สำนักงาน กสทช. เปิดตัว “Mobile ID” เบอร์มือถือแทนบัตร แทนตัวคุณ ลดปัญหามิจฉาชีพขโมยข้อมูล

สำนักงาน กสทช. เปิดตัว “Mobile ID” เบอร์มือถือแทนบัตร แทนตัวคุณ ต่อยอดการใช้ประโยชน์ฐานข้อมูลลงทะเบียน SIM Card ของเลขหมายโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็นหนึ่งใน Digital Identity ของประเทศไทย ช่วยลดการเปิดเผยข้อมูลและถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปปลอมแปลง

นายสุทธิศักดิ์ ตันตะโยธิน รองเลขาธิการสายงานกิจการโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือ “Mobile ID” ที่ กสทช. ร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์ทั้ง 4 ค่าย ไม่ว่าจะเป็น AIS DTAC TRUE และ NT นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางและส่งเสริมนวัตกรรมในการเข้าใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนแทนการใช้เอกสารแสดงตนในการเข้าใช้บริการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงจนถูกมิจฉาชีพนำไปใช้ในการปลอมแปลง

โดยที่ระบบ “Mobile ID” นี้ ได้พัฒนาเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA จึงมีความสะดวก ปลอดภัย และเป็นการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการสามารถสมัครใช้บริการ “Mobile ID” เบอร์มือถือ แทนบัตร แทนตัวคุณ ณ ศูนย์บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่

เพียงแสดงบัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความถูกต้องและถ่ายภาพใบหน้าเพื่อเปรียบเทียบพิสูจน์ตัวตนของท่าน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถใช้บริการ “Mobile ID” ผ่านแอปพลิเคชันของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของท่าน กับธุรกรรมของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้แล้ว

ทั้งนี้ในระยะแรก ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป ประชาชนจะสามารถสมัครและใช้บริการ “Mobile ID” ในการเปิดบัญชีกับ “ธนาคารกรุงเทพ” โดยลูกค้า AIS สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ และลูกค้าจะสามารถใช้ Mobile ID ไปยืนยันตัวตนเพื่อเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ 9 สาขานำร่องในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สำนักงานใหญ่สีลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี เซ็นทรัลลาดพร้าว เซ็นทรัลวิลเลจ ดิเอ็มควอเทียร์ จามจุรีสแควร์ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน

เดอะคริสตัล 2 และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต 2 และภายในเดือนธันวาคมนี้ ลูกค้าของ NT จะสามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ภายในไตรมาส 1 ปี 2565 ประชาชนจะสามารถใช้บริการ “Mobile ID” ในการยืนยันตัวตนกับ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร ไปรษณีย์ไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก และเครดิตบูโร ต่อไป

ด้านนายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า โครงการ Mobile ID ระยะทดสอบนี้ เอไอเอส ได้ร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนแบบออนไลน์เต็มรูปแบบเป็นรายแรกของประเทศ เพื่อให้บริการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์กับลูกค้าของเอไอเอส ให้มีความสะดวก ปลอดภัย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้ครอบคลุมถึงธุรกรรมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และพร้อมที่จะส่งเสริมนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนให้ใช้ดิจิทัลไอดีในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของประเทศอีกด้วย

ขณะที่นายเรวัฒน์ ตันกิตติกร ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานช่องทางการขาย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ DTAC กล่าวว่า ระบบ Mobile ID นี้จะช่วยให้ลูกค้าดีแทคสามารถลงทะเบียนซิมใหม่หรือรับบริการธุรกรรมอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว และระบบ Mobile ID สามารถลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนในกระบวนการยืนยันตัวตนได้อีกด้วย

สำหรับนายนิติธรรม โกวิทกูลไกร หัวหน้าคณะผู้บริหาร (ร่วม) ด้านสินค้าและบริการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งบริษัทฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับสำนักงาน กสทช. สนับสนุนการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประชาชนให้มีความสะดวก และปลอดภัย โดยการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID จะทำให้ลูกค้าของทรู สามารถใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างทั่วถึงและแพร่หลายในทุกมิติ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย

ส่วนนายวงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดิจิทัล บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า NT เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมและดิจิทัลของประเทศเพื่อสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ที่มุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรรม NT จึงได้ร่วมพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วย Mobile ID เพื่อให้ประชาชนสามารถทำธุรกรรมต่างๆ กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น โดยหลังจากสมัครใช้บริการ Mobile ID แล้ว ลูกค้า NT สามารถใช้โทรศัพท์มือถือในการยืนยันตัวตนแทนบัตรประชาชนเพื่อเข้ารับบริการกับหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้

นายกึกก้อง รักเผ่าพันธุ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการริเริ่มพัฒนาระบบ Mobile ID ร่วมกับสำนักงาน กสทช. และภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคมจนสามารถได้เริ่มเปิดใช้บริการดังกล่าวได้ที่ธนาคารกรุงเทพเป็นแห่งแรก ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ทั้งการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่สามารถเปิดใช้งานบัญชีเงินฝากออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ สะดวกสบาย ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงกรณีการใช้บริการที่สาขาของธนาคาร Mobile ID ก็ช่วยยืนยันเบอร์โทรศัพท์ได้ง่ายๆ ที่สำคัญลูกค้ายังคงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะขั้นตอนการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลของลูกค้าอย่างถูกต้องก่อนทำธุรกรรม ซึ่งเป็นประเด็นที่ธนาคารให้ความสำคัญอย่างมากและเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความน่าเชื่อถือในฐานะสถาบันการเงิน ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของธนาคารกรุงเทพที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนิเวศด้านดิจิทัลของประเทศไทย อันจะมีบทบาทสำคัญและสามารถต่อยอดไปสู่ความก้าวหน้าด้านบริการทางการเงินได้อีกหลากหลายมิติในอนาคต

Leave a Comment