รีวิว OPPO A94 สมาร์ทโฟนชาร์จไว ใช้ชีวิตให้เต็มสปีด จอสวยใหญ่ กล้องโดนใจทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ ในงบไม่ถึงหมื่น :: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทโฟนชาร์จไว ใช้ชีวิตให้เต็มสปีด จอสวยใหญ่ กล้องโดนใจทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ ในงบไม่ถึงหมื่น ด้วยจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ 6.43 นิ้ว ผสานสแกนนิ้วบนจอ, กล้อง AI Quad Camera ผสานกล้องหน้า 32MP และชาร์จไว 30W VOOC Flash Charge 4.0 บนบอดี้สวยบางเฉียบเปล่งประกาย ในราคา9,499 บาท

20 เมษายน 2021 - หากกล่าวถึงสมาร์ทโฟนระดับกลาง แบรนด์ OPPO ก็น่าจะเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่ใครหลายคนมักนึกถึง โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนจากตระกูล A Series ด้วยจุดเด่นของคุณสมบัติที่ครบครัน พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และการดีไซน์สวยพรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่

ล่าสุดทาง OPPO ประเทศไทยก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน A Series น้องใหม่ออกมาให้เราได้เลือกใช้กันเพิ่มเติมกับ OPPO A94 ที่มาในสโลแกน “สมาร์ทโฟนชาร์จไว ใช้ชีวิตให้เต็มสปีด” โดดเด่นที่ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4310 mAh จากระดับ 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 56 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถสนทนาโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 3.2 ชั่วโมง และดู YouTube ได้นานสูงสุด 2.9 ชั่วโมง

อีกหนึ่งจุดขายของ OPPO A94 ก็คือ กล้องถ่ายภาพที่ด้านหลังทั้งหมด 4 ตัว กับความละเอียดสูงสุดระดับ 48 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายวิดีโอรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น AI Color Portrait Video สำหรับถ่ายวิดีโอพื้นหลังสีขาว-ดำ ในขณะที่ยังคงสีสันของตัวแบบเอาไว้ได้, Monochrome Video เป็นการถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถดึงสีขึ้นมาไฮไลท์บนวิดีโอได้แบบ Real-Time และ Dual-view Video สำหรับถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน รวมถึง Dynamic Bokeh กับเอฟเฟกต์การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอรูปแบบใหม่ ส่วนกล้องหน้าแบบ In-Display Selfie ก็มีความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล เลยทีเดียว

OPPO A94 มากับดีไซน์จอไร้ขอบเจาะรูกล้องหน้าแบบ Punch-Hole AMOLED Display ขนาด 6.43 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล : 409 ppi) กับพื้นที่การแสดงผลคิดเป็น 90.8% พร้อมค่า Touch Sampling Rate ระดับสูงสุด 180Hz และมี เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ In-Display Fingerprint 3.0 บนตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 172 กรัม โดยมีฝาหลังลงโค้งแบบ 3D Curved กระชับกับฝ่ามือขณะถือใช้งาน พร้อมการไล่เฉดสี เพิ่มความพรีเมียมให้ตัวเครื่อง ส่วนการประมวลผลก็มีประสิทธิภาพที่ดีด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio P95 ที่มีความเร็ว 2.2 GHz จับคู่กับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB ผสานกับหน่วยความจำ ROM ขนาด 128GB บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 11.1

จากข้อมูลในข้างต้นก็กล่าวได้ว่า OPPO A94 มีจุดเด่นที่น่าสนใจในหลายด้านเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ตัวเครื่องสุดพรีเมียม การชาร์จที่รวดเร็ว การทำงานที่ไหลลื่น ฟีเจอร์ที่จัดมาให้แบบครบครัน และกล้องถ่ายภาพ 5 ตัวในเครื่องเดียว กับราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยไม่เกินเอื้อมที่ 9,499 บาท ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชม รีวิว OPPO A94 ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์

OPPO A94 มาในแพ็กเกจสีฟ้า พร้อมระบุชื่อรุ่นไว้อย่างชัดเจน โดยกล่องด้านในมีสีดำ

ภายในกล่องมีอุปกรณ์พื้นฐานมาให้อย่างครบครัน ได้แก่ เคสใส, อะแดปเตอร์ (5V/6A), หูฟัง, สายเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, คู่มือการใช้งาน และเข็มสำหรับถอดถาดซิมการ์ด

ภาพตัวอย่างการใส่เคสที่แถมมาให้ในกล่อง

OPPO A94 มาพร้อมกับหน้าจอ Punch-Hole AMOLED Display ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 (พื้นที่การแสดงผล 90.8%) ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 409 ppi) ครอบทับด้วยกระจก 2.5D Gorilla Glass บนตัวเครื่องขนาด 160.1x73.2x7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 172 กรัม

รองรับเทคโนโลยี Sunlight Screen สำหรับช่วยเพิ่มการมองเห็นขณะใช้งานกลางแจ้ง หรือแสงแดดจ้า พร้อม Moonlight Screen ในการปรับความสว่างหน้าจอ และค่าอุณหภูมิหน้าจอให้ต่ำลง เพื่อให้ใช้งานในเวลากลางคืน หรือที่แสงน้อยได้สบายตายิ่งขึ้น โดยมีค่าความสว่างต่ำสุดที่ 2 nits เรียกได้ว่าสามารถใช้งาน OPPO A94 ได้อย่างสบายตาได้ตลอดทั้งวัน (All-day AI Eye Comfort)

และรองรับฟังก์ชัน Always-On Display

ที่ด้านบนมีเพียงลำโพงสำหรับสนทนา และเซนเซอร์ Proximity สำหรับปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนาเพื่อประหยัดพลังงาน กับเซนเซอร์ Ambient Light สำหรับตรวจวัดระดับความสว่างของสภาพแวดล้อม เพื่อปรับความสว่างของหน้าจอ และแผงปุ่มกดให้เหมาะสม

สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่เป็นแบบคู่ฝังอยู่บนหน้า จอที่มุมบนซ้ายแบบ In-Display Selfie ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (f2.4) พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI Beautification 2.0, โหมด Portrait พร้อม AI Color Portrait และ Portrait Video แบบ Real-time

ด้านหน้าส่วนล่างใช้ปุ่มควบคุมบนหน้าจอแบบ On-Screen ประกอบด้วย ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ

หรือเลือกใช้งานวิธีควบคุมแบบ Gestures ซึ่งเป็นการลาก และปัดบริเวณขอบหน้าจอเพื่อสั่งการได้ด้วย

และรองรับเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ In-Display Fingerprint 3.0

ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สอง

ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วย ลำโพงเสียงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C, ไมโครโฟนตัวหลักสำหรับสนทนา และช่องเชื่อมต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ที่ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับ เปิด-ปิดเครื่อง และล็อกหน้าจอ

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียง และถาดใส่ซิมการ์ด nanoSIM แบบ Triple-Slot ซึ่งรองรับการใช้งาน 2 nanoSIM + 1 microSD Card ขนาดสูงสุด 256GB ได้พร้อมกัน

ฝาหลังของ OPPO A94 ลงโค้งแบบ 3D ที่มีความเงางาม พร้อมการไล่เฉดสี สะท้อนเล่นกับแสงในมุมต่างๆ โดยสีที่ทางทีมงานได้รับมารีวิวนั้นคือสีดำ (Fluid Black)

ที่ด้านหลังตัวเครื่องของ OPPO A94 มีการติดตั้งชุดกล้อง 4 ตัว (AI Quad Camera) ดีไซน์ใหม่ ประกอบไปด้วย

- กล้องตัวหลัก Ultra-Clear (Wide) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.7, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, มุมรับภาพ 79 องศา (25 mm), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/4.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, มุมรับภาพ 119 องศา (16 mm) และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สี่แบบ Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์

โดยรองรับโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Extra HD (9024x12032 พิกเซล), โหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน พร้อมฟิลเตอร์ Night Plus , เทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) พร้อม AI Color Portrait และ Dynamic Bokeh การเบลอฉากหลังรูปแบบใหม่, โหมดหน้าสวย AI Beautification 2.0 และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD (30 fps) พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ EIS Ultra Steady Video, โหมดถ่ายวิดีโอ AI Color Portrait Video, Monochrome Video และ Dual-view Video สำหรับถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมการทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่าง ๆ

OPPO A94 ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 กับดีไซน์หน้า User Interface ที่เรียบหรู และดูสบายตามากขึ้น โดยรองรับหน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB พร้อมความจุภายในตัวเครื่อขนาด 128GB โดยรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card ขนาดสูงสุด 256GB

และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 4G แบบ Dual 4G LTE

เมื่อลากจากขอบด้านบนของหน้าจอลงมาจะพบกับ Toggle Switch ปุ่มลัดสำหรับการเปิด-ปิดฟังก์ชันต่างๆ มากมาย เช่น การใช้งานอินเทอร์เน็ต, Bluetooth หรือการหมุนหน้าจออัตโนมัติ รวมถึง Notification Center แถบการแจ้งเตือนต่างๆ

โดยสามารถปรับตำแหน่งของคีย์ลัดต่างๆ ได้ตามที่ต้องการ

เมื่อปัดไปทางด้านขวาจากหน้าโฮมสกรีน จะพบกับ Google Discover หน้าที่รวบรวมข่าวสารที่ได้รับความนิยมในโลกออนไลน์ โดยอ้างอิงจากการค้นหาของผู้ใช้

สามารถเข้าสู่เข้าสู่เมนูการปรับแต่งหน้าจอ เพื่อปรับตำแหน่งของไอคอน พร้อมเลือกภาพพื้นหลัง, รูปแบบไอคอน, Layout, Widget และเอฟเฟ็กเวลาเปลี่ยนหน้าจอได้ เพียงใช้สองนิ้วรูดเข้าหากันในแนวทแยง

และเมื่อกดปุ่ม Recent Apps จะพบกับหน้าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เปิดใช้งานเอาไว้ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปพลิเคชันที่เปิดค้างเอาไว้ได้ เพียงแค่เลื่อนหน้าต่างแอปนั้นๆ ไปยังด้านบน หรือปิดแอปพลิเคชันทั้งหมดภายในครั้งเดียวด้วยการกดปุ่ม Close all ที่ด้านล่าง

สามารถปรับค่าการแสดงผลต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ความสว่างอัตโนมัติ, อุณหภูมิสี หรือขนาดของตัวอักษร พร้อมรองรับฟังก์ชัน Eye Comfort สำหรับลดแสงสีฟ้าบนหน้าจอ

รวมถึงรองรับ Dark Mode ในการเปลี่ยนพื้นหลังให้กลายเป็นสีดำ และยังเลือกให้แอปพลิเคชันจาก Third-Party แสดงผลพื้นหลังเป็นสีดำได้อีกด้วย โดยในเบื้องต้นยังเป็นแบบ Beta อยู่

และยังรองรับเทคโนโลยี OSIE Vision Effect ที่ช่วยให้รับชมภาพ และภาพยนตร์เรื่องโปรดได้คมชัดกว่าเดิม ในระดับ high-frame-rate HDR Masterpieces

สามารถเลือกให้แสดงผลแบบเต็มหน้าจอ (Full Screen) ได้

รองรับฟังก์ชัน Always-On Display สามารถเลือกการแสดงผล และดีไซน์ได้ตามที่ต้องการ รวมถึงเลือกให้แสดง Notification ต่างๆ

สามารถปรับเปลี่ยนธีม (Theme) และภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ของตัวเครื่องได้อย่างอิสระ

พร้อมดาวน์โหลดธีม, ภาพพื้นหลัง และรูปบบตัวอักษมาใช้งานเพิ่มเติมได้จากแอปพลิเคชัน Theme Store

และสามารถเลือกปรับตั้งค่าธีม, ภาพพื้นหลัง, รูปแบบไอคอน, App layout, เอฟเฟ็กขณะสแกนลายนิ้วมือ, สี, รูปแบบตัวอักษร พร้อมขนาดตัวอักษร และNotification drawer ในทีเดียวได้ที่เมนู Personalizations

สามารถสลับตำแหน่งของปุ่ม Navigation Buttons ให้เหมาะกับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนได้

หรือเลือกใช้งานการควบคุมแบบ Swipe Gestures From Both Sides ในการปัดหน้าจอจากด้านข้างลักษณะต่างๆ เพื่อสั่งการ

หรือเลือกใช้งานการควบคุมแบบ Swipe-Up Gestures ในการปัดหน้าจอขึ้นลักษณะต่างๆ เพื่อสั่งการ

ฟังก์ชัน Gesture & motions ซึ่งประกอบไปด้วย การแคปเจอร์หน้าจอด้วยการลาก 3 นิ้วจากบนลงล่าง, การยกตัวเครื่องขึ้นเพื่อเป็นการปลุกการทำงาน, การรับสายอัตโนมัติ, การสลับจากลำโพงภายนอก มาเป็นลำโพงสำหรับสนทนาเมื่อนำมือถือมาแนบที่ใบหู และการคว่ำตัวเครื่องเพื่อปิดเสียงสายโทรเข้า

รวมถึง Screen-Off Gestures การวาดนิ้วในลักษณะต่างๆ ขณะหน้าจอดับอยู่ เพื่อเปิดใช้งานคีย์ลัด เช่น แตะสองครั้งเพื่อปลุกหน้าจอ, วาดตัวอักษร O เพื่อเปิดแอปพลิเคชันกล้องถ่ายภาพ, วาดตัวอักษร V เพื่อเปิดใช้งานไฟฉาย และการวาดตัวอักษร < หรือ > เพื่อเปลี่ยนเพลง นอกจากนี้ ยังสามารถตั้งค่ารูปแบบการวาดเพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้

โดยที่สามารถบันทึกภาพสกรีนช็อตแบบยาวได้ด้วย

รองรับฟังก์ชัน Screen recording ในการบันทึกหน้าจอแบบวิดีโอ ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p

สามารถเปิดใช้งานฟังก์ชัน Assistive Ball ปุ่มคีย์ลัดที่สามารถเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งได้

ฟังก์ชัน Quick Return Bubble สำหรับสร้างปุ่มทางลัดเพื่อเข้าสู่เกมที่ตั้งค่าไว้

และรองรับฟังก์ชัน Smart Slider สำหรับเรียกใช้งานคีย์ลัด และแอปพลิเคชันต่างๆ ผ่านการสไลด์ที่บริเวณขอบสีขาวที่หน้าจอ

โดยรองรับการใช้งานทั้งในแนวตั้ง และแนวนอน พร้อมเลือกแอปพลิเคชันอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมในแถบ Smart Slider ได้

มีฟังก์ชัน Split Screen ที่สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานสองแอปพลิเคชันได้พร้อมๆ กัน ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งหมด 4 วิธี

ตัวอย่างการใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ

และรองรับฟังก์ชัน FlexDrop สำหรับย่อหน้าจอแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ใช้งานอยู่ เพื่อเปิดแอปใหม่ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องปิดแอปทั้งหมด ได้แก่ Floating window และ Mini window

นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้งาน Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะจาก Google บน OPPO A94 ได้ด้วยเช่นกัน โดยกดค้างที่ปุ่ม Power ประมาณ 2 วินาที โดยผู้ใช้สามารถสั่งงานภายในตัวเครื่อง

รวมถึงค้นหาสิ่งต่างๆ ที่ต้องการผ่านคำสั่งเสียง รวมถึงบริการ Google Lens บริการค้นหาวัตถุ หรือสถานที่ด้วยการนำกล้องไปถ่ายวัตถุนั้นๆ ได้อย่างง่ายดาย

แอปพลิเคชัน Phone Manager เครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการเคลียร์ไฟล์แคช (Cache File), จัดการความเป็นส่วนตัว หรือการสแกนไวรัส ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องมีความปลอดภัย และใช้งานได้รวดเร็วอยู่ตลอดเวลา

OPPO A94 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4310 mAh ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน พร้อมเปิดใช้งานในโหมดประหยัดพลังงานอย่าง Power saving mode ที่ช่วยจัดการพลังงานให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยเมื่อกดใช้งานแถบแบตเตอรี่บนหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

และประหยัดพลังงานขั้นสุดด้วย Super power saving mode เพื่อยืดระยะเวลาในการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น แต่แลกมากับฟังก์ชันการใช้งานระดับพื้นฐานเท่านั้น รวมถึงรองรับฟังก์ชัน Super Nighttime Standby ในการเรียนรู้กิจวัตรของผู้ใช้ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบตเตอรี่ของโทรศัพท์ได้ในขณะที่ผู้ใช้งานนอนหลับ

มีโหมด High Performance เพื่อการประมวลผลในระดับสูงสุด โดยเมื่อเปิดใช้งานตัวเครื่องจะใช้ทรัพยากรมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกตินั่นเอง (เมื่อเปิดใช้งานจะมีสัญลักษณ์แบตเตอรี่สีเขียวที่ด้านซ้าย ถัดจากเวลา)

และรองรับเทคโนโลยีการชาร์จความเร็วสูงแบบ 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่ช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จได้เป็นอย่างดี โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0-100% ได้ภายในเวลา 56 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที สามารถโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 3.2 ชั่วโมง และดู YouTube ได้นานสุด 2.9 ชั่วโมง

สามารถตรวจสอบเวลาที่ใช้ไปในแต่ละแอปพลิเคชัน รวมถึงกำหนดระยะเวลาในการใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชันได้

และรองรับฟังก์ชันใหม่ล่าสุดอย่าง Focus Mode สำหรับช่วยตัดผู้ใช้ออกจากโลกภายนอก โดยระบบจะปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบายๆ โดยผู้ใช้สามารถเลือก Theme ของเพลงได้ และเปิดโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนต่างๆ ตอบโจทย์เวลาที่ผู้ใช้ต้องการสมาธิ หรือเข้านอนนั่นเอง

ฟีเจอร์ App Cloner สำหรับโคลนนิ่งแอปพลิเคชัน ซึ่งในเบื้องต้นนั้นสามารถโคลนนิ่งได้เฉพาะแอปพลิเคชันโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่น Facebook และ Line จึงทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินแอปพลิเคชันเหล่านี้ได้พร้อมกันถึง 2 แอคเคานท์

รวมถึงรองรับการใช้งานแบบ Multi-user ที่สามารถสลับการใช้งานจากผู้ใช้หลายคนได้ โดยข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคน และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ จะถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการแยกการทำงาน และการใช้งานทั่วไปให้ชัดเจน

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยบน OPPO A94 มีทั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ติดตั้งอยู่ใต้หน้าจอแบบ In-Display Fingerprint 3.0 โดยสามารถตั้งค่าการใช้งานเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ ซึ่งจากการทดสอบตัวเซนเซอร์ก็สามารถปลดล็อกหน้าจอได้รวดเร็วทันใจ

โดยสามารถเลือกรูปแบบ Animation ขณะปลดล็อกได้

และการปลดล็อกด้วยใบหน้า (Facial Unlock) ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว

ท่านที่ใช้งาน OPPO A94 เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่แล้วอยากย้ายข้อมูลจากสมาร์ทโฟนเครื่องเดิม ก็สามารถโอนย้ายข้อมูลด้วยแอปพลิเคชัน Clone Phone ได้ทันที

OPPO A94 รองรับการเล่นเพลง และไฟล์เสียงต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชัน Music และสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Real HD Sound ด้วยระบบ Dirac 2.0 ได้ โดยผู้ใช้สามารถสามารถปรับรูปแบบอีควอไลเซอร์ได้หลากหลาย (ระบบเสียง Dirac 2.0 จะต้องใช้งานร่วมกับหูฟังเท่านั้น)

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งแอปพลิเคชัน SOLOOP มาให้แบบแกะกล่อง กับความสามารถในการตัดต่อวิดีโอ โดยสามารถเลือกใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ, เลือกตัดเฉพาะส่วนที่ต้องการ, ใส่ฟิลเตอร์, เพิ่มคำบรรยาย และเพิ่มเพลง Background ได้ตามที่ต้องการ

ที่สำคัญ OPPO A94 ยังรองรับฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวอย่าง App Lock สำหรับล็อกแอปพลิเคชันต่างๆ ภายในตัวเครื่อง, Hide Apps ในการซ่อนแอปพลิเคชันที่ต้องการ, Kid Space การจัดการแอปพลิเคชันสำหรับเด็ก รวมถึง Private Safe ที่เปรียบเสมือนตู้นิรภัยประจำสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้สามารถย้ายไฟล์รูปภาพ, ไฟล์เสียง, ไฟล์เอกสาร และไฟล์ประเภทอื่นๆ เข้าไปเก็บไว้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องทำการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าใช้งาน นอกจากนี้ก็มีระบบรักษาความปลอดภัยเมื่อต้องกรอกรหัสผ่าน และการป้องกันการบันทึกหน้าจอที่เปิดเผยข้อมูลสำคัญ

สำหรับเซนเซอร์ในเครื่อง OPPO A94 นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor

สามารถจับสัญญาณดาวเทียม GPS ในที่กลางแจ้งได้ พร้อมรองรับระบบดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย โดยจากภาพตัวอย่างการทดสอบข้างต้นจะเห็นว่าสามารถจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 37 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 1 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ที่กำลังใช้งานอยู่ หรือสภาพอากาศด้วยนั่นเอง

OPPO A94 มาพร้อมชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P95 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.2 GHz โดยมีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG 9XM-HP8 970MHz (IMG PowerVR GM9446), หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB และทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 ซึ่งถูกครอบทับด้วย User Interface แบบ ColorOS 11.1

OPPO A94 มีผลทดสอบจากแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ที่ 219,072 คะแนน และผลทดสอบจาก Geekbench 5 ในด้านการประมวลผลแบบแกนเดี่ยว (Single-Core) ที่ 420 คะแนน และในด้านการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core) ที่ 1,547 คะแนน

สำหรับการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน 3D Mark แบบ OpenGL ES 3.1 ได้คะแนนการทดสอบที่ 1,315 คะแนน

OPPO A94 รองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด

OPPO A94 ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์สำหรับเกมเมอร์ตัวจริงอย่าง Game Assistant ที่ช่วยในเรื่องของภาพให้ออกมาสมจริง พร้อมเพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกม และ Game Space ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่างๆ ขณะเล่นเกม รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอได้

ใน Game Space นั้นก็มี Graphics Acceleration สำหรับรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลที่สุด รวมไปถึง Network Protection สำหรับจำกัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตของแอปพลิเคชันที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง เพื่อช่วยลดอาการแลคขณะเล่นเกมออนไลน์ที่จำเป็นต้องมีการรับ-ส่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

จากการทดสอบด้วยการเล่นเกมที่มีกราฟิกแบบสาม มิติอย่าง PUBG Mobile, Marvel Future Fight และ A3 : Still Alive พร้อมเปิดการแสดงผลระดับสูง ที่ระดับ 60 fps ก็พบว่า OPPO A94 สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างไหลลื่น และไม่พลาดช่วงเหตุการณ์สำคัญ โดยไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก แต่ก็มีการสะสมความร้อนให้เห็นบ้าง

OPPO A94 มาพร้อมกับหน้าจอ Punch-Hole AMOLED Display ขนาด 6.43 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 (พื้นที่การแสดงผล 90.8%) ความละเอียดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 409 ppi) จึงสามารถเปิดเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียดระดับ Full HD 1080p ได้อย่างคมชัดเต็มอรรถรส และให้มุมมองที่กว้างเต็มตาเป็นพิเศษ ผสานเทคโนโลยี OSIE Vision Effect ที่ช่วยให้รับชมภาพ และภาพยนตร์เรื่องโปรดได้คมชัดกว่าเดิม

การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ

OPPO A94 มาพร้อมชุดกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย

- กล้องตัวหลัก Ultra-Clear (Wide) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.7, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, มุมรับภาพ 79 องศา (25 mm), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/4.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, มุมรับภาพ 119 องศา (16 mm) และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 2ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สี่แบบ Monochrome ความละเอียด 2ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์

โดย Interface ของแอปพลิเคชันกล้องมีการดีไซน์เรียบหรู สบายตา และมีเมนูให้ได้เลือกใช้อย่างชัดเจน โดยสามารถเลือกถ่ายภาพในมุมปกติ (1x),  แบบมุมกว้าง Ultra-Wide (0.6x), ซูมที่ 2 เท่า (2x) และซูมที่ 5 เท่า (5x) โดยสามารถซูมสูงสุดที่ 10 เท่า (10x Digital Zoom)

พร้อมฟังก์ชันเปิด-ปิด ไฟแฟลช, โหมด HDR, เทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0 ที่เป็นการรวมฟีเจอร์ Dazzle Color สำหรับเพิ่มสีสันให้ภาพถ่าย และระบบตรวจจับภาพ (AI Scene Recognition) เข้าไว้ด้วยกัน โดยมีทั้งหมด 20  รูปแบบ และการเพิ่มฟิลเตอร์

และเปิดแถบเมนูเพิ่มเติมได้ ประกอบด้วย สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ, โหมด 48MP สำหรับถ่ายภาพความละเอียดสูง และการตั้งค่าอื่นๆ เพิ่มเติม

OPPO A94 มาพร้อม AI Beautification 2.0 สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0 - 100%

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0 - 100%

ที่มาพร้อม Bokeh เอฟเฟ็กที่น่าสนใจ ได้แก่ AI Color Portrait, Neon Portrait และ Dynamic Bokeh ใหม่ล่าสุด รวมถึงสามารถใส่ฟิลเตอร์แบบต่างๆ ได้

และทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 ในการปรับผิวเนียน โดยสามารถเลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0 - 100%

OPPO A94 มีโหมด Night ถ่ายภาพกลางคืน ทั้งในมุมปกติ และแบบมุมกว้าง (Ultra Wide-Angle)

พร้อมโหมด Tripod ในการเปิดหน้าชัตเตอร์เพื่อเก็บแสงให้ภาพถ่ายนานขึ้น

และมีฟิลเตอร์ Night Plus ในการเปลี่ยนโทนสรของภาพทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Cosmopolitan, Astral และ Dazzle

โหมด Macro สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้สุดที่ระยะ 4 เซนติเมตร

รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างในโหมด PANO

และโหมด Expert การตั้งค่าต่างๆ ที่ครบครัน และครอบคลุมสำหรับช่างภาพแทบทั้งหมด

โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Extra HD (9024x12032 พิกเซล)

รวมถึงเพิ่มสติกเกอร์แบบต่างๆ พร้อมใช้งานร่วมกับ AI Beautification 2.0 ปรับค่าผิวเนียนได้

การถ่ายวิดีโอบน OPPO A94 สามารถบันทึกความละเอียดสูงสุดในโหมดปกติได้ที่ระดับ 4K UHD (30 fps) สามารถเลือกถ่ายภาพในมุมปกติ (1x),  แบบมุมกว้าง Ultra-Wide (0.6x), ซูมที่ 2 เท่า (2x) และซูมที่ 5 เท่า (5x) โดยสามารถซูมสูงสุดที่ 10 เท่า (10x Digital Zoom) และรองรับเทคโนโลยีป้องกันการสั่นไหวแบบ EIS Ultra Steady Video

พร้อมโหมด AI Beautification 2.0 สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเลือกระดับความเนียนได้ตั้งแต่ 0 - 100%

รองรับโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Video Bokeh) ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ตั้งแต่ 0 - 100%

สามารถใส่ฟิลเตอร์แบบต่างๆ ได้

พร้อมโหมดถ่ายวิดีโอ AI Color Portrait Video สำหรับถ่ายวิดีโอพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะคงสีสันของตัวแบบไว้

มีฟีเจอร์ Monochrome Video เป็นการถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถดึงสีขึ้นมาไฮไลท์บนวิดีโอได้แบบ real-time ได้แก่ สีแดง (Crimson), สีเขียว (Forest Green) และสีฟ้า (Sky Blue)

และ Dual-view Video สำหรับถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน โดยมีให้เลือก 3 รูปแบบ

ทางด้านกล้องดิจิทัลด้านหน้าของ OPPO A94 ฝังบนหน้าจอ (In-Display Selfie) ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสง f2.4

โดยมีหน้าตา Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่ายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟิลเตอร์แบบต่างๆ

รองรับเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 สำหรับปรับแต่งใบหน้าของตัวแบบให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ผ่านการวิเคราะห์โดยปัญญาประดิษฐ์ โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งแต่ละส่วนบนใบหน้าได้อย่างอิสระ ซึ่งสามารถเลือกระดับได้ตั้งแต่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นจะอยู่ที่ 30%)

สำหรับโหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0 - 100%

โดยมาพร้อมกับ AI Color Portrait ในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยมีพื้นหลังเป็นสีขาว-ดำ ขณะที่ตัวแบบยังคงสีสันไว้

พร้อมเพิ่มฟิลเตอร์แบบต่างๆ ได้

และรองรับเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 ที่สามารถปรับแต่งโครงสร้างบนใบหน้าได้อย่างอิสระ

รวมถึงการถ่ายเซลฟี่มุมกว้างในโหมด PANO

และเพิ่มสีสันให้กับการเซลฟี่ด้วยสติ้กเกอร์แบบ ต่างๆ พร้อมใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 ที่สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าในแต่ละส่วนได้อย่างอิสระ

รวมถึงการถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืนด้วยโหมด Night

การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าของ OPPO A94 รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD 1080p พร้อมเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 ในการปรับค่าผิวให้ดูเนียนสวยขึ้น ตั้งแต่ระดับ 0 - 100% (ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ HD 720p) และระบบป้องกันการสั่นไหว

รองรับการบันทึกวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Video Bokeh) ได้แบบ real-time ที่สามารถปรับระดับความเบลอได้ตั้งแต่ 0 - 100% พร้อม AI Color Portrait Videoในการถ่ายวิดีโอพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะคงสีสันของตัวแบบไว้

และใส่ฟิลเตอร์แบบต่างๆ

รวมถึงฟังก์ชัน Dual-view ในการถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ความละเอียดระดับ 48+8+2+2 ล้านพิกเซล ของ OPPO A94

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ พร้อมเทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0

ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait แบบ AI Color Portrait

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait แบบ Neon Portrait

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait แบบ Dynamic Bokeh

ภาพถ่ายจากโหมด Ultra Macro

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night มุมกว้างแบบ Ultra-Wide

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night พร้อมฟิลเตอร์แบบ Cosmopolitan

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night พร้อมฟิลเตอร์แบบ Astral

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night พร้อมฟิลเตอร์แบบ Dazzle

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night พร้อมฟิลเตอร์แบบ Astral

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนจากโหมด Night พร้อมฟิลเตอร์แบบ Dazzle

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลของ OPPO A94

ภาพถ่ายจากโหมดปกติ

ภาพถ่ายจากโหมด AI Beauty

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait

ภาพถ่ายจากโหมด Portrait แบบ AI Color Portrait

สรุปผลการทดสอบของ OPPO A94

จากที่มีโอกาสได้ใช้งาน OPPO A94 มาระยะหนึ่งก็พอจะสรุปได้ว่า OPPO A94 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในงบไม่ถึงหมื่นบาท ด้วยจุดเด่นอย่างเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4310 mAh จากระดับ 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 56 นาที หรือชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถสนทนาโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 3.2 ชั่วโมง และดู YouTube ได้นานสูงสุด 2.9 ชั่วโมง โดยสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานให้นานขึ้นได้ด้วยโหมด Power Saving Mode หรือการประหยัดพลังงานขั้นสุดอย่าง Super Power Saving Mode แต่ก็ต้องแลกกับการปรับลดฟังก์ชันการใช้งานมาอยู่ในระดับพื้นฐานเท่านั้น และหากต้องการใช้งานแบบในโหมดประสิทธิภาพสูงสุดของตัวเครื่อง OPPO A94 ก็มี โหมด High Performance ให้ใช้งานด้วย สำหรับเร่งการประมวลผลด้านต่าง ๆ ให้เร็ว และแรงกว่าเดิม โดยเมื่อเปิดใช้งานตัวเครื่องจะใช้ทรัพยากรมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง และอาจทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าปกตินั่นเอง

อีกด้านที่น่าสนใจคือกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว (AI Quad Camera) ซึ่งประกอบด้วย กล้องตัวหลัก Ultra-Clear (Wide) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (f1.7), กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.2) ที่เก็บภาพมุมกว้างสุดได้ 119 องศา, กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4) และ กล้อง Monochrome ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f2.4) ที่รองรับฟังก์ชันต่าง ๆ ครบครันทุกความต้องการของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็น โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Extra HD, โหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน พร้อมฟิลเตอร์ Night Plus ให้เลือกใช้ 3 รูปแบบ, เทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0 ที่เป็นการรวมฟีเจอร์ Dazzle Color สำหรับเพิ่มสีสันให้ภาพถ่าย และระบบตรวจจับภาพเข้าไว้ด้วยกัน, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) พร้อมการเบลอฉากหลังรูปแบบใหม่แบบ Dazzling Visual Effect , โหมดหน้าสวย AI Beautification 2.0 และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD (30 fps) พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ EIS Ultra Steady Video รวมถึงการถ่ายวิดีโอรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็น AI Color Portrait Video สำหรับถ่ายวิดีโอพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะคงสีสันของตัวแบบไว้, Monochrome Video เป็นการถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถดึงสีขึ้นมาไฮไลท์บนวิดีโอได้แบบ Real-time และ Dual-view Video สำหรับถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน

สำหรับ กล้องหน้าของ OPPO A94 คมชัดที่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI Beautification 2.0 สำหรับปรับค่าผิวเนียน และสัดส่วนบนใบหน้าได้อย่างอิสระ, โหมด Portrait พร้อม AI Color Portrait ในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยมีพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะที่ยังคงสีสันของตัวแบบไว้ และการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Video Bokeh) ได้แบบ Real-time รวมถึงรองรับฟีเจอร์ Dual-view Video เหมือนกล้องหลัง

การดีไซน์ของ OPPO A94 ก็มีความพรีเมียมเทียบชั้นรุ่นใหญ่ ด้วยหน้าจอไร้ขอบไร้รอยบากแบบ Punch-Hole AMOLED Display ขนาด 6.43 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD+ (1080x2400 พิกเซล : 409 ppi) ในอัตราส่วนแบบ 20:9 ที่ให้มุมมองกว้างเต็มตาแบบพิเศษ ไม่ว่าจะใช้งานทั่วไป ท่องโลกโซเชียล เล่นเกม หรือดูภาพยนตร์เรื่องโปรดก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี และรองรับการใช้งานทั้งในที่กลางแจ้ง และในที่แสงน้อยได้สบายตาตลอดวัน (All-day AI Eye Comfort) ด้วย เทคโนโลยี Sunlight Screen กับ Moonlight Screen อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี OSIE Vision Effect ที่ช่วยให้รับชมรูปภาพ และภาพยนตร์เรื่องโปรดได้คมชัดกว่าเดิม พร้อม ระบบเสียง Real HD Sound และ Dirac 2.0 ที่ช่วยเพิ่ม อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ หรือซีรีส์เรื่องโปรด รวมถึงการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอแบบ In-Display Fingerprint 3.0 ที่ทำงานร่วมกับระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกตัวเครื่อง โดยมีฝาหลังเงางามลงขอบโค้งแบบ 3D Curved พร้อมการไล่เฉดสี สะท้อนเล่นกับแสงในมุมต่าง ๆ

OPPO A94 ประมวลผลด้วย ชิปเซ็ต MediaTek Helio P95 ที่มีความเร็ว 2.2 GHz พร้อมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) แบบ IMG 9XM-HP8 (IMG PowerVR GM9446) โดยจับคู่กับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB ที่รองรับการใช้งานแบบ Multi-tasking ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงหน่วยความจำ ROM ขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD Card ได้ที่ขนาดสูงสุด 256GB จึงสามารถเก็บข้อมูลต่าง ๆ ทั้งภาพถ่าย, วิดีโอ, แอปพลิเคชัน หรือเกมได้อย่างเต็มที่

ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานอยู่บน ระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบทับด้วย ColorOS 11.1 เวอร์ชันใหม่ กับ User Interface ดีไซน์เรียบหรูสบายตา โดยผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของไอคอนแอปพลิเคชันได้ตามที่ต้องการ และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง Dark Mode ในการปรับการแสดงผลพื้นหลังหน้าจอให้เป็นสีดำ สำหรับใช้งานในที่มืด หรือใช้งานในตอนกลางคืน และฟังก์ชัน Focus Mode สำหรับช่วยตัดผู้ใช้ออกจากโลกภายนอก โดยระบบจะปิดแอปพลิเคชันที่ตั้งค่าไว้แบบชั่วคราว พร้อมเปิดเพลงสบาย ๆ โดยผู้ใช้สามารถเลือก Theme ของเพลงได้ และเปิดโหมดห้ามรบกวน (Do Not Disturb) เพื่อปิดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ตอบโจทย์เวลาที่ผู้ใช้ต้องการสมาธิ หรือเข้านอนนั่นเอง นอกจากนี้ผู้ใช้ OPPO A94 ยังสามารถตัดต่อวิดีโอต่าง ๆ ด้วยแอปพลิเคชันประสิทธิภาพสูงอย่าง SOLOOP ที่ติดตั้งมาให้พร้อมตั้งแต่แกะกล่อง

OPPO A94 ยังรองรับฟังก์ชัน Game Assistant สำหรับเกมเมอร์ตัวจริง ที่ช่วยในเรื่องของภาพให้ออกมาสมจริง พร้อมเพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกม และ Game Space ที่ผู้ใช้สามารถบล็อกการแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอได้ขณะเล่นเกม พร้อมกับฟีเจอร์ Graphics Acceleration ในการรีดประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU เพื่อให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถเล่นเกมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงเกมที่เน้นกราฟิกได้แบบไม่มีสะดุด

และจากการทดสอบทั้งหมดพอจะสรุปได้ว่า OPPO A94 เหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เน้นการใช้งานด้านความบันเทิง ด้วยแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้เร็วทันใจ พร้อมหน้าจอไร้ขอบไร้รอยบาก ที่ให้มุมมองกว้างเต็มตาเป็นพิเศษ และมีการดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยโค้งมนบางเฉียบ ให้ความพรีเมียมขณะถือใช้งาน รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ-วิดีโอด้วยฟีเจอร์ลูกเล่นที่น่าสนใจมากมาย ในราคาจับต้องได้

สำหรับ OPPO A94 เปิดราคาจำหน่ายอย่างทางการในประเทศไทยที่ 9,499 บาท กับตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีม่วง (Fantastic Purple) และ สีดำ (Fluid Black) โดยพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ที่ร้าน OPPO Brand Shop, ร้านตัวแทนจำหน่าย และช่องทางออนไลน์ที่ OPPO Official Store, Lazada, Shopee, Thisshop และ JD Central

พร้อมโปรโมชั่นจากผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้ง AIS, TrueMove H และ dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,989 บาท ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึง 30 เมษายน 2564

นอกจากนี้ยังสามารถซื้อ OPPO Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะได้ในราคาเพียง 999 บาท (จากปกติ 1,199 บาท) เมื่อซื้อคู่กับ OPPO A94

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทาง OPPO ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง OPPO A94 มาให้ทางทีมงานได้ทำการรีวิวให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ

จุดเด่นของ OPPO A94

- ดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องแบบ 3D Curved พร้อมความเงางาม ไล่เฉดสี และสะท้อนเล่นกับแสงในมุมต่าง ๆ โดยมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีม่วง (Fantastic Purple) และสีดำ (Fluid Black) - ตัวเครื่องมีความบางเฉียบ และมีน้ำหนักเบา ด้วยขนาด 160.1x73.2x7.8 มิลลิเมตร กับน้ำหนัก 172 กรัม - หน้าจอแสดงผลแบบ Punch-Hole AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ (2400x1080 พิกเซล : 409 ppi) พร้อมอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9, พื้นที่แสดงผล 90.8%, ค่า Refresh Rate 60Hz, ค่า Touch Sampling Rate 135Hz (โหมดปกติ) / 180 Hz (โหมดเกม), แสดงช่วงสีแบบ DCI-P3 ได้ที่ระดับ 92%, แสดงช่วงสีแบบ sRGB ได้ที่ระดับ 100%, ค่า Contrast Ratio 1,000,000:1 และค่าความสว่าง 430 nits (ปกติ) / 600 nits (HBM : High Brightness Mode) / 800 nits (สูงสุด) - เทคโนโลยี Sunlight Screen สำหรับช่วยเพิ่มการมองเห็นขณะใช้งานกลางแจ้ง หรือแสงแดดจ้า พร้อม Moonlight Screen ในการปรับความสว่างหน้าจอ และค่าอุณหภูมิหน้าจอให้ต่ำลง เพื่อให้ใช้งานในเวลากลางคืน หรือที่แสงน้อยได้สบายตายิ่งขึ้น โดยมีค่าความสว่างต่ำสุดที่ 2 nits กล่าวคือสามารถใช้งาน OPPO A94 ได้อย่างสบายตาตลอดทั้งวัน (All-day AI Eye Comfort) - เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint 3.0) พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า (Facial Unlock) - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio P95 ความเร็ว 2.2 GHz พร้อม NPU Core - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) IMG 9XM-HP8 (IMG PowerVR GM9446) - หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128GB - รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card สูงสุดที่ขนาด 256GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย ColorOS 11.1 กล้องดิจิทัลด้านหลัง 4 ตัว (AI Quad Camera) ประกอบด้วย - กล้องตัวหลัก Ultra-Clear (Wide) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.7, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/2.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 0.8 ไมครอน, มุมรับภาพ 79 องศา (25 mm), ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สองแบบ Ultra Wide ความละเอียด 8ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2, เซนเซอร์รับภาพขนาด 1/4.0 นิ้ว, เม็ดพิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน, มุมรับภาพ 119 องศา (16 mm) และโครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สามแบบ Macro ความละเอียด 2ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์ - กล้องตัวที่สี่แบบ Monochrome ความละเอียด 2ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 89 องศา และโครงสร้างแบบ 3 ชิ้นเลนส์

พร้อมรองรับโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง Extra HD (9024x12032 พิกเซล), โหมด Night สำหรับถ่ายภาพกลางคืน พร้อมฟิลเตอร์ Night Plus สำหรับเปลี่ยนโทนสี และอารมณ์ของภาพให้ต่างจากเดิม, เทคโนโลยี AI Scene Enhancement 2.0 ที่เป็นการรวมฟีเจอร์ Dazzle Color สำหรับเพิ่มสีสันให้ภาพถ่าย และระบบตรวจจับภาพเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งหมด 20  รูปแบบ, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ (Portrait) พร้อม AI Color Portrait และ Dynamic Bokeh การเบลอฉากหลังรูปแบบใหม่แบบ Dazzling Visual Effect, โหมดหน้าสวย AI Beautification 2.0 และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD (30 fps) พร้อมระบบป้องกันการสั่นไหวแบบ EIS Ultra Steady Video, โหมดถ่ายวิดีโอ AI Color Portrait Video สำหรับถ่ายวิดีโอพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะคงสีสันของตัวแบบไว้, Monochrome Video เป็นการถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอ ที่สามารถดึงสีขึ้นมาไฮไลท์บนวิดีโอได้แบบ Real-time และ Dual-view Video สำหรับถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน กล้องดิจิทัลด้านหน้าฝังบนจอ (In-Display Selfie) ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล

พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4, มุมรับภาพ 85 องศา (24 mm), โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, เทคโนโลยี AI Beautification 2.0 ที่สามารถปรับโครงหน้าได้อย่างอิสระ, โหมด Portrait พร้อม AI Color Portrait ในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยมีพื้นหลังสีขาว-ดำ ขณะที่ยังคงสีสันของตัวแบบไว้ และการถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ (Video Bokeh) ได้แบบ Real-time รวมถึงรองรับฟีเจอร์ Dual-view Video เหมือนกล้องหลัง, รองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 1080P FHD (30 fps) และระบบป้องกันการสั่นแบบ EIS สำหรับการถ่ายวิดีโอ - แบตเตอรี่ความจุ 4310 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ30W VOOC Flash Charge 4.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0-100% ได้ภายในเวลา56 นาที - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 2.4/5GHz, 4G LTE, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับการสแตนด์บายแบบ Dual 4G LTE - รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านทาง Bluetooth 5.1 - รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) พร้อมถาดใส่ซิมการ์ดแบบTriple-Slot - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, BeiDou, Glonass, Galileo และ QZSS - พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C (USB 2.0) พร้อมรองรับการใช้งาน OTG - พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร - ฟังก์ชัน App Lock, Hide Apps และ Private Safe เพื่อความเป็นส่วนตัว รวมถึง Kid Space การจัดการแอปพลิเคชันสำหรับเด็ก - ฟังก์ชัน Full Screen Multitasking สำหรับเปิดแอปพลิเคชันอื่นๆ ขณะใช้งานในโหมดการแสดงผลเต็มหน้าจอ เช่น การเล่นเกม หรือการชมวิดีโอต่างๆ - ระบบเสียง Real HD Sound พร้อมระบบ Dirac 2.0 - ฟังก์ชัน Idle Time Optimizer, Storage Optimizer และ UI First 3.0 - การใช้งาน Dark Mode ในการเปลี่ยนพื้นหลังแอปพลิเคชันต่างๆ ให้เป็นสีดำ - โหมด Focus สำหรับช่วยตัดผู้ใช้ออกจากโลกภายนอก - ฟังก์ชัน Multi-User สามารถสลับการใช้งานจากผู้ใช้หลายคนได้ โดยข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคน และการรักษาความปลอดภัยต่างๆ จะถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง - ฟังก์ชัน Game Assistant ช่วยในเรื่องของภาพให้ออกมาสมจริง พร้อมเพิ่มอรรถรสเวลาเล่นเกม - ฟังก์ชัน Game Space ที่สามารถบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่างๆ  รวมถึงการล็อกระดับความสว่างของหน้าจอขณะเล่นเกมได้ - ฟังก์ชัน App Cloner สำหรับใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook ได้พร้อมกัน 2 แอคเคานท์ - ฟังก์ชัน Split Screen สำหรับใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าจอ - ฟีเจอร์ Multi-Screen Interaction สำหรับแชร์หน้าจอจากสมาร์ทโฟนไปแสดงผลที่หน้าจอทีวี หรือจอมอนิเตอร์อื่นๆ โดยไม่ต้องใช้สาย - แอปพลิเคชัน Soloop สำหรับการตัดต่อวิดีโอ - ราคา 9,499 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ OPPO A94

Leave a Comment