สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัด แต่จัดหนักกล้อง 48MP บวกแบตยักษ์ 6000 mAh และชิปเกมมิ่ง ด้วยจอ Mini-drop Fullscreen ใหญ่ 6.5 นิ้ว, ชิปเซ็ต Helio G70, กล้อง AI Triple Camera 48MP ผสานกล้องหน้า AI In-Display, แบตเตอรี่ชาร์จไว 18W ไซส์ยักษ์ 6000 mAh และเซนเซอร์สแกนนิ้ว บนบอดี้ Geometric Art ดูดีมีเอกลักษณ์ ในราคา 5,499 บาท
31 มีนาคม 2021 - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา realme ประเทศไทยได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นใหม่พร้อมกันทีเดียว 2 รุ่น ได้แก่ realme C21 และ realme C25 โดยยังคงเน้นจุดเด่นเรื่องความอึดของแบตเตอรี่ และฟีเจอร์ครบครันในราคาย่อมเยาเช่นเดิม ซึ่งล่าสุดเราก็ได้ทำการ รีวิว realme C21 ให้ได้ชมกันไปแล้ว และในวันนี้เราก็จะนำเอา realme C25 มารีวิวให้ชมกันต่อครับ
realme C25 เป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีจุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6,000 mAh พร้อมพลังชาร์จเร็วระัดบ 18W และคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้แบบรอบด้าน บนตัวเครื่องที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในดีไซน์ Geometric Art อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยผิวสัมผัสด้านที่จับกระชับมือทุกท่วงท่าการใช้งาน
realme C25 มีหน้าจอแสดงผลแบบ Mini-drop Fullscreen ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ที่ถ่ายทอดความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มตาไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นเกม หรือเล่นโซเชียล ภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G70 ความเร็ว 2.0 GHz ซึ่งเป็นชิปเซ็ตในซีรีส์เกมมิ่ง ทำให้มีพลังการประมวลผลโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ พร้อมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 64GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมด้วยการ์ด microSD ได้อีกสูงสุด 256GB บนถาดแบบ Triple Slot
นอกจากแบตเตอรี่แล้ว การถ่ายภาพก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ realme C25 เช่นกัน โดยมากับกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้อง Macro และกล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ซึ่งมีโหมดการถ่ายรูปสำคัญ ๆ ครบถ้วน รวมไปถึงโหมดกลางคืน และโหมดโปร สามารถถ่ายรูปแบบเต็มความละเอียดที่ 48 ล้านพิกเซลได้ ขณะเดียวกัน กล้องหน้าที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็มีฟังก์ชันสำหรับการเซลฟี่ครบครันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์บิวตี้, ฟิลเตอร์ และอื่น ๆ
มาถึงตรงนี้ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปรู้จักกับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ให้มากขึ้นใน รีวิว realme C25 โดยทีมงาน Thaimobilecenter กันได้เลยครับ
รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์
realme C25 มีน้ำหนักมากพอสมควร โดยมีหน้าจอแสดงผลประเภทแบบ Mini-drop Fullscreen (IPS LCD) กว้าง 6.5 นิ้ว มีความละเอียดสูงสุดระดับ HD+ (1600 x 720 พิกเซล) พื้นที่แสดงผลครอบคลุมพื้นที่ 88.7% ของตัวเครื่องด้านหน้า และมีการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้จากโรงงาน ด้านบนของหน้าจอติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/2.0
บอดี้ด้านหลังของ realme C25 มีผิวสัมผัสด้าน ซึ่งผ่านกระบวนการแกะสลักด้วยเครื่องแกะสลักเรเดียมความแม่นยำสูงจากเยอรมันนาน 300 นาที และยังมีการสลักเส้นริ้วมากกว่า 450 เส้นเพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงสะท้อน และช่วยให้จับกระชับมือ อีกทั้งยังป้องกันรอยนิ้วมืออีกด้วย สำหรับเครื่องที่เรานำมารีวิวในครัั้งนี้เป็น สีเทา Water Grey
กล้องหลังของ realme C25 เป็นชุดกล้อง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย :
- กล้องหลัก ( Main ) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ - กล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 - กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
realme C25 มีตัวเครื่องที่ค่อนข้างหนา โดยปุ่ม Power กับปุ่มปรับระดับเสียงจะอยู่ที่ด้านขวา ส่วนด้านซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ด
realme C25 ใช้พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และโอนถ่ายข้อมูล โดยตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ขนาด 6,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W พร้อมด้วยไมโครโฟนตัวหลัก, ลำโพง และช่องหูฟัง 3.5 มม. ส่วนด้านบนไม่มีโมดูลใด ๆ
ถาดใส่ซิมของ realme C25 เป็นแบบ Triple Slot ที่ใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM ได้ 2 ใบ พร้อมกับการ์ด microSD ได้พร้อมกัน
สำหรับอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องได้แก่ เคสซิลิโคนใส, เข็มถอดถาดซิมการ์ด, อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สาย USB Type-C, และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
เปิดเครื่อง พร้อมทดสอบการใช้งานด้านซอฟต์แวร์
หากกดค้างลงบนพื้นที่ว่างบนหน้าจอหลัก จะเข้าสู่การปรับแต่งหน้าจอ ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, วิดเจ็ต, แอนิเมชันการเปลี่ยนหน้า และเปลี่ยนดีไซน์ไอคอนของแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้
เมนู ล้างเนื้อที่เก็บข้อมูล เป็นเมนูสำหรับกำจัดไฟล์ขยะที่ตกค้างอยู่ในเครื่องเพื่อคืนพื้นที่ว่างให้ หน่วยความจำ โดยระบบจะสแกนหาไฟล์ขยะในเครื่องให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะลบ หรือไม่ลบไฟล์เหล่านั้นก็ได้
เมนู สแกนไวรัส จะเป็นการสแกนไฟล์ในเครื่องทั้งหมดเพื่อหามัลแวร์ หรือไฟล์อันตรายต่าง ๆ และจะลบทิ้งโดยอัตโนมัติหากตรวจพบ การสแกนใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น
เมนู การวินิจฉัย เป็นฟังก์ชันการตรวจหาความผิดปกติของฮาร์ดแวร์ โดยจะมีคำแนะนำให้ผู้ใช้ทำตามเพื่อตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์แต่ละส่วนไปทีละขั้น ตอน ช่วยให้เราตรวจสอบได้เองในเบื้องต้นว่าเครื่องเสียตรงไหน และบอกข้อมูลให้กับช่างเมื่อส่งซ่อมได้
เมนู การปกป้องการชำระเงิน เป็นการตรวจสอบสถานะความปลอดภัยของตัวเครื่อง ตั้งแต่สถานะการรูทเครื่อง ไปจนถึงการตรวจสอบแพทช์รักษาความปลอดภัย และการตั้งค่าปลีกย่อยอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าสมาร์ทโฟนไม่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย และพร้อมที่จะทำธุรกรรมการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตได้
ส่วนเมนู การจัดการแอป เป็นเมนูสำหรับจัดการสิทธิ์การเข้าถึง และรายละเอียดอื่น ๆ ของแอปพลิเคชันที่มีอยู่ในเครื่อง
สำหรับการฟังเพลง realme C25 มีแอปพลิเคชันพื้นฐานติดตั้งมาให้อยู่แล้ว โดยมีดีไซน์ที่สะอาดตา ไม่ซับซ้อน
สำหรับแอปพลิเคชันการเล่นวิดีโอของ realme C25 มีปุ่มควบคุมการทำงานพื้นฐานครบครัน แต่ก็มีลูกเล่นไม่มากนัก
หากวิดีโอที่เล่นมีอัตราส่วนไม่พอดีกับหน้าจอ จะเหลือแถบสีดำด้านข้างหรือด้านบนเอาไว้ หากต้องการดูแบบเต็มจอให้กดที่ ไอคอนสี่เหลี่ยม ตรงมุมขวาบน ระบบจะขยายภาพให้เต็มโดยจะมีบางส่วนล้นออกไป ดังรูปตัวอย่าง
สำหรับไอคอนรูปหูฟังที่อยู่ข้าง ๆ จะทำให้วิดีโอ เล่นเฉพาะเสียงเท่านั้น ส่วนไอคอนรูปแม่กุญแจ จะเป็นการ ล็อก หน้าจอ เพื่อป้องกันไม่ให้เผลอไปกดโดนปุ่มต่าง ๆ ระหว่างดูวิดีโอ
ในส่วนของการเล่นเกม realme C25 มีฟีเจอร์ Game Space สำหรับเร่งประสิทธิภาพการประมวลผล และปิดกั้นการแจ้งเตือนต่าง ๆ ไม่ให้มาขัดจังหวะการเล่น แถบเมนูด้านล่างสามารถปัดขึ้นเพื่อดูการตั้งค่าเพิ่มเติมได้ โดยจะแสดงพลังการประมวลผลของ CPU / GPU, แบตเตอรี่คงเหลือ และความแรงของสัญญาณเครือข่าย สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานได้ 3 โหมด ได้แก่ :
- โหมดแข่งขัน : เร่งระดับความเร็วสูง สุด ทำให้ภาพในเกมสวยขึ้น ลื่นขึ้น แต่จะเปลืองแบตเตอรี่มากตามไปด้วย - โหมดกำลังไฟฟ้าต่ำ : ลดความเร็วลงเพื่อเน้นการประหยัด แบตเตอรี่ - โหมดสมดุล : เป็นโหมดที่สมดุล ระหว่างความเร็วและการประหยัดพลังงาน
เมื่ออยู่ในเกม เราสามารถปัดหน้าจอลงมาเพื่อเรียกใช้เมนูลัดได้ ซึ่งมีเมนูลัดตั้งค่าการปิดกั้นแจ้งเตือน, จับภาพสกรีนช็อต และบันทึกวิดีโอหน้าจอ ช่วยให้เราใช้ฟังก์ชันเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา และไม่เสียจังหวะการเล่น
และมีฟังก์ชัน การเล่นอัตโนมัติ ที่จะปล่อยให้เกมเล่นไปเรื่อย ๆ โดยลดการทำงานของหน้าจอ และการประมวลผลลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ เหมาะสำหรับเกมที่ต้องปล่อย Auto เพื่อฟาร์มของ
ในการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมของ realme C25 ทางทีมงานได้เลือกทดสอบด้วยเกม 3 เกม ได้แก่ PUBG Mobile, League of Legends: Wild Rift และ Fairy Tail: Forces Unite! โดยตั้งค่ากราฟิกของตัวเกมไว้ดังนี้ :
การตั้งค่าของเกม PUBG Mobile
การตั้งค่าของเกม League of Legends: Wild Rift
(เกม Fairy Tail: Forces Unite! ไม่มีเมนูสำหรับตั้งค่ากราฟิก)
realme C25 ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G70 ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุดที่ 2.0 GHzพร้อมหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G52 ,หน่วยความจำแรม (RAM) ขนาด 4 GB และหน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB ซึ่งจากการทดสอบในเบื้องต้น realme C25 สามารถเล่นทั้ง 3 เกมข้างต้นได้สบาย ๆ โดยสามารถเปิด โหมดเฟรมเรตสูงในเกม League of Legends: Wild Rift ได้ และรักษาเฟรมเรตให้นิ่งได้เกือบตลอดเกม มีเพียงบางจังหวะที่เฟรมเรตตกลงอย่างฉับพลัน ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 2-3 วินาที แต่โดยรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเล่นมากนัก สำหรับเกมที่ต้องการสเปกสูงขึ้นมาหน่อยอย่าง PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้เพลิน ๆ ที่กราฟิกระดับ HD โดยที่ตัวเกมมีการตอบสนองต่อการควบคุมที่ฉับไว ไม่มีหลอน หรือกระตุกให้เสียอารมณ์ ส่วนเกม Fairy Tail: Forces Unite! ก็เล่นได้ราบรื่น ไม่มีปัญหาใด ๆ แม้จะอยู่ในฉากเมืองที่มีผู้เล่นจำนวนมาก หรือในฉากต่อสู้ที่มีการปล่อยเอฟเฟกต์พลังเข้าใส่กัน ที่สำคัญคือตัวเครื่องไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลย เมื่อรวมกับแบตเตอรี่ขนาด 6000 mAh แล้ว สามารถเล่นได้ยาว ๆแบบลืมชาร์จกันเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว เหมาะ สำหรับการเล่นเกมทั่ว ๆ ไป และเหมาะกับการเปิดการเล่นอัตโนมัติทิ้งไว้นาน ๆ ครับ
realme C25 วัดค่า benchmark จากแอปพลิเคชัน PCMark ด้วยชุดทดสอบ Work 2.0 Performace ได้ 8466 คะแนน และจากแอปพลิเคชัน Geekbench 5 ได้ 382 คะแนนสำหรับการประมวลผลแกนเดี่ยว (Single-Core) และ 1300 คะแนนสำหรับการประมวลผลหลายแกน (Multi-Core)
realme C25 มีเซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor, Light Sensor, Orientation Sensor, Proximity Sensor, Gyroscope Sensor, Sound Sensor และ Magnetic Sensor ส่วนหน้าจอแสดงผลรองรับการสัมผัสได้พร้อมกันได้ 10 จุด
ระบบ GPS สามารถจับสัญญาณดาวเทียมในที่กลางแจ้งได้ดี โดยจากภาพตัวอย่างจะเห็นว่าจับสัญญาณดาวเทียมได้ทั้งหมด 33 ดวง และมีความแม่นยำในระดับบวกลบ 1 เมตร แต่อย่างไรก็ดีคุณภาพของสัญญาณดาวเทียม GPS ขึ้นอยู่กับพื้นที่และสภาพอากาศด้วย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และช่วงเวลา
การใช้งานกล้องสำหรับถ่ายภาพ และวิดีโอ
ส่วนการถ่ายด้วย โหมดรูปคน (Portrait) จะมีการเปิดเอ ฟเฟกต์ละลายหลัง (โบเก้) ซึ่งปรับระดับความเบลอได้ตามต้องการ แต่เปิดใช้เอฟเฟกต์บิวตี้ไม่ได้
หากต้องการถ่ายรูปเต็มความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จะต้องใช้โหมด 48MP แต่ในโหมดนี้จะไม่สามารถซูม หรือใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ ได้
สำหรับการถ่ายระยะประชิดแบบ Macro สามารถทำได้ด้วยโหมด มาโคร พิเศษ ซึ่งอยู่ในหน้าเมนูเพิ่มเติม เหมาะสำหรับถ่ายเจาะรายละเอียดเล็ก ๆ เช่นดอกไม้ หรือแมลง
ในโหมด ผู้เชี่ยวชาญ เราสามารถตั้งค่ากล้องได้ด้วยตน เอง ได้แก่ค่า ISO (สูงสุด 1600), Shutter Speed (1/8000-16s), ชดเชยแสงได้สูงสุด ±2 และ White Balance (2000K-9000K) เหมาะสำหรับผู้ที่มีทักษะการถ่ายรูปอยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี โหมดกลางคืน สำหรับ ถ่ายรูปในที่แสงน้อย และแสงไฟยามค่ำคืน โดยจะช่วยรูปสว่างขึ้น และมีรายละเอียดชัดขึ้น โดยเราจะต้องถือสมาร์ทโฟนไว้นิ่ง ๆ ประมาณ 2-4 วินาที แล้วแต่สภาพแสง ซึ่ง AI จะคำนวณให้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังใส่ฟิลเตอร์เพื่อเพิ่มอารมณ์ให้กับรูปถ่ายได้ด้วย
สำหรับกล้องหน้าของ realme C25 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f 2.0 มีฟีเจอร์ AI Beauty ที่ตั้งค่าได้อย่าง ละเอียดไม่ว่าจะเป็นความสว่างของสีผิว, ความเรียบเนียน, ทรงหน้า เป็นต้น ต่างจากบิวตี้กล้องหลังที่เป็นแบบ AI ซึ่งปรับได้แค่ระดับความเข้มเท่านั้น
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ความละเอียด 48+2+2 ล้านพิกเซล
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (AI In-Display Selfie Camera)
สรุปผลการทดสอบของ realme C25
จากที่มีโอกาสได้นำเอา realme C25 เครื่องนี้ไปทดสอบใช้งานมาระยะหนึ่ง ก็พอจะสรุปได้ว่า realme C25 นั้นเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีคุณสมบัติกำลังดี พร้อมสำหรับการใช้งานทุกประเภทในชีวิตประจำวัน ตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อการใช้งาน และจับถือได้อย่างถนัดมือด้วยฝาหลังที่มีการขัดผิวด้าน และสลักเส้นริ้วเล็ก ๆ เอาไว้ อีกทั้งยังป้องกันคราบรอยนิ้วมือ และรอยขีดข่วยเล็ก ๆ ได้อีกด้วย จึงพกพา และหยิบขึ้นมาใช้งานได้อย่างมั่นใจเต็มที่
ในเชิงประสิทธิภาพ realme C25 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G70 ซึ่งเป็นชิปเกมมิ่งระดับเริ่มต้น ผสานกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB จึงสามารถตอบสนองต่อการทำงานได้ทั้งการใช้งานทั่วไป และความบันเทิงโดยไม่ติดขัด แม้กระทั่งการเล่นเกมก็ยังสามารถทำได้ แม้จะมีพลังการประมวลผลกราฟิกไม่สูงนัก แต่ก็ได้เปรียบในเรื่องของแบตเตอรี่ที่มีความจุมากถึง 6,000 mAh ทำให้เล่นได้อย่างต่อเนื่องยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเกมอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะเกมที่มีระบบ Auto หรือระบบเล่นอัตโนมัติ เพราะสามารถปล่อยทิ้งไว้ได้นาน อีกทั้งฟีเจอร์ Game Space ในเครื่องยังช่วยให้ผู้เล่นปิดหน้าจอระหว่างปล่อย Auto อีกด้วย ยิ่งช่วยให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น และเล่นได้นานขึ้นอีก นอกจากนี้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ยังเหมาะแก่การดูหนังอีกด้วย
ด้านการถ่ายภาพ realme C25 มีชุด กล้องหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล , กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล โดยส่วนของกล้องหลักนั้นมีความละเอียดสูงกว่ามือถือหลาย ๆ รุ่นในระดับราคาใกล้เคียงกัน จึงสามารถถ่ายทอดความสวยงามของภาพออกมาได้ค่อนข้างดี โดยมี AI ช่วยวิเคราะห์ภาพถ่าย และฟีเจอร์สีสันสดใสที่ช่วยเร่งสีในภาพให้สด และสว่างขึ้น ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น อีกทั้งยังมีโหมดกลางคืน และโหมดโปรให้เลือกใช้ เรียกได้ว่าแม้จะมีโหมดให้เลือกใช้ไม่มาก แต่มีโหมดสำคัญ ๆ ครบ ส่วนกล้องหน้าก็มีฟีเจอร์สำหรับเซลฟี่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นบิวตี้ระดับสูงที่ปรับค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ไปจนถึงการเบลอฉากหลัง และฟิลเตอร์ต่าง ๆ
อย่างไรก็ดี กล้องของ realme C25 ยังมีจุดที่ต้องพิจารณาอยู่บ้าง ได้แก่ความแม่นยำในการวัดแสง และสมดุลแสงขาว (White Balcnce) ที่อาจไม่ค่อยแม่นยำในบางสถานการณ์ รวมทั้งโหมดรูปคน (Portrait) ที่ไม่สามารถเปิดบิวตี้ได้ และโหมดกลางคืนที่ยังมี Noise ให้เห็นอยู่
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด realme C25 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางในช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาท ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความอีดของแบตเตอรี่ กล้องถ่ายภาพที่ดี กับการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่อยู่กับเราได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จ ในราคาที่ไม่แพงครับ
โดย realme C25 จะเริ่มเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า (Pre-Order) ในวันที่ 4-5 เมษายน 2564 และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ที่ realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคา 5,499 บาท โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเทา Water Grey และ สีฟ้า Water Blue
พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษเริ่มเพียง 2,490 บาท เมื่อสั่งซื้อผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง AIS, TrueMove H และ dtac
สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ realme ประเทศไทย ที่ให้ความไว้วางใจส่งเครื่อง realme C25 มาให้ทางทีมงานได้รีวิวกันในโอกาสนี้ครับ
จุดเด่นของ realme C25
- ดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Geometric Art ด้วยผิวสัมผัสแบบด้านอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งไม่เกิดรอยนิ้วมือ และมีความโค้งมนจับกระชับมือ - หน้าจอแสดงผล Mini-drop Fullscreen (IPS LCD) ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1600x720 พิกเซล) พร้อมพื้นที่แสดงผล 88.7%, อัตราส่วนแบบ 20:9 และค่าความสว่างสูงสุด 480 nits - ชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Helio G70 ความเร็ว 2.0 GHz - หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) Mali-G52 MC2 - หน่วยความจำแรม (RAM) แบบ LPDDR4X ขนาด 4 GB - หน่วยความจำภายใน (ROM) ขนาด 64 GB - รองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมแบบ microSD ได้สูงสุดที่ขนาด 256GB - ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 11 พร้อมครอบทับด้วย realme UI 2.0
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 3 ตัว (AI Triple Camera) ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ( Main ) ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f1.8, ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF และโครงสร้างแบบ 6 ชิ้นเลนส์ - กล้อง B&W ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4 - กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f2.4
พร้อมระบบวิเคราะห์ภาพถ่ายด้วย AI, โหมด Super Nightscape, โหมด Ultra Macro, โหมด AI Beauty, โหมด Portrait, โหมด Filters, โหมด HDR, โหมด Panorama, โหมด Time-lapse, โหมด Slow Motion, โหมด Expert และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30fps)
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (AI In-Display Selfie Camera)
พร้อมรูรับแสงขนาด f2.0, โครงสร้างแบบ 5 ชิ้นเลนส์, โหมด AI Beauty, โหมด Filters, โหมด HDR, โหมด Panorama, โหมด Portrait, โหมด Time-lapse และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P (30fps)
- แบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh ซึ่งมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในตลาด และรองรับระบบชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงแบบ 18W Quick Charge - เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า - รองรับการใช้งานระบบซิมคู่ (Dual SIM) บนถาดแบบ Triple Slot - รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางระบบ 4G/4G+, 3G, EDGE และ GPRS - รองรับเทคโนโลยีเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4GHz/5GHz) และBluetooth 5.0 - รองรับการระบุตำแหน่งด้วยระบบดาวเทียม GPS+A-GPS, GLONASS และ Beidou - พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C - พอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร - ฟีเจอร์ Game Space บล็อกการแจ้งเตือน Pop-up ต่าง ๆพร้อมกับเร่งประสิทธิภาพการทำงานของตัวเครื่องขณะเล่นเกม - ตัวเครื่องมี 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีฟ้า Water Blue และ สีเทา Water Grey - ราคา 5,499 บาท ถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม
จุดที่อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมของ realme C25
- ไม่มีกล้องมุมกว้างพิเศษ (Ultra Wide) - เปิดเอฟเฟกต์บิวตี้ในโหมด Portrait ไม่ได้ - โหมดกลางคืนยังมี Noise อยู่บ้าง
