได้อย่างตรงตัว สำหรับคุณสมบัติภายในก็ถือว่าให้มาพอเหมาะพอดีกับการใช้งานพื้นฐาน โดยเป็นชิปเซ็ต Quad-Core MediaTek Helio A22 ความเร็ว 2.0 GHz, RAM 1 GB และ ROM 16 GB ตัวเครื่องรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด พร้อมกับใส่การ์ด microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำได้ สูงสุด 128 GB นอกจากนี้ยังรองรับการสแกนลายนิ้วมือ และสแกนใบหน้าอีกด้วย ส่วนด้านการถ่ายภาพ มากับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีฟังก์ชันครบครัน ด้วยค่าตัวสุดประหยัดเพียง 2,390 บาท ครับ

หลังจากได้อ่านคุณสมบัติคร่าวๆ เชื่อว่าใครที่กำลังมองหามือถือราคาประหยัดอยู่คงจะเริ่มสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นเราไปชม รีวิว TECNO POP 3 Plus โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

TECNO POP 3 Plus มาในดีไซน์จอแสดงผลรอยบากทรงหยดน้ำแบบ Dot Notch FullView Screen โดยเป็นจอกระจกขอบนูน 2.5D กับเทคโนโลยีการแสดงผลแบบ IPS LCD พร้อมความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) ขนาด 6.52 นิ้ว ในอัตราส่วนแบบ 19.5:9 โดยมีขอบล่างหนากว่าขอบด้านอื่นๆ ตัวเครื่องมีขนาด 166.7x 75.8 x8.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 176 กรัม

ด้านหลังตัวเครื่องมีพื้นผิวมันเงา และมีกลิตเตอร์เล็กๆ กระจายอยู่ทั่ว ดูคล้ายประกายดาวบนท้องฟ้ายามราตรี

กล้องดิจิทัลติดตั้งอยู่ที่มุมซ้ายบนของตัวเครื่อง โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED  และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน

ที่มุมซ้ายล่างมีช่องลำโพงเสียงภายนอก และสกรีนโลโก้ของ TECNO

กล้องดิจิทัลด้านหน้าติดตั้งอยู่ที่ขอบบนของหน้าจอ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ด้านซ้าย

ด้านบนของตัวเครื่องไม่มีโมดูลใดๆ ติดตั้งอยู่ ส่วนด้านล่างมีไมโครโฟนตัวหลัก, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล

ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มกดใดๆ โดยปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ตัวเครื่องด้านขวา

ฝาหลังของ TECNO POP 3 Plus สามารถถอดออกได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ เมื่อถอดออกมาแล้วจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh (ถอดเปลี่ยนไม่ได้) และช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด กับช่องใส่การ์ด microSD

ช่องด้านบนจะเป็นช่องใส่การ์ด microSD ซึ่งรองรับได้สูงสุด 128 GB ส่วนช่องใส่ซิมการ์ดจะอยู่ด้านขวา โดยมีให้ 2 ช่อง และรองรับ nano-SIM

TECNO POP 3 Plus มีเคสใสแบบแข็งแถมมาให้ด้วย โดยมีลาย POP Series โดดเด่นบนตัวเคส ดูสวยงามไปอีกแบบ

เมื่อสวมเคสแล้วดูดีขึ้นเยอะทีเดียว อีกทั้งตัวเคสยังเป็นผิวด้านที่ไม่เกิดรอยนิ้วมือเวลาจับถืออีกด้วย

นอกจากเคสแล้ว TECNO POP 3 Pro ยังมีสาย Micro USB, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, หูฟัง และบัตรรับประกันตัวเครื่อง 12+1 เดือน สามารถดูรายละเอียด และเงื่อนไขการรับประกันได้ภายในบัตร

เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์

TECNO POP 3 Plus ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ที่ถูกครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ HiOS 5.5.2 ซึ่งเป็นอินเทอร์เฟซเฉพาะของสมาร์ทโฟน TECNO ตัวเครื่องมีหน่วยความจำ RAM 1 GB และ ROM 16 GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh และรองรับการใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual Standby)

เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการเปิด แถบเมนูทางลัด ซึ่งรวมทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่ใช้บ่อยๆ เช่น Wi-Fi, ห้ามรบกวน, Bluetooth, ไฟฉาย, และปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น ส่วนด้านล่างจะแสดงแถบแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการเปิดดูเมนูทางลัดเพิ่มเติม และสามารถเพิ่ม หรือลบทางลัดบนเมนูได้

สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทรมีอินเทอร์เฟซ ที่เรียบง่าย ปุ่มมีขนาดใหญ่กดได้สะดวก และมองเห็นตัวเลขชัดเจน สามารถเข้าถึงการเพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อ หรืออัปเดตรายชื่อเดิมได้ทันที

เมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะแสดงแอปพลิเคชันที่เปิดค้างไว้ทั้งหมด เราสามารถเลือกปิดแอป หรือสลับแอปขึ้นมาใช้งานได้ หากกดที่ไอคอนแปรงด้านล่างจะเป็นการปิดแอปพลิเคชันที่เปิดอยู่ทั้งหมดทันที ทั้งนี้ TECNO POP 3 Plus ไม่สามารถรองรับการเปิดใช้งานแอป 2 จอพร้อมกันได้

ฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจของสมาร์ทโฟน TECNO คือ "ตู้แช่แข็ง" ที่ใช้แช่แข็งการทำงานทุกอย่างของแอปพลิเคชันบางตัวเอาไว้ ไม่ให้ดึงทรัพยากรเครื่องไปใช้เกินจำเป็น แอปพลิเคชันที่ถูกแช่แข็งจะไม่ทำงานพื้นหลัง และไม่แจ้งเตือนใดๆ จนกว่าเราจะปลดล็อก เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ใช้นานๆ ครั้ง และเราไม่อยากถอนการติดตั้งครับ

ในอินเตอร์เฟซ HiOS เวอร์ชันล่าสุดของ TECNO POP 3 Plus จะมีแถบเมนูเครื่องมือด่วน ที่สามารถเรียกใช้ได้ด้วยการกดที่แถบเล็กๆ ด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งจะทำให้เราเข้าถึงคำสั่งบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว เช่น จับภาพหน้าจอ รวมไปถึงทางลัดไปยังแอปต่างๆ ที่เราสามารถเพิ่มเข้าไปได้ตามต้องการ

ที่น่าสนใจคือ TECNO POP 3 Plus มีโหมดขับขี่ให้ใช้งานด้วย เมื่อเข้าสู่โหมดนี้ ระบบจะปฏิเสธสายเรียกเข้า พร้อมตอบกลับด้วย SMS โดยอัตโนมัติ ทำให้เราไม่เสียสมาธิเวลาขับขี่ และปลอดภัยในการเดินทางมากยิ่งขึ้นครับ

สำหรับแอป Rolling เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่จะเปลี่ยนไอคอนบนหน้าจอของเราเป็นบล็อกสี่เหลี่ยมที่กลิ้งไปตามการเอียงของสมาร์ท โฟน ซึ่งเราไม่ค่อยได้เห็นลูกเล่นแบบนี้บ่อยนักในปัจจุบัน

สำหรับแอปพลิเคชัน "ตัวควบคุมโทรศัพท์" มีไว้สำหรับปรับปรุงสมรรถนะตัวเครื่องให้รวดเร็วอยู่เสมอด้วยการล้างไฟล์ขยะ, จัดการความร้อน, จัดการการใช้พลังงาน และมีฟังก์ชันในการล็อกแอปพลิเคชันให้ใช้งานด้วย

เมนู "ไฟล์ขยะ" จะทำการสแกนไฟล์ตกค้าง หรือไฟล์แคชของแอปต่างๆ ที่ไม่จำเป็น เราสามารถกด "ทำความสะอาด" เพื่อล้างทั้งหมดได้ในคลิกเดียว ซึ่งจะช่วยให้เรามีที่ว่างในหน่วยความจำมากขึ้น

สำหรับเมนู "ประหยัดพลังงาน" จะตรวจหาแอปที่ใช้พลังงานสูง พร้อมตัวเลือก "ไฮเบอร์เนต" ที่จะทำให้แอปนั้นๆ หยุดการทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง และหยุดใช้พลังงานไปโดยปริยายจนกว่าเราจะสั่งเปิดแอปนั้นขึ้นมาใหม่ เป็นฟีเจอร์ที่ดีเวลาที่เรารู้สึกว่าแบตไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ

และสำหรับฟังก์ชัน "ตัวล็อกแอป" จะช่วยให้เราล็อกแอปพลิเคชันที่ต้องการได้ โดยแอปพลิเคชันที่ถูกล็อกจะต้องใช้รหัสผ่านแบบเส้นแพทเทิร์น หรือการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าใช้งาน เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการไม่ให้บุตรหลานเข้าถึงแอปบางตัว

นอกจากนี้ เรายังสามารถล้างหน่วยความจำ RAM ได้ทันทีจากหน้าจอหลัก ด้วยการกดที่ไอคอนสีชมพู "การเร่งแบบ ด่วน" ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกมากๆ

ในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย TECNO POP 3 Plus มีครบทั้งการสแกนลายนิ้วมือและการสแกนใบหน้า ขั้นตอนการลงทะเบียนลายนิ้วมือไม่ซับซ้อน และใช้เวลาไม่นาน เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เราปลดล็อกตัวเครื่องได้เร็ว และสะดวกกว่าการใส่ Pin หรือรหัสผ่าน

ส่วน ระบบสแกนใบหน้า ก็ใช้เวลาลงทะเบียนไม่ นานเช่นกัน โดยระบบจะสแกนใบหน้าของเราทันทีที่อยู่ในระยะของกล้องหน้า ที่สำคัญคือระบบสแกนหน้าของ TECNO POP 3 Plus เป็นระบบ Face Unlock 2.0 ที่ปรับปรุงให้ฉลาดยิ่งขึ้น โดยจะปลดล็อกเมื่อผู้ใช้ลืมตาอยู่เท่านั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าใครจะแอบเอามือถือมาจ่อหน้าเราตอนหลับเพื่อปลดล็อคครับ

อีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่น่าสนใจใน TECNO POP 3 Plus คือ CarlCare ซึ่ง เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับบริการหลังการขาย เช่นการเช็คประกันตัว และติดตามสถานะการซ่อม พร้อมทั้งแสดงที่ตั้งของศูนย์บริการ TECNO Mobile ที่ใกล้ที่สุดให้ดูด้วย

สำหรับการท่องอินเทอร์เน็ต TECNO POP 3 Plus จะมีเบราเซอร์ Chrome กับเบราเซอร์ PHX ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งเป็นเบราเซอร์หลักก็ได้ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเบราเซอร์ Chrome กันอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่เคยใช้เบราเซอร์ PHX มาก่อน ซึ่งจากการทดลองใช้งาน ก็พบว่า PHX เป็นเบราเซอร์ที่ใช้งานได้ดีอีกตัวหนึ่งครับ

แถบเมนูควบคุมหลักๆ ของ PHX จะอยู่ข้างล่าง ต่างจาก Chrome ที่อยู่ด้านบน โดยมีฟีเจอร์ที่น่านใจคือ "เวลากลางคืน" ซึ่งจะเปลี่ยนสีพื้นหลังของเบราเซอร์ให้เป็นสีดำ และเปลี่ยนตัวอักษรเป็นสีขาว ช่วยให้อ่านได้สบายตายิ่งขึ้นในที่มืด

สำหรับรูปภาพ และวิดีโอ สามารถรับชมได้จากแอปพลิเคชัน AI แกลลเลอรี่ โดยจะมีการแบ่งหมวดหมู่รูปภาพที่ถ่ายจากกล้อง, ภาพสกรีนช็อต และไฟล์วิดีโอ ไว้อย่างชัดเจน

การรับชมไฟล์วิดีโอจะไม่มีตัวเลือกให้ยืด หรือขยายภาพเต็มจอ และไม่มีฟังก์ชันอะไรมากนักนอกจากการควบคุมพื้นฐาน และการล็อกหน้าจอขณะชม หากต้องการใช้เครื่องเล่นที่มีฟังก์ชันมากขึ้น ก็สามารถเลือกดาวน์โหลดได้ผ่านทาง Play Store ครับ

สำหรับการฟังเพลง TECNO POP 3 Plus ไม่ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันพื้นฐานมาให้ แต่สามารถเล่นผ่านแอปพลิเคชัน Google Music ได้

ในส่วนของการเล่นเกม TECNO POP 3 Pro ทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการเล่นเกม แต่ ก็ยังเล่นได้บ้างหากเป็นเกมที่กินสเปกไม่มาก เช่นเกมเรียงเพชร หรือเกมฆ่าเวลาทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตาม ด้วยความจุภายในที่มีเพียง 16 GB จึงจุเกมได้ไม่มาก แนะนำว่าควรติดตั้งเกมเบาๆ ไว้สัก 2-3 เกม แล้วเก็บหน่วยความจำที่เหลือไว้ติดตั้งแอปพลิเคชันอื่นๆ และเก็บไปฟล์รูปภาพจะดีกว่าครับ

TECNO POP 3 Plus วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน PCMark (Work 2.0) ได้ 4794 คะแนน และแอปพลิเคชัน 3DMark (Sling Shot) ได้ 476 คะแนน

TECNO POP 3 Plus ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio A22 (MT6761) แบบ 4-แกน (Quad-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) PowerVR Rogue GE8300 , หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB

การใช้งานกล้องดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังของ TECNO POP 3 Plus มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีรูรับแสงขนาด f/2.0 เท่ากัน อีกทั้งโหมดการถ่ายภาพก็ยังเหมือนกันอีกด้วย แต่มีให้ใช้เพียง 3 โหมดเท่านั้นซึ่งได้แก่โหมดรูปถ่าย (อัตโนมัติ), โหมดบิวตี้ และวิดีโอ

สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง มีตัวเลือกในการตั้งค่าให้ใช้พอสมควร สามารถปิดเสียงชัตเตอร์ และเพิ่มลายน้ำให้กับรูปได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดของรูปถ่ายได้ 4 ขนาด ได้แก่ 8 ล้านพิกเซล (4:3), 6 ล้านพิกเซล (1:1), 5 ล้านพิกเซล (20:9) และ 3 ล้านพิกเซล (4:3)

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ ในช่วงอาทิตย์ตกดิน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางคืน

ถ่ายด้วยโหมดอัตโนมัติ เวลากลางวัน (ไม่มีบิวตี้)

ถ่ายด้วยโหมดบิวตี้ ปรับระดับอัตโนมัติด้วย AI

ถ่ายด้วยโหมดบิวตี้ ระดับ 6 (สูงสุด)

สรุปผลการทดสอบของ TECNO POP 3 Plus

TECNO POP 3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่มีฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานครบถ้วนในราคาเพียง 2,390 บาท โดยมีหน้าจอแสดงผลแบบหยดน้ำ (Dot Notch FullView IPS LCD) ขนาดใหญ่ถึง 6.52 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ที่รองรับคอนเทนต์ความบันเทิงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันโซเขียลมีเดียต่างๆ หรือวิดีโอบน YouTube และมีแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,000 mAh ช่วยให้ใช้งานได้อย่างยาวนานตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ

TECNO POP 3 Plus จัดสเปกมาให้แบบพอเพียง ไม่หวือหวา โดยใช้ชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core MediaTek Helio A22 (MT6761) ความเร็ว 2.0 GHz พร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR Rogue GE8300 จัด ว่าอยู่ในระดับเริ่มต้นที่พอจะใช้งานได้โดยไม่กระตุก และเล่นเกมได้บ้าง แต่ด้วย RAM ของตัวเครื่องที่มีมาให้เพียง 1 GB ทำให้ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของชิปเซ็ตออกมาได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน ROM 16 GB ก็ถือว่าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จึงเก็บไฟล์ต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชันได้ไม่มากนัก เบื้องต้นจึงแนะนำว่าควรใช้บริการ Cloud Service เช่น Google Photos หรือ Google Drive เพื่อฝากรูปถ่ายและไฟล์ไว้ในระบบคลาวด์ แทนการเก็บไฟล์ทั้งหมดไว้ในเครื่องโดยตรงเพื่อประหยัดพื้นที่ หรืออาจเพิ่มหน่วยความจำด้วยการติดตั้งการ์ด microSD ซึ่งสามารถรองรับได้สูงสุดที่ขนาด 128 GB

สำหรับการเล่นเกม TECNO POP 3 Plus ทำได้ไม่ดีเท่าใดนัก เนื่องจากไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม แต่ก็ยังสามารถเล่นเกมเล็กๆ น้อยๆ บน Play Store ได้บ้าง ซึ่งก็พอจะใช้เป็นกิจกรรมแก้เบื่อ และฆ่าเวลาในระหว่างวันได้ครับ

ในส่วนของการถ่ายภาพ TECNO POP 3 Plus มีกล้องหน้า และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และมีแฟลชทั้งคู่ แต่มีโหมดการถ่ายภาพ และฟีเจอร์ให้ใช้น้อย โดยมีเพียงโหมดอัตโนมัติ และโหมดบิวตี้เท่านั้น คุณภาพของรูปถ่ายโดยรวมถือว่าค่อนข้างดีสำหรับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ไม่เหมาะกับการถ่ายในสภาพที่มีแสงน้อย หรือแสงจ้า เนื่องจากไม่มีระบบประมวลผลภาพแบบ HDR ที่ช่วยเกลี่ยแสง ส่วนการถ่ายวิดีโอ สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD แต่ด้วยหน่วยความจำภายในที่น้อย ทำให้ถ่ายวิดีโอได้ไม่นานเท่าที่ควร แต่โดยรวมก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้ TECNO POP 3 Plus โดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นอื่น คือไฟแฟลชที่กล้องหน้าซึ่งหาได้ยากแม้ในสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ ทางทีมงานเห็นว่า TECNO POP 3 Plus เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องสำรอง หรือผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาประหยัดสำหรับเล่นโซเชียล และใช้งานทั่วๆ ไป โดยมีหน้าจอใหญ่มองเห็นชัด, มีแบตเตอรี่อึด และไม่เน้นการเล่นเกมครับ

TECNO POP 3 Plus วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเบาๆ เพียง 2,390 บาท และมีรับประกันจอแตกให้ฟรีอีก 1 ปี เปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ภายใน 15 วัน ท่านใดที่สนใจ สามารถแวะไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ที่เพจ Facebook : TECNO Mobile Thailand ครับ

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ TECNO Mobile ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง TECNO POP 3 Plus มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ครับ

จุดเด่นของ TECNO POP 3 Plus

- ตัวเครื่องมีขนาด 166.7x 75.8 x8.4 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 176 กรัม - หน้าจอแสดงผล Dot Notch FullView (IPS LCD) ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) ในอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 19.5:9 - ชิปเซ็ตประมวลผล Quad-Core MediaTek MT6761 Helio A22 ความเร็ว 2.0 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ PowerVR Rogue GE8300 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 1 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 16 GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie พร้อมครอบทับด้วย HiOS 5.5.2 - กล้องดิจิทัลด้านหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p พร้อมไฟแฟลช LED - กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.0 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p พร้อมไฟแฟลช LED - มีโหมด AI Beauty ปรับความกระจ่างใสของผิวหน้าได้ 6 ระดับ หรือปรับได้อัตโนมัติด้วย AI - เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง - ฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า Face Unlock 2.0 ที่มีระบบตรวจจับการปิดตา ทำให้ไม่สามารถปลดล็อกขณะหลับตาได้ - แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh - พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB (USB 2.0) - รองรับระบบดาวเทียม GPS, GLONASS, Beidou, Galileo - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot และ Bluetooth - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual SIM-Dual Standby) - ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร - ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Vacation Blue และ สีดำ Midnight Black - เคสที่แถมมากับตัวเครื่องเป็นพลาสติกผิวด้าน ไม่เป็นรอยนิ้วมือ - ราคา 2,390 บาท ถือว่าเป็นราคาที่ประหยัดคุ้มค่า - ฟรีรับประกันจอแตกนาน 1 ปี

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ TECNO POP 3 Plus

- หน้าจออัตราส่วน 19.5:9 ยังไม่สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันทั้งหมดได้ - หน่วยความจำ RAM และ ROM มีขนาดค่อนข้างน้อย เน้นรองรับการใช้งานพื้นฐาน - ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพหลักค่อนข้างน้อย มีลูกเล่นสำหรับการถ่ายภาพไม่มากนัก - ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB - ไม่มีระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูง

โปรดทราบ

* โทรศัพท์มือถือที่ท่านเห็นในบทความรีวิวนี้ เป็นเครื่องทดสอบจากศูนย์บริการ คุณสมบัติบางอย่างอาจแตกต่างจากเครื่องที่วางจำหน่ายจริง รวมถึงจุดด้อยบางประการที่พบในเครื่องทดสอบ อาจถูกแก้ไขให้ดีขึ้นแล้วในเครื่องที่วางจำหน่ายจริง ดังนั้นหากท่านสนใจซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ควรตรวจสอบ หรือทดลองใช้งานสินค้าด้วยตนเองเพื่อความมั่นใจครับ *

Leave a Comment