รีวิว realme Watch S Pro สมาร์ทวอทช์รุ่นท็อป ฟีเจอร์ขั้นโปร ดีไซน์หรูพรีเมียม ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท :: Thaimobilecenter.com

สมาร์ทวอทช์รุ่นท็อป ฟีเจอร์ขั้นโปร ดีไซน์หรูพรีเมียม ใช้งานเยี่ยม ในราคาไม่ถึง 5 พันบาท ด้วยจอ AMOLED ใหญ่ 1.39 นิ้ว, ชิปประมวลผลคู่, เทคโนโลยี Dual-Satellite GPS, แบตเตอรี่อึดนาน 14 วัน, วัดออกซิเจนในเลือด+วัดหัวใจ 24 ชั่วโมง, ควบคุมอุปกรณ์ AIoT ได้ และโหมดกีฬา-สุขภาพหลากหลาย บนตัวเรือนสแตนเลสสวยพรีเมียมที่กันน้ำได้ 50 เมตร ในราคา 4,999 บาท

10 กุมภาพันธ์ 2021 - realme ถือเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ตลาดสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ AIoT (Artificial Intelligence + Internet of Things) ซึ่งจะเห็นได้จากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังมีราคาที่จับต้องได้

และล่าสุดทาง realme ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่อย่าง realme Watch S Pro นาฬิกาอัจฉริยะ หรือสมาร์ทวอทช์ ออกมาเพิ่มเติม ภายใต้สโลแกน “มือโปรอย่างมีสไตล์” บนการดีไซน์แบบสปอร์ต กับความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ทุกๆ 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย เซนเซอร์ PPG อัปเกรดใหม่ ที่เพิ่มความรวดเร็ว และแม่นยำในการวัด อีกทั้งยังมี Sport Mode ที่รองรับกีฬามากถึง 15 ประเภท รวมถึงระบบ Dual-Satellite GPS ความแม่นยำสูง ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชันบันทึกเส้นทางได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการ ป้องกันน้ำที่ระดับ 5ATM โดยป้องกันแรงดันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร จึงสามารถใส่ลงไปว่ายน้ำได้แบบสบายๆ โดยรองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วย Bluetooth 5.0

realme Watch S Pro มีหน้าปัดทรงกลมระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 1.39 นิ้ว รองรับการแสดงผลด้วยสีสันที่สดใสสวยงามเป็นพิเศษด้วย เทคโนโลยี AMOLED ความละเอียดระดับ 454x454 พิกเซล : 326 ppi ครอบทับด้วยกระจกกันรอย 2.5D Corning Gorilla Glass ตัวเรือนผลิตจากโลหะ สแตนเลสสตีล SUS316L พร้อมเทคโนโลยีการเคลือบแบบ PVD+AF เพื่อให้เกิดเอฟเฟกต์ภาพระดับพรีเมียม สำหรับสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ โดยประมวลผลด้วยชิปเซ็ตแบบ Dual Processor ที่ช่วยประหยัดพลังงาน จึงใช้งานได้ยาวนาน และมีแบตเตอรี่ขนาด 420 mAh ฝังภายในตัวเรือน ที่ สามารถ Standby ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย) พร้อมแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ที่สามารถชาร์จได้เต็ม 100% ภายใน 2 ชั่วโมง

สำหรับ realme Watch S Pro เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้วเพียง 4,999 บาท เรียกว่าเป็นราคาที่ใครก็จับต้องได้ไม่ยาก ซึ่งการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร ดีไซน์ตัวเครื่องจะสวยงามขนาดไหน และฟีเจอร์ที่มีอยู่จะตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเพียงใด ขอเชิญทุกท่านรับชมการ รีวิว realme Watch S Pro ไปพร้อมกันได้เลยค่ะ

รูปลักษณ์ภายนอกตัวเครื่อง และการออกแบบดีไซน์ของ realme Watch S Pro

realme Watch S Pro มาในกล่องแพ็กเกจสีเหลืองทรงยาวตามขนาดของตัวเรือน

โดยที่ด้านหลังมีการระบุถึงฟีเจอร์เด่นไว้อย่าง ชัดเจน

สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมาให้ภายในกล่องประกอบไป ด้วย ตัวนาฬิกา realme Watch S Pro, คู่มือการใช้งาน และแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก

ตัวเรือนของ realme Watch S Pro มาในดีไซน์แบบสปอร์ต รูปแบบทรงกลมมีหน้าปัดขนาด 1.39 นิ้ว เทคโนโลยี AMOLED รองรับการแสดงผลสี ความละเอียดระดับ 454x454 พิกเซล : 326 ppi ครอบทับด้วยกระจกกันรอย 2.5D Corning Gorilla Glass พร้อมรองรับระบบสัมผัส โดยใช้วัสดุแบบสแตนเลสสตีล SUS316L พร้อมเทคโนโลยีการเคลือบแบบ PVD+AF

ที่ด้านขวาตัวเครื่องมีปุ่มสำหรับสั่งการ จำนวน 2 ปุ่ม โดยปุ่มด้านบนจะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิด การทำงานของ realme Watch S Pro ส่วนปุ่มล่างจะเป็นการเข้าหน้าเมนูเลือกโหมดการออกกำลังกายต่างๆ

ที่ด้านหลังตัวเรือนมีเซ็นเซอร์ PPG อัปเกรดใหม่ เพิ่มความแม่นยำในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึงการวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ตลอดเวลาอีกด้วย

สำหรับ realme Watch S Pro ที่ทางทีมงานนำมารีวิวให้ได้ชมกันในวันนี้ มีสายซิลิโคนสีดำที่มีความนุ่ม และยืดหยุ่นสูง สามารถใส่เป็นระยะเวลานานได้โดยที่ไม่เกิดอาการระคายเคืองต่อผิว และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ตอบโจทย์การนำไปใช้ออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ realme Watch S Pro รองรับคุณสมบัติการป้องกันน้ำที่ระดับ 5ATM โดยป้องกันแรงดันน้ำได้ที่ระดับ 50 เมตร จึงสามารถใส่ลงไปว่ายน้ำได้แบบสบายๆ

realme Watch S Pro มาพร้อมแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ซึ่งสามารถยึดตัวเรือนให้เข้าตำแหน่งที่ถูกต้องได้ เรียกได้ว่าสะดวกสบายอยู่ไม่น้อย โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0-100% ได้ในเวลา 2 ชั่วโมง

เปิดเครื่องใช้งาน พร้อมทดสอบฟังก์ชัน และแอปพลิเคชันต่างๆ ของ realme Watch S Pro

realme Watch S Pro มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาเป็นจอระบบสัมผัส พร้อมการแสดงผลสีแบบ AMOLED คมชัดระดับ 454x454 พิกเซล : 326 ppi มีค่าความสว่างสูงสุดที่ 450nits (สามารถเลือกความสว่างได้ 5 ระดับ) และครอบทับหน้าปัดด้วยกระจก 2.5D Corning Gorilla Glass โดยมีปุ่มที่ด้านขวา 2 ปุ่ม แบ่งออกเป็น ปุ่มที่ด้านบนทำหน้าที่เป็นปุ่ม Power ในการเปิด-ปิดหน้าจอ หรือกดกลับ (Back) เพื่อกลับสู่หน้าก่อน

รองรับฟังก์ชัน Always-On Display ในการแสดงวันที่ และเวลา ขณะที่หน้าจอดับอยู่

สามารถเข้าสู่หน้า Quick Setting ได้เพียงปัดหน้าจอไปทางซ้าย ประกอบด้วย โหมดประหยัดพลังงาน, ค่าความสว่าง, ไฟฉาย, ปรับระดับความสว่างหน้าจอ (5 ระดับ), โหมด Do Not Disturb และฟังก์ชัน Raise to awake

และหากปัดหน้าจอขึ้นด้านบนจะพบกับหน้าเมนูรวม ทั้งหมดของ realme Watch S Pro ทั้งนาฬิกา, การตั้งค่า, เข็มทิศ, โหมด Sport, สภาพอากาศ กับอุณหภูมิตามตำแหน่งที่อยู่, การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, การฝึกหายใจ, นาฬิกาจับเวลา, การตั้งเวลา, Find My Phone, ควบคุมแอปพลิเคชันกล้อง และการบันทึกข้อมูลการออกกำลังกายต่างๆ

รองรับการวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้ตลอดเวลา โดยมีมีความแม่นยำค่อนข้างสูงเทียบเท่ากับเครื่องตรวจทางการแพทย์ ด้วยเซ็นเซอร์ PPG รุ่นอัปเกรด

โหมดฝึกการหายใจ และทำสมาธิ

ฟังก์ชัน Find My Phone บน realme Watch S Pro

สามารถดูการแจ้งเตือนเก่าได้เพียงปัดหน้าจอลง ด้านล่าง และสามารถกดลบการแจ้งเตือนทั้งหมดได้โดยง่าย เพียงกดที่รูปถังขยะด้านล่าง

และเมื่อปัดหน้าจอไปทางด้านขวา ก็จะพบกับเมนูต่างๆ ได้แก่ จำนวนก้าวเดิน พร้อมจำนวนแคลอรี่ทั้งหมดที่เผาผลาญไปจากการเดิน

สภาพอากาศ และอุณหภูมิตามตำแหน่งที่อยู่

หากคุณสวมใส่ realme Watch S Pro ขณะนอนหลับ ก็จะมีการบันทึกระยะเวลาทั้งหมดในการนอน รวมถึงเวลาเริ่มนอนหลับ จนถึงตื่นนอนให้ด้วยเช่นกัน

อัตราการเต้นของหัวใจ

และตัวควบคุมการเล่นเพลง

อีกทั้งยังสามารถควบคุมแอปพลิเคกล้องถ่ายภาพจาก นาฬิกาได้อีกด้วย

เมื่อกดปุ่มล่างที่อยู่ด้านข้างตัวเครื่อง จะเข้าสู่หน้า Sport Mode ที่มีกีฬาให้เลือกมากถึง 15 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น การเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ หรืออื่นๆ

เมื่อกดเลือกกิจกรรมแล้ว จะเริ่มการบันทึกข้อมูลต่างๆ ทันที ได้แก่ จำนวนก้าว (สำหรับการวิ่ง/เดิน), ระยะเวลาทั้งหมด, ระยะทาง, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความเร็วโดยเฉลี่ย และแคลอรี่ที่ใช้ไปทั้งหมด

สามารถเปิดการแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรเข้า

และการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่างๆ ได้พร้อมรองรับการแสดงผลเป็นภาษาไทย

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันแจ้งเตือนให้เคลื่อนไหว ร่างกาย หลังหยุดนิ่งเป็นเวลานาน

รวมถึงแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำตามระยะเวลาที่เรา ตั้งค่าไว้

การใช้งาน realme Watch S Pro ร่วมกับสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน realme Link

สิ่งที่ควรทำก่อนเริ่มใช้งาน realme Watch S Pro ก็คือติดตั้งแอปพลิเคชัน realme Link เพื่อให้สมาร์ทโฟนรู้จักกับ realme Watch S Pro นั่นเอง และสามารถปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ได้อย่างสะดวกมากขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน realme Link ได้ฟรีจากทั้งจาก Google Play Store โดยสามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟนทุกแบรนด์ ไม่ได้จำกัดเฉพาะแบรนด์ realme แต่อย่างใด (สำหรับสมาร์ทโฟน realme จะมีการติดตั้งแอปพลิเคชัน realme Link มาให้อยู่แล้ว) เพียงเป็นสมาร์ทโฟนที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lolipop ขึ้นไป และมีหน่วยความจำ RAM ขนาด 1.5 GB ขึ้นไป ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

นอกจากนี้อุปกรณ์จากระบบปฏิบัติการอื่นอย่าง iPhone ก็สามารถใช้งานร่วมกับ realme Watch S Pro ได้เช่นกัน และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน realme Link ได้ฟรีบน App Store ซึ่ง iPhone รุ่นที่ใช้งานได้นั้นต้องเป็นรุ่น iPhone 7 ขึ้นไป และรันอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 9.0 ขึ้นไป

เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชัน realme Link เรียบร้อยแล้ว ให้ทำการเปิด Bluetooth บนสมาร์ทโฟนเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อกับ realme Watch S Pro พร้อมกดเพิ่มอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ ซึ่งจะมีให้เลือกเพิ่มด้วยตนเอง หรือให้ค้นหาโดยอัตโนมัติ

อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องใช้เวลาค้นหากันเพียงครู่ เดียว และเมื่อผู้ใช้กดยืนยันการจับคู่กันก็เป็นอันเสร็จสิ้น

หน้าหลักของแอปพลิเคชัน realme Link มีดีไซน์เรียบง่าย พร้อมแสดงจำนวนแบตเตอรี่ของ realme Watch S Pro ไว้ด้านบนสุด ถัดลงมาเป็นการแสดงผลข้อมูลด้านสุขภาพ ได้แก่ จำนวนก้าว, การนอนหลับ, อัตราการเต้นของหัวใจ และบันทึกการออกกำลังกาย

สามารถตั้งค่าต่างๆ ของ realme Watch S Pro ได้ ตั้งแต่การเปลี่ยนหน้าจอการแสดงผลที่เมนู Face Gallery โดยมีให้เลือกใช้มากกว่า 100 รูปแบบ

เปิดการแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรเข้า รวมถึงจากแอปพลิเคชันต่างๆ

รวมถึงการแจ้งเตือนด้านสุขภาพด้วยฟังก์ชัน Get Up Reminder สำหรับแจ้งเตือนให้เคลื่อนไหวร่างกาย หลังหยุดนิ่งเป็นเวลานาน, แจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ และนาฬิกาปลุก

พร้อมฟังก์ชันการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ 24 ชั่วโมงโดยตัวนาฬิกาจะวัดเองโดยอัตโนมัติตามระยะเวลาที่ตั้งค่าไว้ (ทุก 5/10/20/30 นาที) พร้อมตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ ทั้งสูงเกิน หรือต่ำเกินไป

เปิด-ปิดการควบคุมแอปพลิเคชันเล่นเพลง และกล้องถ่ายภาพได้

รองรับฟังก์ชัน Find My Phone

ตั้งค่าให้แสดงสภาพอากาศ กับอุณหภูมิตามตำแหน่งที่อยู่ได้

สามารถตั้ง Goal จำนวนก้าวในแต่ละวันได้สูงสุดที่ 30,000 ก้าว

และ User Guide ข้อมูลการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ในเบื้องต้น

สรุปผลการทดสอบของ realme Watch S Pro

จากการทดสอบใช้งาน realme Watch S Pro แบบเจาะทุกฟีเจอร์ ก็พอจะกล่าวได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีราคาคุ้มค่าน่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง และเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หรือกำลังเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง ผสานกับตัวเครื่องมีความพรีเมียมด้วยวัสดุประเภทสแตนเลสสตีล พร้อมคุณสมบัติ การป้องกันน้ำตามมาตรฐาน 5ATM นั่นคือระดับลึกสุด 50 เมตร ที่สามารถสวมใส่ว่ายน้ำได้แบบสบายๆ อีกทั้งยังใช้งานง่ายด้วย หน้าจอระบบสัมผัส แบบสี AMOLED ขนาดใหญ่ 1.39 นิ้ว คมชัดระดับ 454x454 พิกเซล : 326 ppi ที่ให้การแสดงผลสีสันสดใส โดยมีแบตเตอรี่ความจุ 420 mAh ที่ทาง realme ระบุว่า สามารถ Standby ได้นานสูงสุด 14 วัน (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล) และมาพร้อมกับ แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก ที่สามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ได้ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

realme Watch S Pro มาพร้อมกับเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) แบบ PPG Optical เวอร์ชันอัปเกรดที่สามารถตรวจวัดได้ทุกๆ 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับมีความรวดเร็ว และแม่นยำกว่าในรุ่นก่อน และยังสามารถตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้อีกด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าการออกกำลังกายของเราเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมาพร้อม Sport Mode ที่มีรูปแบบการออกกำลังกาย 15 ประเภทให้เลือก รวมถึงระบบ Dual-Satellite GPS ความแม่นยำสูง ที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชันบันทึกเส้นทางได้เป็นอย่างดี ไปจนถึงรองรับการบันทึกพฤติกรรมการนอนหลับ และตัวช่วยการหายใจ กับการทำสมาธิ รวมถึงฟังก์ชันเกี่ยวกับสุขภาพโดยเฉพาะอย่าง การแจ้งเตือนให้เคลื่อนไหวร่างกาย หลังหยุดนิ่งเป็นเวลานาน และแจ้งเตือนให้ดื่มน้ำ นอกจากนี้สามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อมีสายโทรเข้า และจากแอปพลิเคชันต่างๆ ได้

realme Watch S Pro ได้รับการออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพ และรักการออกกำลังกายตัวจริง ด้วยความสามารถในการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ กับระดับออกซิเจนในเลือดในตลอดเวลา พร้อมบันทึกข้อมูลขณะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็น จำนวนแคลอรี่, เวลาทั้งหมดที่ใช้, ระยะทาง, ความเร็วเฉลี่ย และอื่นๆ ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตนเอง รวมถึงข้อมูลด้านสุขภาพอย่างพฤติกรรมการนอนได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพทั่วไป หรือไม่ได้เน้นออกกำลังเป็นหลัก ก็สามารถใช้งาน realme Watch S Pro ได้อย่างคุ้มค่าเช่นกัน โดย realme Watch S Pro สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ทุกแบรนด์ ไม่ได้สงวนสิทธิ์เฉพาะแบรนด์ realme แต่อย่างใด สำหรับสมาร์ทโฟน Android จะต้องใช้งานระบบปฏิบัติการเวอร์ชัน Android 5.0 Lollipop ขึ้นไป พร้อมมีหน่วยความจำแรม (RAM) ขนาดขั้นต่ำที่ 1.5GB ส่วนทางด้าน iPhone จากระบบ iOS เองก็รองรับการใช้งานร่วมกับ realme Watch S Pro ด้วยเช่นกัน แต่ต้องเป็นรุ่น iPhone 5 ขึ้นไป หรือระบบปฏิบัติการ iOS 9.0 ขึ้นไป เพียงแต่มีข้อจำกัดตรงที่ไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันแบบ 3rd Party ที่นิยมใช้งานกันได้นั่นเอง เช่น Strava, Endomondo และอื่นๆ

realme Watch S Pro เปิดราคาในไทยอย่างเป็นทางการแล้วที่ 4,999 บาท โดยจะมีช่วง Flash Sale พร้อมราคาพิเศษเพียง 3,999 บาท เฉพาะวันที่ 11, 16 และ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เท่านั้น ผ่านช่องทางออนไลน์ที่ Lazada , Shopee และ Thisshop โดยจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไปที่ร้าน realme Brand Shop, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และช่องทางออนไลน์ หรือท่านใดยังตัดสินใจไม่ได้ ก็สามารถแวะไปลองเล่นลองสัมผัสกับตัวจริงของ realme Watch S Pro ที่ร้าน realme Brand Shop กันก่อนได้เช่นกัน

สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณ realme (Thailand) ที่ให้ความไว้วางใจ ส่งสมาร์ทวอทช์ realme Watch S Pro มาให้กับทางทีมงาน Thaimobilecenter ได้รีวิวให้ทุกท่านรับชมกัน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันได้ใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดีค่ะ

จุดเด่นของ realme Watch S Pro

- ตัวเรือนมีดีไซน์สวยพรีเมียมเรียบหรู โดยผลิตจากโลหะสแตนเลสสตีล SUS316L พร้อมเทคโนโลยีการเคลือบแบบ  PVD+AF และหน้าจอครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass - ตัวเรือนมีคุณสมบัติของการป้องกันน้ำ และป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน 5ATM โดยรองรับแรงดันน้ำสูงสุดที่ระดับความลึก 50 เมตร และสามารถสวมใส่ว่ายน้ำได้ - จอแสดงผลระบบสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 454x454 พิกเซล : 326 ppi พร้อมรองรับฟังก์ชัน Always-On-Display สำหรับแสดงวันที่ และเวลา ขณะที่หน้าจอดับ - รองรับการเปลี่ยน Watch Faces มากกว่า 100 รูปแบบ - หน่วยประมวลผลแบบคู่ (Dual Processor) - รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth 5.0 - รองรับการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ AIoT - เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) รองรับการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ PPG Optical เวอร์ชันอัปเกรด - เซนเซอร์ตรวจวัดระดับออกซิเจนในเลือด - เซนเซอร์ 6-Axis Accelerometer, Geomagnetic Sensor, Gyroscope และ Wearing Monitoring - เทคโนโลยี Dual-Satellite GPS - รองรับการแสดงข้อมูลแจ้งเตือนของข้อความ, โทรศัพท์, อีเมล, นัดหมาย และแอปพลิเคชันอื่นๆ - รองรับรูปแบบของการออกกำลังกายที่หลากหลายถึง 15 ประเภท (Outdoor Run, Indoor Run, Outdoor Walk, Indoor Walk, Outdoor Cycling, Spinning, Hiking, Swimming, Basketball, Yoga, Rowing, Elliptical, Cricket, Strength Training และ Free Workout) - แบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 420 mAh สามารถ Standby ได้นานสูงสุด 14 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง - แท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับ 0-100% ได้ในเวลา 2 ชั่วโมง - รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lolipop ขึ้นไป และมีหน่วยความจำแรม (RAM) ตั้งแต่ขนาด 1.5 GB ขึ้นไป - รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ iOS โดยต้องเป็นรุ่น iPhone 7 ขึ้นไป หรือใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 9.0 ขึ้นไป - มีราคา 4,999 บาท ถือว่ามีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคุณสมบัติโดยรวม

Leave a Comment