อัปเกรดใหม่ เอาใจคอเกม พร้อมแบตใหญ่ชาร์จไว เมมเยอะ และกล้อง AI ในราคาย่อมเยากว่าเดิม ด้วยจอ Halo FullView Display 6.51 นิ้ว, ชิปเกมมิ่ง Helio G80 ผสาน RAM 6GB+ROM 128GB, แบตเตอรี่พลังชาร์จ 18W จุใจ 5000 mAh, กล้อง AI Triple Camera และเซนเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้โค้งมนสวยสะดุดตา ในราคา 5,999 บาท
8 เมษายน 2021 - ช่วงนี้วงการสมาร์ทโฟนในบ้านเราเริ่มเข้าที่เข้าทาง และกลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลังเหมือนเดิม ทำให้มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปิดตัวออกมามากมายแบบไม่ให้พักหายใจ แบรนด์ใหญ่อย่าง Vivo เองก็ทยอยส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ลงตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็ได้แก่ Vivo Y20sG ที่เรานำมารีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้นั่นเองครับ
Vivo Y20sG คือสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ โดยเน้นความสามารถด้านความบันเทิง และการถ่ายรูป ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย มีสเปกโดยรวมคล้ายกับ Vivo Y20s ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ แต่มีการปรับปรุงดีไซน์เป็นฝาหลังผิวด้านสะท้อนแสง ช่วยให้หยิบจับได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกลัวรอยนิ้วมือ และมีการปรับคุณสมบัติบางส่วน โดยชิปเซ็ตเปลี่ยนมาเป็น MediaTek Helio G80 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเกมมิ่งระดับกลาง ช่วยให้การทำงานลื่นไหล และเหมาะสำหรับการเล่นเกมมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Multi-Turbo 3.0 มาช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานให้ราบรื่นยิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6 GB แล้ว จึงสามารถรับมือกับการใช้งานทั่วไปได้ทุกรูปแบบ และเล่นเกมส่วนใหญ่บน Play Store ได้สบาย ๆ ส่วนหน่วยความจำภายใน (ROM) นั้นมีมาให้กำลังดีที่ 128GB แต่หากไม่พอก็สามารถใส่การ์ด microSD เพิ่มได้อีกสูงสุดถึงขนาด 1TB
Vivo Y20sG มีหน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) โดยมีเทคโนโลยี In-Cell ที่ทำให้จอแสดงผลมีสีสันที่สดใส และคมชัดขึ้นอีกระดับ สามารถถ่ายทอดความสวยงามของคอนเทนต์ความบันเทิงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนแบตเตอรีก็ยังคงอึดทนเหมือนเดิม ด้วยความจุ 5,000 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จไวแบบ 18W Fast Charge ที่สามารถชาร์จได้ 70% ภายในเวลา 69 นาที ขณะเดียวกันยังมีเทคโนโลยี AI คอยจัดสรรการจ่ายพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานแบบ Real-Time และยังใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้ด้วยระบบการชาร์จแบบย้อนกลับ (Reverse Charging) ได้อีกด้วย
สำหรับการถ่ายรูป Vivo Y20sG มากับกล้องหลังสามตัว ( AI Triple Camera ) ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลัก ( Main ) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล , กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร โดยมาพร้อมโหมดใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Face Beauty สำหรับเพิ่มความสวยเนียนของใบหน้า, โหมด Portrait สำหรับถ่ายรูปแบบละลายหลัง พร้อมลูกเล่น Light Effects, ฟิลเตอร์รูปถ่ายหลากหลายสไตล์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล
จากคุณสมบัติที่กล่าวมา Vivo Y20sG ถือเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิงที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เราไปรับชม รีวิว Vivo Y20sG โดยทีมงาน Thaimobilecenter พร้อมกันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
Vivo Y20sG มาในดีไซน์หน้าจอรอยบากทรงหยดน้ำแบบ Halo FullView Display โดยเป็นหน้าจอแสดงผลประเภท IPS LCD อัตราส่วน 20:9 กว้าง 6.51 นิ้ว มีความละเอียดสูงสุดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) กับกล้องดิจิทัลด้านหน้าบนขอบบนของหน้าจอซึ่งมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8 โดยมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้จากโรงงาน
ฝาหลังของ Vivo Y20sG เป็นพลาสติกผิวด้านสะท้อนแสงแบบ 2.5D Dazzling Color ที่ดูเรียบง่ายแต่โดดเด่น สำหรับเครื่องที่เรานำมารีวิวในครั้งนี้เป็น สี ฟ้า Purist Blue ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากท้องทะเลลึก
สำหรับกล้องหลังของ Vivo Y20sG เป็นชุดกล้อง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย :
- กล้อง Main ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF - กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 - กล้อง Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร
ปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง โดยปุ่ม Power จะทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว ส่วนด้านซ้ายเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ด
ด้านล่างมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, ไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB, และช่องลำโพงเสียง ส่วนด้านบนไม่มีพอร์ต หรือปุ่มกดใด ๆ
ถาดใส่ซิมของ Vivo Y20sG เป็นแบบ Triple-Slot ที่สามารถใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม พร้อมกับการ์ดหน่วยความจำ microSD ได้พร้อม ๆ กัน โดยไม่ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง
สำหรับอุปกรณ์ในกล่อง ประกอบด้วยคู่มือการใช้งาน, เคสใส, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายเคเบิล Micro USB, และเข็มจิ้มซิม
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
Vivo Y20sG ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 11 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ครอบทับด้วย Funtouch OS 11 ซึ่งมีการปรับปรุงดีไซน์ของอินเทอร์เฟซให้ดูเรียบง่าย และเป็นระเบียบยิ่งขึ้นในสไตล์ Flat Art
เมื่อปัดนิ้วจากด้านบนลงมาจะเป็นการเปิด แผงแจ้งเตือน โดยมีทางลัดสำหรับการตั้งค่าที่ใช้บ่อย ๆ เช่น Wi-Fi, โหมดเงียบ, Bluetooth, หมุนจออัตโนมัติ, ปรับความสว่างหน้าจอ เป็นต้น และมีฟังก์ชั่นการบันทึกวิดีโอหน้าจอมาให้ด้วย ส่วนด้านล่างจะแสดงแถบแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่าง ๆ
หากปัดนิ้วลงมาอีกครั้งจะเป็นการขยายเมนูทางลัด เมื่อกดที่ไอคอนรูปปากกาและกระดาษที่มุมซ้ายล่าง จะเข้าสู่เมนู แก้ไข โดย เราสามารถเลือกไอคอนการตั้งค่าที่เราต้องการเข้ามาไว้ในแผงการแจ้งเตือนได้ตามใจชอบ
เมื่ออยู่ที่หน้าจอเริ่มต้น หากปัดนิ้วจากขอบจอด้านล่างขึ้นมาจะเป็นการเปิดหน้า ลิ้นชัก ซึ่งจะแสดงรายการแอปพลิเคชันทั้งหมดที่ติดตั้งไว้ในเครื่อง
สำหรับแอปพลิเคชันของ Google ที่ติดตั้งมาในเครื่องก็เป็นเวอร์ชั่นใหม่เช่นกัน และมีแอปพลิเคชันใหม่อย่าง YT Music และ Google One ด้วย
สำหรับฟังก์ชันสำคัญอย่างการโทร ยังคงมีหน้าอินเตอร์เฟซที่สะอาดเรียบง่าย และไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเวอร์ชันก่อนมากนัก
เมื่อกดค้างลงบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลัก จะมีเมนูสำหรับการปรับแต่งหน้าจอปรากฏขึ้น ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเกี่ยวกับหน้าจอเริ่มต้น, เปลี่ยนภาพพื้นหลัง และวิดเจ็ตได้
หากรู้สึกเบื่อกับหน้าจอเดิม ๆ เราสามารถเข้าไปยัง ธีม เพื่อดาวน์โหลดภาพพื้นหลัง, ธีม และรูปแบบอักษรใหม่ ๆ ได้ มีทั้งที่ดาวน์โหลดฟรี และแบบเสียเงิน โดยจะมีราคาแจ้งไว้ชัดเจนทุกรายการ
ในส่วนการตั้งค่าหน้าจอ ยังมี ธีมมืด ที่จะเปลี่ยนโทนสีของหน้าจอให้มืดลง ช่วยถนอมสายตาเมื่อใช้งานในเวลากลางคืน
หากรู้สึกว่าสีสันบนหน้าจอยังไม่ถูกใจ สามารถเข้ามาปรับอุณหภูมิสีได้ในหน้าการตั้งค่า เพื่อให้หน้าจอมีโทนอุ่น หรือเย็นขึ้นตามชอบ
หรือถ้ารู้สึกว่าตัวอักษรเล็กเกินไป ก็สามารถเข้ามาปรับขนาดได้เช่นกัน โดยปรับได้ถึง 4 ขนาด
และยังเลือกซื้อฟอนต์ใหม่ ๆ ในร้านค้าธีมมาใช้งานได้ด้วย โดยจะมีราคาอยู่ที่ 15-55 บาท
นอกจากการตั้งค่าหน้าจอทั่วไปแล้ว Vivo Y20sG ยังมีฟีเจอร์การรักษาหน้าจอ หรือ Screen Saver คล้ายกับฟังก์ชัน Always On Display ของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ โดยเลือกได้ว่าจะให้แสดงเป็นนาฬิกา หรือภาพสไลด์จาก Google Photos
ในด้านความปลอดภัย Vivo Y20sG รองรับทั้งการสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือ โดยตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ปุ่ม Power ทางขวาของตัวเครื่อง
Vivo Y20sG มีแอปพลิเคชัน iManager สำหรับปรับปรุงสมรรถนะของตัวเครื่องให้รวดเร็วอยู่เสมอ โดยสามารถล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น, สแกนไวรัส, ตรวจสอบการใช้ข้อมูลเน็ต, จัดการแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ เมื่อเปิดแอปขึ้นมา ตัวแอปจะตรวจสอบสถานะการทำงานของระบบทันที หากผลการประเมินต่ำกว่า 100 เราสามารถสั่งให้ระบบจัดการโดยอัตโนมัติได้ในปุ่มเดียว ซึ่งใช้เวลาจัดการเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ในเมนู ล้างพื้นที่ จะแสดงการใช้งานหน่วยความจำภายใน และตัวเลือกในการล้างข้อมูลที่ไม่จำเป็น เมื่อกดปุ่ม ล้างข้อมูล ทั้งหมด ระบบจะลบไฟล์ขยะทั้งหมดทันที การลบไฟล์เหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตัวเครื่องแต่อย่างใด
ในเมนู การตรวจสอบความปลอดภัย จะเป็นการสแกนหาช่องโหว่ในระบบ และมัลแวร์ต่าง ๆใช้เวลาสแกนไม่นาน
ในเมนู ปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ต จะแสดงปริมาณดาต้าอินเทอร์เน็ตที่เราใช้ไปทั้งหมด ทั้งแบบ LTE และ Wi-Fi พร้อมทั้งแสดงสถิติการใช้ปริมาณดาต้าของแต่ละแอปพลิเคชันด้วย
เมนู แอปและการแจ้งเตือน เป็นเมนูการจัดการเกี่ยวกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงแสดงสถิติการใช้งาน และระยะเวลาที่ใช้ไปในแต่ละวัน
นอกจากเมนูหลักข้างต้นแล้ว ยังมีเมนูอื่น ๆ ใน เครื่องมือยูทิลิ ตี้ ให้ใช้งานด้วย ซึ่ง เมนูการตั้งค่าของ Ultra Game Mode จะอยู่ในส่วนนี้
Ultra Game Mode คือฟีเจอร์สนับสนุนการเล่นเกมของ Vivo ที่นอกจากจะปิดกั้นการแจ้งเตือน และการโทรระหว่างเล่นได้แล้ว ยังตั้งค่าการสั่น และคุณภาพเสียงเอฟเฟ็กต์ในเกมได้ด้วย
โหมด E-Sport จะเป็นโหมดที่ Vivo ใช้ในการแข่งขัน E-Sport เกม RoV โดยจะปิดกั้นการแจ้งเตือน, ปิดเกสเจอร์ท่าทาง และล็อคความสว่างหน้าจอ เพื่อให้การเล่นเกมถูกรบกวนน้อยที่สุด
แอปพลิเคชันแกลเลอรีของ Vivo Y20sG นอกจากจะใช้ดูรูปภาพแล้ว ยังมีลูกเล่นแต่งภาพให้ใช้งานเยอะมาก โดยทำได้แทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคร็อปตัด, หมุน, ใส่ฟิลเตอร์, ปรับความเบลอ, ใส่เอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ เป็นต้น
ฟังก์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ยางลบวัตถุ ที่ช่วยให้เราลบวัตถุออกจากภาพได้อย่างง่ายดาย
ด้านความบันเทิง Vivo Y20sG มีแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงติดตั้งมาให้แล้ว ซึ่งก็มีอินเทอร์เฟซการใช้งานที่เข้าใจได้ไม่ยาก และมีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าการสับเปลี่ยนเพลง, วนซ้ำ, ดูเพลย์ลิสต์, ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ยังมีเอฟเฟกต์เสียง DeepField ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับเสียงเพลง, เพิ่มเบส และปรับ Equalizer ได้
สำหรับการเล่นไฟล์วิดีโอก็มีเครื่องเล่นของตัวเองติดตั้งมาให้แล้วเช่นกัน โดยมีปุ่มลัดในการล็อกการสัมผัสหน้าจอ (รูปแม่กุญแจทางซ้าย), ภ่ายสกรีนช็อต (ปุ่มสี่เหลี่ยมทางขวา), เปิดหน้าตางลอย (ไอคอนสี่เหลี่ยมมุมซ้ายล่าง) และ แผงควบคุมทั่วไป ส่วนการตั้งค่าอื่น ๆ จะอยู่ที่ไอคอนไข่ปลา 3 จุดมุมขวาบน
ในเมนูการตั้งค่าเพิ่มเติม จะมีให้ปรับความสว่างของจอ, ปรับสัดส่วนภาพ, ปรับความเร็วในการเล่น และเปิด/ปิดซับไตเติ้ล (เฉพาะวิดีโอที่มีซับไตเติ้ลมาให้)
สำหรับการเล่นเกม Vivo Y20sG มี Ultra Game Mode ช่วยเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องขณะเล่นเกม และปิดกั้นการแจ้งเตือนต่าง ๆ สามารถตั้งค่าแยกแต่ละเกมได้อย่างละเอียด และเพิ่มแอปพลิเคชันที่ไม่ใช่เกมเข้ามาใน Ultra Game Mode เพื่อใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ได้ด้วย
ขณะเล่นเกม เราสามารถเรียกเมนูลัดออกมาได้ด้วยการลากนิ้วจากขอบจอด้านซ้ายไปทางขวา เพื่อตั้งค่าการปิดกั้นระหว่างเล่นเกมได้อย่างรวดเร็ว
ในการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ Vivo Y20sG ทางทีมงานได้เลือกทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ LoL : Wild Rift, PUBG Mobile และ Cookie Run: Kingdom โดยตั้งค่ากราฟิกของตัวเกมไว้ดังนี้ :
การตั้งค่าเกม LoL : Wild Rift
การตั้งค่าเกม PUBG Mobile
การตั้งค่าเกม Cookie Run: Kingdom
หลังจากที่ทางทีม งานได้ลองเล่นทั้ง 3 เกมอย่างต่อเนื่องราว 3 ชั่วโมง พบว่า Vivo Y20sG มีสมรรถนะสูงทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลางล่าง โดยสามารถเล่นเกม LoL : Wild Rift แบบเฟรมเรตสูงได้อย่างราบรื่น รักษาเฟรมเรตได้นิ่งตลอดเกม ไม่มีอาการกระตุกแม้ในจังหวะตะลุมบอนที่มีการโหลดเอฟเฟกต์จำนวนมาก ส่วนเกม PUBG Mobile ก็ยังเล่นได้อย่างน่าพอใจบนกราฟิกระดับกลาง โดยมีเฟรมเรตอยู่ที่ประมาณ 30 ไม่มีการกระตุกเวลาหันซ้าย-ขวาเร็ว ๆ และตอบสนองต่อการควบคุมได้ดีไม่มีหลอน และสำหรับเกม Cookie Run: Kingdom ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ ทั้งในฉากต่อสู้ และฉากเมืองที่มีการโหลดวัตถุจำนวนมาก แต่ไม่สามารถทำเฟรมเรตถึง 60 fps ได้ จากการประเมินด้วยสายตา น่าจะอยู่ที่ 40-45 fps ส่วนเรื่องความร้อนขณะเล่นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยรวมแล้วนับว่า Vivo Y20sG เป็นสมาร์ทโฟนที่เล่นเกมได้ดี ตามมาตรฐานของสมาร์ทโฟนระดับกลางครับ
Vivo Y20sG ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G80 แบบ 8-แกน (Octa-Core) ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G52 , หน่วยความจำแรม RAM ขนาด 6 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB
Vivo Y20sG วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน GeekBench 5 ในส่วน Single-Core ได้ 304 คะแนน และ Multi-Core 1291 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน 3DMark ในชุดทดสอบ Wild Life ได้ 686 คะแนน
สำหรับเซ็นเซอร์ในเครื่อง Vivo Y20sG นั้นประกอบด้วย Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันสูงสุด 10 จุด
ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 22 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 3 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
ในโหมด ภาพถ่าย (โหมดอัตโนมัติ) จะมีเมนูให้เปิดใช้มุมมอง ซูเปอร์มาโคร เพื่อถ่ายภาพระยะประชิด และเปิดเอฟเฟ็กต์ โบเก้ เพื่อถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งโหมดโบเก้จะทำให้เราถ่ายรูปแบบหน้าชัดหลังเบลอได้กับตัวแบบทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องเป็นคน และเรายังปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ด้วย
โหมด ภาพคน สำหรับถ่ายรูป Portrait แบบหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับบิวตี้ได้ 100 ระดับ ซึ่งปรับได้อย่างละเอียดตั้งแต่สีผิวไปจนถึงรูปทรงของจุดต่าง ๆ บนใบหน้า
ในโหมด โปร เราสามารถตั้งค่ากล้องได้ด้วยตนเอง ได้แก่ค่า ISO (สูงสุด 3200), Shutter Speed (1/12000-32s), ชดเชยแสงได้สูงสุด ±3 และ White Balance เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการถ่ายรูปอยู่แล้ว
กล้องหน้าของ Vivo Y20sG มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีขนาดรูรับแสง f/1.8 สามารถใช้โหมดภาพถ่าย (อัตโนมัติ) และภาพคน (โบเก้) ได้ แต่ใช้โหมด Super Night ไม่ได้ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับการเซลฟี่คือ ท่าทาง ที่จะช่วยแนะนำการโพสท่าให้เราได้หลากหลายรูปแบบ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 13+2+2 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
สรุปผลการทดสอบของ Vivo Y20sG
จากที่มีโอกาสได้ใช้งาน Vivo Y20sG มาได้ระยะหนึ่งก็พบว่า จุดเด่นอย่างแรกของ Vivo Y20sG ที่ทีมงานสัมผัสได้คือดีไซน์ภายนอก ที่ได้รับการออกแบบให้มีขนาด และน้ำหนักพอดีมือ ส่วนของฝาหลัง และเฟรมรอบตัวเครื่องมีการใช้ผิวสัมผัสแบบด้าน ช่วยให้จับติดมือยิ่งขึ้น และป้องกันรอยนิ้วมือได้ในระดับหนึ่ง ทำให้สามารถหยิบจับขึ้นมาใช้งานได้อย่างมั่นใจโดยไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดคราบสกปรก หรือลื่นหลุดมือ
ในเชิงประสิทธิภาพ Vivo Y20sG ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G80 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตตระกูลเกมมิ่งระดับกลาง พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB จึงมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะรับมือกับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการท่องอินเทอร์เน็ต, เล่นโซเชียล, ดูหนัง หรือฟังเพลง หน้าจอแสดงผลมีการตอบสนองต่อการทัชที่แม่นยำ ฉับไว ไม่มีอาการหน่วง หรือค้างให้หงุดหงิด และแน่นอนว่าการเล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างดี โดยสามารถเล่นเกมระดับกลาง ๆ ได้อย่างราบรื่น และมีค่าเฟรมเรตที่น่าพอใจ อีกทั้งยังตอบสนองต่อการควบคุมได้ดี ไม่มีอาการทัชเพี้ยน และที่สำคัญเครื่องยังไม่ร้อนอีกด้วย โดยรวมถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่เล่นเกมได้ดีอีกรุ่นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หน้าจอของ Vivo Y20sG มีความสว่างค่อนข้างน้อย จึงสู้แสงได้ไม่ดีนักเมื่อใช้งานกลางแจ้ง
สำหรับการถ่ายรูป Vivo Y20sG มีชุดกล้องที่เหมาะกับการถ่ายรูปทั่ว ๆ ไป โดยเป็นชุดกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เสริมด้วยกล้อง Bokeh และ Super Macro แต่กลับถ่ายรูปออกมาได้ดีเกินความคาดหมาย และดีพอ ๆ กับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่มีกล้องหลังความละเอียดสูง ๆ เลยทีเดียว ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์ Selfie Filters ที่ช่วยให้การเซลฟี่ดูดีมีความน่าสนใจมากขึ้น
ซอฟต์แวร์ของ Vivo Y20sG สามารถเปิดใช้เอฟเฟกต์โบเก้ได้ทั้งในโหมดถ่ายภาพธรรมดา และโหมดบุคคล (Portrait) โดยเอฟเฟกต์โบเก้จะพึ่งพาความสามารถจากซอฟต์แวร์เป็นหลัก และยังมีความผิดพลาดให้เห็นบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่วางใจได้ ส่วนเอฟเฟกต์บิวตี้มีให้ปรับอย่างละเอียด ตั้งแต่ความเรียบเนียนของผิว ไปจนถึงสัดส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า อีกทั้งยังมีลูกเล่นเอฟเฟกต์แสงสำหรับภาพถ่ายบุคคล และฟิลเตอร์ให้ใช้ จึงน่าจะถูกใจคนที่ชอบถ่ายรูปแนว Portrait และเซลฟี่ อย่างไรก็ดี Vivo Y20sG ยังมีฟีเจอร์การถ่ายภาพค่อนข้างน้อย ที่สำคัญคือไม่มีโหมดมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide) และไม่มีโหมดกลางคืน ทำให้มีทางเลือกในการถ่ายรูปไม่มากนัก
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น ก็พอจะสรุปได้ว่า Vivo Y20sG นั้นเป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่เกิน 6,000 บาทที่มีดีไซน์สวย ถ่ายรูปได้ดี เล่นเกมได้สนุก และมอบประสบการณ์การใช้งานโดยรวมที่น่าพอใจ เหมาะสำหรับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัยที่ต้องการสมาร์ทโฟนดี ๆ ติดตัวสักเครื่องในราคาไม่แพงครับ
สำหรับผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของ Vivo Y20sG ขณะนี้ก็เริ่มมีวางจำหน่ายแล้วในราคา 5,999 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Obsidian Black และ สีฟ้า Purist Blue โดยวางจำหน่ายแบบ Exclusive ผ่านทาง BaNANA , Jaymart , TG FONE , CSC , IT City, Big C , Maxling, STAMP, Boonchai และแม่วังสื่อสาร ทุกสาขาทั่วประเทศ
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ Vivo ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง Vivo Y20sG มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ครับ
จุดเด่นของ Vivo Y20sG
- ตัวเครื่องเป็นผิวด้านสะท้อนแสงแบบ 2.5D Dazzling Colors มีความสวยงามโดดเด่น และไม่เป็นรอยนิ้วมือ - ตัวเครื่องขนาด 164.41x76.32x8.41 มิลลิเมตร พร้อมน้ำหนัก 192.3 กรัม - หน้าจอแสดงผลแบบ Halo FullView Display (IPS LCD) ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) พร้อมเทคโนโลยี In-Cell และอัตราส่วนการแสดงผลแบบ 20:9 - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G80 (Octa-Core) ความเร็ว 2.0 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G52 - หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 6 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 128 GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุดขนาด 1 TB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย Funtouch OS 11 - แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 18W Fast Charge (ชาร์จแบตเตอรี่ 70% ได้ภายในเวลา 69 นาที) และรองรับระบบ Reverse Charging (ผ่านสาย OTG)
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย
> กล้อง Main ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.2 และระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF > กล้อง Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 > กล้อง Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 และระยะโฟกัสใกล้สุด 4 เซนติเมตร
มีระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI, เอฟเฟกต์เบลอฉากหลัง, โหมด Super Macroสำหรับถ่ายภาพระยะใกล้, โหมดพาโนรามา, โหมดไลฟ์โฟโต้, โหมดโปร, รองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30fps), โหมด Slow Motion และโหมด Time-Lapse
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, Selfie Filters และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30fps)
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ด้านข้างตัวเครื่อง (Side Fingerprint : ปลดล็อกได้ภายในเวลา 0.17 วินาที) และรองรับการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Face Wake) - ฟีเจอร์ HyperEngine และ Multi-Turbo 3.0 (Center Turbo+AI Turbo) - ฟีเจอร์ Ultra Game Mode ช่วยบล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่าง ๆ พร้อมกับเร่งประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องขณะเล่นเกม - รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM) พร้อมถาดแบบ Triple Slot - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ Wi-Fi 2.4/5GHz, 4G/4G+, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 - รองรับระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS, BeiDou, GLONASS และ Galileo - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB (USB 2.0) - พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร - ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Obsidian Black และ Purist Blue - ราคา 5,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ Vivo Y20sG
- ไม่มีกล้อง Ultra Wide และไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน - พอร์ตเชื่อมต่อยังคงเป็นแบบ microUSB ไม่ใช่ USB Type-C - ฟีเจอร์ Reverse Charging ต้องซื้อสาย OTG แยกต่างหากจึงจะสามารถใช้งานได้ - จอแสดงผลสู้แสงได้ไม่ดีนัก โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในที่กลางแจ้ง
